เกาะกระแส
00 ได้เห็นปฏิริยาไม่แฮปปี้ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช.และนายกฯกับการเกิดขึ้นของสถาบันปฏิรูปประเทศ(สปท.) ขึ้นมาเคียงคู่กับ สภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) โดยถึงกับขู่กลายๆทำนองว่า"ขัดต่อกม."พร้อมทั้งสั่งให้ "เนติบริกร"วิษณุ เครืองาม ไปหาช่องทางสกัดกั้น ความหมายเท่าที่ฟังโดยรวมๆออกมาแบบนั้นจริงๆ ก็ต้องบอกว่าเป็นท่าทีไม่สวยจริงๆ สำหรับผู้นำที่บอกว่ากำลัง"นำทางปฏิรูปบ้านเมือง"
00 เชื่อว่าหลายคนคงเสียความรู้สึกกับระบบคิดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แบบนี้ เพราะแทนที่จะเปิดกว้างให้มีการเสนอความเห็นเสนอความคิดที่หลากหลาย ดังนั้นการเกิดขึ้นของ สปท.ที่เป็น "สภากระจก"ที่สะท้อนการทำงานเคียงคู่กันไป ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีและควรส่งเสริมสนับสนุนด้วยซ้ำไป อีกด้านหนึ่งทำให้เริ่มเข้าใจ พล.อ.ประยุทธ์ มากขึ้นเช่นเดียวกันว่า "ใจกว้าง"และมีมุมมองในด้านการปฏิรูปแบบไหน มองเห็นต่างเป็นความขัดแย้ง และจะว่าไปแล้วสมาชิก สปท.หลายคนก็เป็นสมาชิก สปช.เพียงแต่ว่าคนพวกนี้อาจสั่งซ้ายหันขวาหันไม่ได้เท่านั้น หรือว่าตั้งคนพวกนี้มาเพื่อให้เห็นว่ามีความหลากหลาย สร้างความชอบธรรมให้การแสดง "ปาหี่"หรือเปล่า เริ่มเขวคิดไปแบบนี้บ้างแล้ว
00 เรื่องพลังงานยังเป็นประเด็นอ่อนไหวและพิสูจน์ความศรัทธาต่อผู้นำอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าจะรักษาเอาไว้ได้อย่างคงเส้นคงวาได้แค่ไหน หลังจากเริ่มได้กลิ่นทะแม่งจากการไฟเขียวให้เปิดสัมปทานสำรวจปิโตรเลียมรอบใหม่คือรอบที่ 21 อีก 29 แปลง ทั้งบนบกและในทะเล สร้างความกังขาว่านี่คือการ "มุบมิบ"รวบรัดผลประโยชน์หรือเปล่า มีการตั้งคำถามว่าทั้งที่รู้ว่าตัวเองเป็นรัฐบาลชั่วคราวแบบเฉพาะกิจ ทำไมไม่รอ อย่างน้อยก็น่าจะรอผลสรุปจากสภาปฏิรูปในด้านพลังงานก่อนว่าจะตกผลึกออกมาแบบไหน ทั้งที่พอจะเดาออกล่วงหน้าไม่เกินความคาดหมาย เพราะหากลองไล่ชื่อกันดูจะพบว่าแต่ละคนที่เข้าไปที่เข้าไปปฏิรูปด้านพลังงานล้วนเป็นคนของรัฐ กระทรวงพลังงาน และแนบแน่นอยู่กับ ปตท.เกือบทั้งสิ้น แต่ก็ยังรอไม่ได้
00 รมว.พลังงาน ณรงค์ชัย อัครเศรณี อ้างว่าสาเหตุที่รอไม่ได้ต้องรีบอนุมัติให้เปิดสัมปทานสำรวจปิโตรเลียมรอบใหม่โดยไม่รอ สปช.ว่าเพราะตัวเองมีเวลาทำงานในฐานะรัฐบาลมีอายุแค่ 1 ปี พูดแบบนี้ทำให้สงสัยไปกันใหญ่ว่าในเมื่อมีเวลาจำกัดแบบนี้ทำไมถึงได้รีบตัดสินนำผลประโยชน์ของคนทั้งชาติไปผูกพันถึง 36 ปี ทำไมไม่ฟังคนไทยคนอื่นบ้าง คนไทยที่ไม่ใช่คนของกระทรวงพลังงาน คนของปตท.รวมทั้งคนของบริษัทพลังงานข้ามชาติบ้างละ !!
00 หากไม่มีฟ้าผ่าแบบดินแยกถล่มทลายก็ต้องแสดงความยินดีกับ สุวณา สุวรรณจูฑะ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ที่จะมานั่งเก้าอี้อธิบดีหญิงคนแรกของ ดีเอสไอ ที่ต้องแสดงความยินดีเพราะถือว่าเธอ"เป็นคนใน"เป็นลูกหม้อแท้ ที่ได้เติบโตตามสายงาน เป็นการเสริมสร้างกำลังใจ และสร้างประสิทธิภาพการทำงานในหน่วยงาน ไม่ใช่ดึงเอาตำรวจพวกใครก็ไม่รู้ข้ามห้วยมั่วๆมานั่งเหมือนอย่างที่ผ่านมา จนทำท่าเป็น "สาขาสตช."ไปแล้ว ขณะเดียวกันหากไม่มีการพลิกเป็นอย่างอื่นก็ต้องชื่นชม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรมที่ทำในสิ่งที่ถูกต้องที่"ขวางคนนอก"ส่งเสริมคนในขึ้นมา แม้ว่าที่ผ่านมาสังคมแทบอ้วกกับคนในอย่าง ธาริต เพ็งดิษฐ์ มาแล้ว แต่ถึงอย่างไรหลักการ และสายการบังคับบัญชาต้องมาก่อน อย่าโกรธนะ"พี่ใหญ่" !!