ASTVผู้จัดการออนไลน์ - สำนักข่าวอิศรา แกะรอยเว็บไซต์ “ไทยวอยซ์มีเดีย” ต้นตอบทสัมภาษณ์ “ยุวดี ธัญญสิริ” ซัดนายกฯ รุนแรง พบ “จอม เพชรประดับ” หนึ่งในหัวหอก กระบอกเสียงเสื้อแดง สะพัดสื่อการเมืองคาดไม่พอใจ “บิ๊กยักษ์” สามีไร้เก้าอี้หลัง คสช. อีกทั้งหนุนเสื้อแดง
วันนี้ (20 ต.ค.) ศูนย์ข่าวสืบสวน สำนักข่าวอิศรา ได้ตีพิมพ์รายงานที่ชื่อว่า แกะรอย"ไทยวอยซ์ฯ" ต้นต่อบทสัมภาษณ์ปริศนา “เจ๊ยุ” ซัด “บิ๊กตู่” - “จอม” จัดให้? โดยเปิดเผยถึงกรณีที่เว็บไซต์ไทยวอยซ์มีเดีย ด็อท คอม ตีพิมพ์การให้สัมภาษณ์ของ นางยุวดี ธัญญสิริ หรือ เจ๊ยุ ผู้สื่อข่าวอาวุโสประจำทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อย่างรุนแรง
ภายหลัง นางยุวดี ได้ออกมายืนยันกับสำนักข่าวเนชั่น ว่า ไม่เคยให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ดังกล่าว รวมทั้งไม่เคยรู้จักใครที่ทำเว็บไซต์ดังกล่าวด้วย และโดยปกติเวลาที่ให้สัมภาษณ์จะมีนักข่าวของสำนักนั้นๆ ติดต่อเข้ามาที่ตนโดยตรงว่าจะขอสัมภาษณ์เรื่องใด แล้วจะตัดสินใจว่าจะให้สัมภาษณ์หรือไม่ “ถ้าให้สัมภาษณ์ก็จะนั่งให้สัมภาษณ์อย่างเป็นกิจจะลักษณะ ดังนั้น เว็บไซต์ดังกล่าวไม่เคยติดต่อเข้ามาขอเพราะตนไม่ต้องการเป็นข่าว หรือต้องการชื่อเสียง ซึ่งกรณีที่มีการนำบทสัมภาษณ์นั้นไปลงเผยแพร่ตนก็ไม่ทราบว่านำมาจากไหน”
“มีพี่น้องวงการสื่อมวลชนโทร.มาเล่าให้ฟังว่ามีบทสัมภาษณ์ที่มีชื่อตน ก็ตกใจและยืนยันกลับไปว่าไม่เคยให้สัมภาษณ์ อย่างไรก็ตามตนไม่คิดที่จะฟ้องร้องอะไรกับเว็บดังกล่าว และยืนยันด้วยว่าสื่อไม่ใช่คู่ขัดแย้งกับฝ่ายใด แต่สื่อมีหน้าที่ตรวจสอบทุกฝ่ายให้สังคมได้รับทราบข้อเท็จจริง” นางยุวดี กล่าว
ทั้งนี้ สำนักข่าวอิศราได้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่า เว็บไซต์ไทยวอยซ์มีเดีย ด็อท คอม เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ส.ค. โดยเผยแพร่บทสัมภาษณ์ของ น.ส.กฤชสุดา คุณาแสน หรือ เปิ้ล สหายสุดซอย นักเคลื่อนไหวกลุ่มคนเสื้อแดง เกี่ยวกับการปฏิบัติตัวของทหารในระหว่างที่ถูกเรียกเข้ารายงานตัวจาก คสช. หลังรัฐประหารในประเทศไทย โดยมี นายจอม เพชรประดับ พิธีกรรายการข่าวชื่อดัง ที่ประกาศยุติการทำหน้าที่สื่อมวลชนในประเทศอย่างเป็นทางการ หลังเหตุการณ์รัฐประหาร และเดินทางไปอยู่ในสหรัฐอเมริกา เป็นผู้ดำเนินการสัมภาษณ์
ทั้งนี้ ข้อมูลจากกลุ่มคนเสื้อแดง ในสหรัฐฯ ใช้ชื่อว่า เรด ยูเอสเอ ได้โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 30 ส.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่า แกนนำคนสำคัญของกลุ่มเรด ยูเอสเอ ได้แจ้งจดทะเบียนโดเมนเนมชื่อว่า thaivoicemedia.com ภายหลังการประชุมครั้งสำคัญครั้งหนึ่ง ที่ผู้เข้าร่วมประชุมมีมติเห็นตรงกัน ที่จะก่อตั้งสื่อนี้ขึ้นมาเป็นกระบอกเสียงภายใต้การกำกับดูแลของ นายจอม พร้อมจดทะเบียน .net, .org และ .info รวมเข้าไว้ด้วย เพื่อป้องกันผู้อื่นนำเอาชื่อ thaivoicemedia ไปใช้
การดำเนินการสร้าง web site เป็นไปอย่างรวดเร็วด้วยความช่วยเหลือจากนายริชาร์ด จากเว็บไซต์ อินเทอร์เน็ต ทู ฟรีดอม (Internet To Freedom) และจากการประสานงานอย่างใกล้ชิดของแกนนำเรด ยูเอสเอ เว็บใช้โครงสร้างเดียวกันกับโครงสร้างเวปของทำเนียบขาว (White House) ที่ยากต่อการบล็อก ซึ่งจะเป็นแหล่งรวมข่าวและคลิปทะยอยออกเผยแพร่ เช่น คลิปสัมภาษณ์ นายใจ อึ้งภากรณ์, นางจรรยา ยิ้มประเสริฐ และ ม.ล.มิ่งมงคล โสณกุล หรือ เต่านา
“องค์การเสรีไทยในความคิดของบางคนอาจดูเงียบหงอย สิ้นเรี่ยวแรงในการต่อสู้ แต่จะมีใครสักคนเคยใคร่ครวญและคิดทบทวนดูบ้างไหมว่าบุคคลที่ไม่มีพาสปอร์ตเป็นคนจรจัดของโลกสามารถเดินทางเข้ามายังประเทศสหรัฐอเมริกาได้อย่างไร Home Land Security ที่เข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยของชาวอเมริกันปล่อยให้บุคคลระดับแกนนำขององค์การเสรีไทยที่มีหมายจับติดตัวมาเดินทางเข้าประเทศได้อย่างไร......ฯลฯ” ข้อมูลจากกลุ่ม เรด ยูเอสเอ ระบุ
อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ thaivoicemedia.com พบว่าถูกระงับโดยกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ไปแล้ว เนื่องจากมีเนื้อหาและข้อมูลที่ไม่เหมาะสม ขณะที่แฟนเพจ “Thai Voice Media” ในเฟซบุ๊กยังคงอยู่ไม่ได้ถูกปิดไป พร้อมระบุข้อมูลว่า “เสียงไทยเพื่อสิทธิเสรีภาพของคนไทย” ช่องทางใหม่เพื่อนำเสนอข่าวสารที่ถูกปิดกั้นด้วยอำนาจเผด็จการ เจาะลึกทุกข้อมูล ยืนยันเป็นสื่อยึดถือหลักการสิทธิ เสรีภาพ เสมอภาค ตามระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ซึ่งเผยแพร่ข้อมูลล่าสุด เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมา เป็นบทสัมภาษณ์ นายนิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการ ที่ยืนยันว่าปฎิรูปประเทศโดยทหารไม่สำเร็จ ซึ่งมีนายจอมเป็นผู้สัมภาษณ์
สำนักข่าวอิศรายังตั้งคำถามอีกกว่า หากนางยุวดี ผู้สื่อข่าวอาวุโสประจำทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า ไม่เคยให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ไทยวอยซ์มีเดีย ด็อท คอม แต่อย่างใด คนเดียวที่จะไขปริศนาคำตอบทั้งหมดของเรื่องนี้ได้ ณ วินาทีนี้ คงมีแค่คนเดียวคือนายจอม ส่วนเหตุผลว่าทำไมต้องทำแบบนี้ ทำไปเพื่อวัตถุประสงค์ ทุกอย่างมันมีคำตอบที่ชัดเจนในตัวของมันอยู่แล้ว โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานองค์ประกอบการทำข่าวเบื้องต้น “5W 1H” คือ ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ ทำไม และ อย่างไร และที่สำคัญที่สุด ใครเป็นเจ้าของเว็บไซต์ที่เรียกตัวเองว่าสื่อแห่งนี้
อีกด้านหนึ่ง มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่สื่อมวลชนสายการเมืองว่า เหตุที่ น.ส.ยุวดี มีปฏิกิริยาดังกล่าว เนื่องจากเป็นสื่อมวลชนที่ให้การสนับสนุนกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง อีกทั้งไม่พอใจที่ พล.อ.สิริชัย ธัญญศิริ สามีของนางยุวดี ไม่ได้รับตำแหน่งใดๆ หลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าควบคุมอำนาจการปกครอง
สำหรับ พล.อ.สิริชัย ธัญญศิริ หรือ “บิ๊กยักษ์” ได้รับการแต่งตั้งเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม ระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 48 - 30 ก.ย. 49 ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการภายหลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 49 เพียงไม่กี่วัน โดย พล.อ.สิริชัย เป็นเตรียมทหารรุ่น 4 และสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) รุ่น 15 ได้รับการแต่งตั้งทำหน้าที่ในตำแหน่งสำคัญๆ ภายในกองทัพหลายตำแหน่ง ทั้งฝ่ายยุทธการกองทัพภาคที่ 2 สู้รบกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (ผกค.) อยู่ที่ จ.สกลนคร นานถึง 13 ปี จนได้เป็นผู้อำนวยการกองยุทธการในปี 2531 มีบทบาททำให้ ผกค.มอบตัวจำนวนมาก ก่อนได้เป็นเจ้ากรมสรรพาวุธ ตามมาด้วยผู้ช่วยเสนาธิการทหารบก (ฝ่ายยุทธการ) รองเสนาธิการทหารบก ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (ผช.ผบ.ทบ.) และ รอง ผบ.ทบ.ตามลำดับ ในยุคที่มี พล.อ ชัยสิทธ์ ชินวัตร เป็น ผบ.ทบ.
ในการโยกย้ายประจำปี 47 พล.อ.สิริชัย ถูกโยกย้ายพ้นไลน์กองทัพบกไปเป็น รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด (รอง ผบ.สส.) โดยขณะนั้นรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ได้มอบหมายให้ พล.อ.สิริชัย ธัญญสิริ เป็นผู้อำนวยการกองอำนวยการเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้ (ผอ.สสส.จชต.) ขึ้นตรงกับนายกฯ รับผิดชอบการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ด้วย
จากนั้นในการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี 48 พล.อ.สิริชัย ซึ่งดำรงตำแหน่งรอง ผบ.สส. หวังที่จะได้ข้ามห้วยกลับไปนั่งตำแหน่ง ผบ.ทบ. แต่ก็ไม่สมหวัง อีกทั้งยังพลาดตำแหน่ง ผบ.สส. ให้แก่ พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ เตรียมทหารรุ่น 5 (ตท.5) ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของ พล.อ.ชัยสิทธิ์ อีกด้วย สุดท้าย พล.อ.สิริชัย จึงได้รับตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นการปลอบใจ
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า พล.อ.สิริชัย ซึ่งเกษียณอายุราชการไปไม่นาน กลับไม่ได้รับการแต่งตั้งตำแหน่งใดๆเลยในยุค คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยเฉพาะในส่วนของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีนายทหารระดับสูงทั้งในอดีตและปัจจุบันได้รับแต่งตั้งเป็น สนช.มากกว่าครึ่ง ซึ่งระดับอดีตปลัดกระทรวงกลาโหมได้รับการแต่งตั้งด้วย ได้แก่ พล.อ.กิตติพงษ์ เกษโกวิท พล.อ.อู๊ด เบื้องบน หรือกระทั่ง พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ยังได้รับการแต่งตั้งเป็น สนช.
นอกจากนี้ ยังอดีตนายทหารระดับสูงที่เป็น สนช. อีกหลายราย อาทิ พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ อดีต ผบ.สส. พล.อ.คณิต สาพิทักษ์ อดีตประธานที่ปรึกษากลาโหม พล.อ.จิรพงศ์ วรรณรัตน์ อดีตที่ปรึกษากองทัพบก และ พล.อ.จีระศักดิ์ ชมประสพ อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นต้น