“ประยุทธ์” เรียก รมว.พลังงาน พร้อมปลัดถกเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบ 21 “อารีพงษ์” แจงไม่ได้รีบ ทำมาตั้งแต่ปี 53 อ้างแค่ยื่นสิทธิ์ขอสำรวจไม่ใช่ให้สัมปทาน คาดใช้เวลา 8 เดือน โวอำนาจ ครม.สั่ง สปช.แค่เสนอข้อมูลให้กระทรวง ขู่ไทยวิกฤตพลังงาน ใช้ก๊าซสูง ถ้านำเข้าจะกระทบค่าไฟ ยิ่งไม่เปิดสัมปทานยิ่งเสี่ยง ยันใต้ดินไม่ได้มีก๊าซมาก
วันนี้ (28 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล มีรายงานว่า ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้เรียกหารือนอกรอบกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 เช่น นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน นายอารีพงษ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน นายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน ที่ห้องรับรองภายในตึกสันติไมตรี
โดยภายหลังหารือ นายอารีพงษ์ และนายคุรุจิต ร่วมให้ข้อมูลโดยยืนยันว่าการดำเนินการ การเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21ไม่ได้ทำไปด้วยความเร่งรีบ เพราะมีการเตรียมการมาตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนการยื่นสิทธิ์เพื่อขอสำรวจ ยังไม่ใช่การให้สัมปทาน คาดว่าต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 8 เดือน ทั้งนี้ การดำเนินการถือเป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่หากสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) มีข้อเสนอเพิ่มเติมก็สามารถส่งต่อให้กระทรวงพลังงานได้ แต่ข้อเสนอเหล่านั้น ควรอยู่บนข้อมูลที่ถูกต้อง
ปลัดกระทรวงพลังงานกล่าวว่า ส่วนสาเหตุที่กระทรวงพลังงานมองว่าไทยเข้าสู่วิกฤตการใช้พลังงานเนื่องจากมีสถิติการใช้ก๊าซธรรมชาติสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ก๊าซธรรมชาติภายในประเทศกำลังลดน้อยลง การนำเข้าก๊าซธรรมชาติจะทำให้ต้นทุนก๊าซสูงขึ้นและอาจส่งผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าในประเทศ หากไม่มีการเปิดสัมปทานจะทำให้ประเทศไทยมีความเสี่ยงเรื่องพลังงานมากขึ้น ระบบสัมปทานทำให้รัฐได้ภาษีน้อยกว่าการแบ่งปันผลผลิต แต่ทุกฝ่ายก็ต้องยอมรับว่าไทยไม่ได้มีพื้นที่ทางธรณีวิทยาที่มีก๊าซจำนวนมากเหมือนประเทศเพื่อนบ้าน และทั้งสองระบบนี้ก็ไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก เพราะทั้งหมดขึ้นอยู่กับออกแบบการจัดเก็บภาษีของแต่ละประเทศ ยืนยันว่าการทำงานทั้งหมดพิจารณาด้วยความรอบคอบและดำเนินไปเพื่อประโยชน์ของประเทศ
