“ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ” เปิดโครงการสานใจไทยสู่ใจใต้ รุ่น 22 หวังเยาวชนรู้จักความเป็นไทย ได้รับความเป็นธรรม และนำสู่ประเทศ ภูมิใจที่ทุกคนช่วยโครงการ ขอทุกฝ่ายช่วยดีแลบ้านเมืองให้สงบ ไม่ทราบวิธีแก้ไฟใต้ของรัฐ ไม่มีอะไรแนะนำ “ประยุทธ์” บอกพูดไปแล้วแต่สื่อไม่รู้เอง
วันนี้ (16 ต.ค.) ที่สโมสรทหารบก เทเวศร์ เมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 22 โดยมี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ผบ.ทบ. พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะรอง ผบ.สส. พล.ร.อ.พจนา เผือกผ่อง รอง ผบ.ทร. พล.อ.อ.อานนท์ จารยะพันธ์ รอง ผบ.ทอ. และพล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ รอง ผบ.ตร. นายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมด้วยคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่จาก 3 เหล่าทัพ รวมถึงหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ มาร่วมงานอย่างคึกคัก
โดยในปีนี้มีเยาวชนเข้าร่วมโครงการฯ 240 คนจาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จ.ยะลา จ.ปัตตานี จ.นราธิวาส จ.สงขลา และจ.สตูล ไปใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ใน 10 จังหวัดภาคกลาง เพื่อให้เยาวชนได้เรียนรู้วิถีชีวิต การประกอบอาชีพ ตลอดจนการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ระหว่างวันที่ 16-31 ต.ค. 2557 นอกจากนี้ เยาวชนจะได้เดินทางไปเข้าค่ายสิ่งแวดล้อมที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ รวมถึงทัศนศึกษา เรือหลวงจักรีนฤเบศร์ สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล ม.บูรพาและค่ายการเรียนรู้เปิดโลกวิทยาศาสตร์
ทั้งนี้ พล.อ.เปรมกล่าวให้โอวาทตอนหนึ่งว่า มีความภาคภูมิใจ และชื่นใจมากที่มีโอกาสได้ทำโครงการนี้ แล้ววันนี้ก็มีโครงการนี้อีกครั้งจาก 21 รุ่นที่ผ่านมา ตนได้ขึ้นมาพูดบนเวทีใน 2 เรื่อง เพื่อสอนลูกหลานที่มาจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือเรื่องความเป็นไทยและความเป็นธรรม ซึ่งตนจะไม่ลงรายละเอียด เพราะคิดว่าเมื่อเด็กไปอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ และพวกเราไปเยี่ยมก็จะไปสอนเด็กให้เข้าใจว่า ประเทศไทยพวกหนูทั้งหลายก็เป็นเจ้าของ และได้รับความเป็นธรรม อีกทั้งต้องให้ความเป็นธรรมกับประเทศด้วย พร้อมกันนี้ยังอยากให้ทุกคนเข้าใจว่าเราเป็นเจ้าของประเทศจะต้องรักษาประเทศให้อยู่กับเรา จนกว่าเราจะตายไปจากประเทศนี้ ทั้งนี้ตนของฝากทุกคน และครอบครัวอุปถัมภ์ต้องสอนให้เด็กรู้จักความเป็นไทย กับความเป็นธรรม และให้ความเป็นธรรมกับประเทศเรา
พล.อ.เปรมกล่าวต่อว่า วันนี้ทุกคนจะเห็นว่ามีหน่วยงานราชการต่างๆ ให้ความร่วมมืออย่างดีมาโดยตลอด เรามีหน้าที่ตอบแทน และขอบขอบคุณทุกคนที่ให้เกียรติ และให้ความรักความเอ็นดูกับเด็ก ให้ทุกๆอย่างที่จะให้เด็กเติบโตเป็นคนดี อีกทั้งวันนี้ ผบ.ทบ.ท่านใหม่ที่เพิ่งได้รับตำแหน่งมา 15 วันก็ร่วมงานด้วยตนเอง รวมถึงรอง ผบ.สส.ด้วย ซึ่งทั้งสองคนก็เป็นคณะรัฐมนตรี ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และผู้แทนเหล่าทัพต่างๆ รวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย ซึ่งให้ความร่วมมือมาโดยตลอด นอกจากนี้ นายภาณุยังได้บอกตนถึงเรื่องการสร้างโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็คิดว่าดี และถ้าช่วยกันตลอดไปก็จะประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของเราได้ไม่วันใดวันหนึ่ง
“ผมภูมิใจมากเพราะโดยอาชีพก็เป็นทหารและเกษียณอายุราชการ ทุกคนก็เป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยช่วยดูแลโครงการนี้อย่างพร้อมเพรียง ผมไม่มีอะไรนอกจากขอบคุณทุกคนที่ได้ช่วยเหลือจุนเจือเด็กๆ กว่า 200 คน และสอนเรื่องความเป็นไทยและความเป็นธรรมให้เรียนรู้ความจริงเป็นอย่างไร และความไม่จริงเป็นอย่างไร หากโครงการนี้ได้รับประโยชน์ ประเทศก็จะได้รับประโยชน์ด้วย อย่างไรก็ตาม คิดว่าโครงการนี้จะช่วยทำให้เกิดความสงบในพื้นที่ภาคใต้ ผมมั่นใจว่าพวกเราเป็นส่วนหนึ่งถ้ามีความพร้อมใจกันความเหนื่อยยากลำบากจะเป็นสิ่งไม่ต้องเกรงกลัวต่อไป” พล.อ.เปรมกล่าว
จากนั้น พล.อ.เปรมให้สัมภาษณ์ถึงการให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า ขอให้ช่วยกันดูแลชาติบ้านเมืองให้มีความสงบสุขร่มเย็น ซึ่งไม่ใช่เฉพาะนายกฯ เท่านั้น ส่วนการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนใต้จะแก้กันอย่างไร ตนไม่รู้ ส่วนเหตุการณ์เผาโรงเรียนนั้นเป็นห่วงหรือไม่ก็เป็นห่วงทุกคน
เมื่อถามว่าจะมีเรื่องอะไรพิเศษแนะนำนายกฯ พล.อ.เปรมกล่าวว่า ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เมื่อถามย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ ทำหน้าที่นายกฯ ดีอยู่แล้ว หรือไม่ พล.อ.เปรมกล่าวว่า ไม่ทราบ เมื่อถามต่อว่า พล.อ.เปรมเคยเป็นนายกฯมาแล้ว 8 ปี จะแนะนำอะไร พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.เปรมกล่าวว่า ก็แนะนำไปแล้วแต่สื่อมวลชนไม่รู้เอง ซึ่งที่ผ่านมาการพบกันกับนายกฯ ก็ให้คำแนะนำไปเยอะแยะ