กระทรวงการต่างประเทศ เผยไทยได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาบริหารสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ปี 58-61
วันนี้ (28 ต.ค.) กระทรวงการต่างประเทศ ได้เผยแพร่ผลการประชุมใหญ่ผู้แทนผู้มีอำนาจเต็ม สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU Plenipotentiary Conference) ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองปูซาน สาธารณรัฐเกาหลีใต้ ได้จัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาบริหารของสหภาพฯ (ITU Council) ขึ้น ประเทศไทยได้รับการเลือกตั้งในตำแหน่งดังกล่าว ในวาระการดำรงตำแหน่งปี ค.ศ. 2015-2018
ที่ประชุมฯ ได้จัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาบริหาร สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU Council) โดยแบ่งการคัดเลือกเป็นกลุ่มภูมิภาคต่างๆ 5 กลุ่ม ประเทศไทยได้ลงสมัครเข้ารับการเลือกตั้งในโควตาของกลุ่ม E (Asia/Australasia) ซึ่งมีตำแหน่งว่าง 13 ที่นั่ง มีประเทศลงสมัครเข้ารับการเลือกตั้งทั้งสิ้นถึง 18 ประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งสนับสนุนกระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสารมาอย่างต่อเนื่อง และได้ดำเนินการอย่างเข้มข้นยิ่งขึ้นในระหว่างการประชุมฯ จนในที่สุด ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 27ตุลาคม 2557 ที่ประชุมได้ลงคะแนนเสียงเลือกประเทศไทยให้เข้าเป็นหนึ่งในสมาชิกของ ITU Council (ประเทศไทยได้รับการสนับสนุนจาก 108 ประเทศ ได้รับคะแนนเป็นอันดับ 11 ของภูมิภาค) นอกจากไทยแล้วยังมีจีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย คูเวต สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ออสเตรเลีย ซาอุดีอาระเบีย บังกลาเทศ ฟิลิปปินส์ อินเดีย และปากีสถาน ที่ได้รับการเลือกตั้งจากภูมิภาคนี้
ไทยเข้าเป็นสมาชิก ITU มาตั้งแต่ปี 2426 นับจนถึงปัจจุบัน เป็นเวลากว่า 130 ปี ที่ไทยแสดงบทบาทอย่างแข็งขันในเวทีการประชุมต่างๆ และได้รับคัดเลือกเป็นให้เป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมระดับนานาชาติของ ITU หลายครั้ง นอกจากนี้ ไทยยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานภูมิภาคของ ITU มาตั้งแต่ปี 2535 ด้วย
อนึ่ง คณะผู้แทนไทยที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสาร เอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล คณะเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสาร ซึ่งได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาสื่อต่างประเทศอ้างว่าประเทศไทยพลาดที่นั่งคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หลังจากการลงมติของประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติที่นครนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2557 โดยประเทศที่ได้ที่นั่งในโควตา 4 ที่นั่งของภูมิภาค ที่ผ่านมาเอเชีย-แปซิฟิก คือ บังกลาเทศ อินเดีย อินโดนีเซีย และกาตาร์ โดยมีวาระการดำรงตำแหน่งสองปี เริ่มในปี 2558 ก่อนหน้านี้กลุ่มสิทธิมนุษยชนหลายกลุ่มทั้งในและต่างประเทศเรียกร้องให้รัฐบาลไทยและคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติทบทวนเรื่องสิทธิมนุษยชนในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรยกเลิกกฎอัยการศึก ยกเลิกการปิดกั้นสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนและประชาชนในการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ทั้งนี้ประเทศไทยเคยได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2553 ในวาระปี 2553-2556 โดยในครั้งนั้นได้รับคะแนน 182 เสียงเป็นอันดับ 2 จาก 14 ประเทศ
วันนี้ (28 ต.ค.) กระทรวงการต่างประเทศ ได้เผยแพร่ผลการประชุมใหญ่ผู้แทนผู้มีอำนาจเต็ม สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU Plenipotentiary Conference) ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองปูซาน สาธารณรัฐเกาหลีใต้ ได้จัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาบริหารของสหภาพฯ (ITU Council) ขึ้น ประเทศไทยได้รับการเลือกตั้งในตำแหน่งดังกล่าว ในวาระการดำรงตำแหน่งปี ค.ศ. 2015-2018
ที่ประชุมฯ ได้จัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาบริหาร สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU Council) โดยแบ่งการคัดเลือกเป็นกลุ่มภูมิภาคต่างๆ 5 กลุ่ม ประเทศไทยได้ลงสมัครเข้ารับการเลือกตั้งในโควตาของกลุ่ม E (Asia/Australasia) ซึ่งมีตำแหน่งว่าง 13 ที่นั่ง มีประเทศลงสมัครเข้ารับการเลือกตั้งทั้งสิ้นถึง 18 ประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งสนับสนุนกระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสารมาอย่างต่อเนื่อง และได้ดำเนินการอย่างเข้มข้นยิ่งขึ้นในระหว่างการประชุมฯ จนในที่สุด ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 27ตุลาคม 2557 ที่ประชุมได้ลงคะแนนเสียงเลือกประเทศไทยให้เข้าเป็นหนึ่งในสมาชิกของ ITU Council (ประเทศไทยได้รับการสนับสนุนจาก 108 ประเทศ ได้รับคะแนนเป็นอันดับ 11 ของภูมิภาค) นอกจากไทยแล้วยังมีจีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย คูเวต สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ออสเตรเลีย ซาอุดีอาระเบีย บังกลาเทศ ฟิลิปปินส์ อินเดีย และปากีสถาน ที่ได้รับการเลือกตั้งจากภูมิภาคนี้
ไทยเข้าเป็นสมาชิก ITU มาตั้งแต่ปี 2426 นับจนถึงปัจจุบัน เป็นเวลากว่า 130 ปี ที่ไทยแสดงบทบาทอย่างแข็งขันในเวทีการประชุมต่างๆ และได้รับคัดเลือกเป็นให้เป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมระดับนานาชาติของ ITU หลายครั้ง นอกจากนี้ ไทยยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานภูมิภาคของ ITU มาตั้งแต่ปี 2535 ด้วย
อนึ่ง คณะผู้แทนไทยที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสาร เอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล คณะเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสาร ซึ่งได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาสื่อต่างประเทศอ้างว่าประเทศไทยพลาดที่นั่งคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หลังจากการลงมติของประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติที่นครนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2557 โดยประเทศที่ได้ที่นั่งในโควตา 4 ที่นั่งของภูมิภาค ที่ผ่านมาเอเชีย-แปซิฟิก คือ บังกลาเทศ อินเดีย อินโดนีเซีย และกาตาร์ โดยมีวาระการดำรงตำแหน่งสองปี เริ่มในปี 2558 ก่อนหน้านี้กลุ่มสิทธิมนุษยชนหลายกลุ่มทั้งในและต่างประเทศเรียกร้องให้รัฐบาลไทยและคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติทบทวนเรื่องสิทธิมนุษยชนในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรยกเลิกกฎอัยการศึก ยกเลิกการปิดกั้นสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนและประชาชนในการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ทั้งนี้ประเทศไทยเคยได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2553 ในวาระปี 2553-2556 โดยในครั้งนั้นได้รับคะแนน 182 เสียงเป็นอันดับ 2 จาก 14 ประเทศ
