กรรมการสิทธิ์ ส่งรองเลขาฯ แจ้งความกองปราบ หลังพบมือมืดทำใบปลิวและปลอมใบเสร็จกุจ้างม็อบค้านทำสัมปทานเหมืองแร่ลำปาง
วันนี้ (2 พ.ย.) สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ออกเอกสารข่าวชี้แจงกรณีพบมีการปลอมใบเสร็จรับเงินของสำนักงาน กสม. แล้วเผยแพร่เอกสารปลอมดังกล่าวที่มีข้อความเป็นเท็จระบุ สำนักงาน กสม. จ่ายเงินค่าประสานงานมวลชนและค่าเดินทางให้กับชาวบ้านกลุ่มรักษ์บ้านแหง อ.งาว จ.ลำปาง สำหรับใช้ในการเคลื่อนไหวเรียกร้องเกี่ยวกับเรื่องที่ชาวบ้านกลุ่มดังกล่าวร้องเรียนขอให้ กสม. ตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนกรณีหน่วยงานรัฐอนุญาตให้บริษัทเอกชนเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่งาวซ้ายเพื่อ การทำเหมืองแร่ลิกไนต์ที่ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรป่าไม้ของชุมชนในพื้นที่
ซึ่ง กสม. ได้รับทราบข้อมูล เมื่อวันที่ 29 ต.ค. ที่ผ่านมา และเห็นสมควรดำเนินคดีอาญากับผู้กระทำผิดให้ถึงที่สุด โดยในวันที่ 31 ต.ค. นางภิรมย์ ศรีประเสริฐ รองเลขาธิการรักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ณ กองบังคับการปราบปราม ให้ดำเนินคดีอาญากับผู้ปลอมใบเสร็จรับเงินในความผิดฐานปลอมเอกสารราชการ และฐานใช้เอกสารปลอมดังกล่าว ทั้งนี้ สำนักงาน กสม. ตลอดจนคณะอนุกรรมการ หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องจะได้ให้ความร่วมมือในการดำเนินการ และติดตามผลการดำเนินคดีอาญาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง และหากมีผลคืบหน้าการดำเนินคดีก็จะมีการรายงานให้สังคมรับทราบต่อไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 29 ต.ค. นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชน ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า มีการเผยแพร่ใบปลิวข้อความและใบเสร็จรับเงินในพื้นที่ จ.ลำปาง ระบุ กรรมการสิทธิ์จ่ายเงินให้กับชาวบ้านตำบลบ้านแหง จ.ลำปาง เป็นค่าประสานงานมวลชนจำนวน 12,000 บาท และค่าเดินทางให้กับชาวบ้านกลุ่มรักษ์บ้านแหงใช้เดินทางไป อ.แม่เมาะ จำนวน 150 คน เป็นเงิน 75,000 บาท โดยใบเสร็จมีการระบุชื่อบุคคลชัดเจน ซึ่งเมื่อตรวจสอบชื่อดังกล่าวกับเจ้าหน้าที่ในสำนักงาน กสม. แล้วไม่พบว่ามีชื่อคนดังกล่าว การกระทำนี้ถือว่าเป็นการใส่ความทำให้สำนักงานเกิดความเสื่อมเสียชื่อเสีย เป็นการกุข่าวทำลายความน่าเชื่อถือของ กสม. ยิ่งขณะนี้มีกระแสยุบ กสม. ด้วยก็ไม่รู้ว่าเป็นการสร้างกระแสหรือไม่