00 คลอดออกมาเป็นแพ็กเกจมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล็อตแรก 3.24 แสนล้านบาท มาแบบครบชุด ทั้งลดแลกแจกแถม เรียกว่าเที่ยวนี้ถ้ายัง “โงหัวไม่ขึ้น”อีกก็คงเหนื่อยแน่สำหรับ “ลุงตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เวลานี้ถือว่าเป็น “นักการเมือง”เต็มรูปแบบแล้ว มาตรการดังกล่าวบอกว่า ออกมาเป็นช่วงสั้นแค่ 3 เดือน คือกลางต.ค.ถึง ธ.ค. โดยรวมๆ ก็เป็นงบประมาณเบิกจ่ายเพื่อกันไว้เหลื่อมปี ตั้งแต่ปี 48-56 เงินงบประมาณปี 57 ที่ค้างท่อ กว่า 1.4 แสนล้านบาท งบประมาณปี 58 ที่ต้องเร่งรัดรายจ่ายการลงทุนในช่วงสามเดือนแรก 1.29 แสนล้านบาท งบกลาง และงบกลางที่ กันไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปี ปีงบประมาณ 55-57 อีกกว่า 2.3 หมื่นล้าน งบไทยเข้มแข็ง ที่เหลืออีก 1.5 หมื่นล้านบาท เค้นออกมาใช้ให้หมด และโดยเร็วชนิดที่เรียกว่า ต้องรายงานความคืบหน้าในการใช้จ่ายงบประมาณกันทุกเดือนเลยทีเดียว
00 แน่นอนว่า มาตรการกระตุ้นดังกล่าวภายใต้การผลักดันของ รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ “หม่อมอุ๋ย”ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ที่ส่วนใหญ่เป็นการใช้จ่ายแบบกระจายแทบจะทุกหน่วยงาน ทั้งประเภทซ่อมแซม ก่อสร้างอาคารสถานที่ โรงเรียน สถานที่ราชการ เน้นไปในภาคการก่อสร้าง เพื่อให้เกิดการจ้างงาน และที่เป็นทีเด็ดก็คือ “แจกตรง”กับชาวนา 3.4 ล้านครัวเรือน ไร่ละ1พันบาท สำหรับชาวนาที่มีที่ดินไม่เกิน 15 ไร่ ส่วนที่มีเกิน 15 ไร่ จะเหมาจ่ายให้ไม่เกิน 15,000 บาท ใช้งบประมาณ 4 หมื่นล้านบาท โดยให้ ธ.ก.ส.รับภาระไปก่อน จากนั้นรัฐบาลจะตั้งงบชดเชยให้ภายหลัง อย่างไรก็ดี หม่อมอุ๋ย ยืนยันว่า นี่“ไม่ใช่ประชานิยม”แต่เป็นการลดต้นทุนให้ชาวนา ก็ว่ากันไป แต่งานนี้ถือว่าเป็น “เดิมพัน” ครั้งสำคัญเพราะเข้าสู่ “เดือนที่ห้า”แล้ว นับตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ “ทีมงานบูรพาพยัคฆ์”เข้าคุมอำนาจบริหารอย่างเบ็ดเสร็จ
00 เป็นช่วงที่ต้องพิสูจน์ฝีมือและต้อง“เห็นฝีมือ”ไม่ใช่ให้ฟังเพลง “ขอเวลาอีกไม่นานฯ”อยู่ทุกวัน หรือจะมาฟังข้ออ้างว่าที่ “ปัญหาสะสม” มาเยอะ ต้องใช้เวลา มันก็ถูก แต่ขณะเดียวกันมันก็ต้องมีแนวโน้มที่ดีด้วย อย่างไรก็ดี ที่น่าเป็นห่วงก็คือ การขยายตัวเมื่อเทียบกันเดือนต่อเดือนตัวเลขกลับไม่ดีตามคาด โดยเฉพาะการส่งออก การท่องเที่ยว ก็ไม่ได้โดตามคาด ทำให้มีการคาดการณ์กันว่า จีดีพี ทั้งปีจะโตแค่ร้อยละ 1.2 เท่านั้น จากเดิมที่คาดกันว่า จะโตร้อยละ 2 และลดลงมาเหลือร้อยละ 1.5 และล่าสุดเหลือแค่นั้น
00 เอาเป็นว่า เอาใจช่วยรัฐบาล เอาใจช่วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ทำได้สำเร็จ เพราะถ้าล้มเหลว หรือไม่เป็นไปตามคาดหมาย ชาวบ้านทั่วไปแบบเราๆ ทั่นๆ ทั้งหลายก็พลอยซวยไปด้วย ขณะเดียวกันในความเป็นจริงแรงกดดันรอบทิศก็จะบีบเข้ามาทุกทิศทาง และยังส่งผลต่อภารกิจสำคัญในเรื่อง “ปฏิรูปบ้านเมืองทุกภาคส่วน”จะติดขัด หรือเลวร้ายถึงขั้นทำไม่สำเร็จเสียด้วยซ้ำถึงได้บอกว่านี่คือ “เดิมพัน”ก้อนแรก และครั้งสำคัญ จะพลาดไม่ได้เป็นอันขาด
00 จากท่าทีของ “พี่ใหญ่”ที่ดูแลด้านความมั่นคงอย่างครบวงจร อย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ทำให้เห็นแนวโน้มว่า ในอีกไม่นานเกินรอคงจะมีการพิจารณายกเลิกกฎอัยการศึกในบางพื้นที่ ในบางพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว เพื่อสร้างบรรยากาศในเชิงบวกดึงดูดนักท่องเที่ยวบางกลุ่มให้เข้ามาเพิ่ม เช่น ในยุโรป และสหรัฐอเมริกา แม้ว่าจะไม่ทันการณ์ในปีนี้ เพราะกำลังจะเข้าสู่ช่วง “ไฮซีซั่น”กันแล้วการเดินทางต้องวางแผนกันล่วงหน้า แต่ก็ถึงอย่างไรก็ดีว่า“กลัวพวกถ่อย”แล้วกดหัวไว้แบบนี้ เพราะมันกดเอาไว้ตลอดไปไม่ได้
00 พูดถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แล้ว ก็ต้องมานั่งดูความเคลื่อนไหวในบ้านสี่เสา เทเวศร์ เมื่อเย็นวันพุธที่ 1 ต.ค.ที่นำคณะ ปลัดกระทรวงกลาโหม ผบ.สส. และ ผบ.เหล่าทัพ และ ผบ.ตร.เข้าพบ “ป๋าเปรม”พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ หลังจากก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน เป็นคิวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นำคณะพวกเกษียณฯไปอำลามาแล้ว แต่งานนี้เชื่อว่า “เนื้อหา” การสนทนากันภายใน มันน่าสนใจกว่า “จะมีการรับปาก” อะไรกันไว้หรือไม่ ต่างหาก !!
00 แน่นอนว่า มาตรการกระตุ้นดังกล่าวภายใต้การผลักดันของ รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ “หม่อมอุ๋ย”ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ที่ส่วนใหญ่เป็นการใช้จ่ายแบบกระจายแทบจะทุกหน่วยงาน ทั้งประเภทซ่อมแซม ก่อสร้างอาคารสถานที่ โรงเรียน สถานที่ราชการ เน้นไปในภาคการก่อสร้าง เพื่อให้เกิดการจ้างงาน และที่เป็นทีเด็ดก็คือ “แจกตรง”กับชาวนา 3.4 ล้านครัวเรือน ไร่ละ1พันบาท สำหรับชาวนาที่มีที่ดินไม่เกิน 15 ไร่ ส่วนที่มีเกิน 15 ไร่ จะเหมาจ่ายให้ไม่เกิน 15,000 บาท ใช้งบประมาณ 4 หมื่นล้านบาท โดยให้ ธ.ก.ส.รับภาระไปก่อน จากนั้นรัฐบาลจะตั้งงบชดเชยให้ภายหลัง อย่างไรก็ดี หม่อมอุ๋ย ยืนยันว่า นี่“ไม่ใช่ประชานิยม”แต่เป็นการลดต้นทุนให้ชาวนา ก็ว่ากันไป แต่งานนี้ถือว่าเป็น “เดิมพัน” ครั้งสำคัญเพราะเข้าสู่ “เดือนที่ห้า”แล้ว นับตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ “ทีมงานบูรพาพยัคฆ์”เข้าคุมอำนาจบริหารอย่างเบ็ดเสร็จ
00 เป็นช่วงที่ต้องพิสูจน์ฝีมือและต้อง“เห็นฝีมือ”ไม่ใช่ให้ฟังเพลง “ขอเวลาอีกไม่นานฯ”อยู่ทุกวัน หรือจะมาฟังข้ออ้างว่าที่ “ปัญหาสะสม” มาเยอะ ต้องใช้เวลา มันก็ถูก แต่ขณะเดียวกันมันก็ต้องมีแนวโน้มที่ดีด้วย อย่างไรก็ดี ที่น่าเป็นห่วงก็คือ การขยายตัวเมื่อเทียบกันเดือนต่อเดือนตัวเลขกลับไม่ดีตามคาด โดยเฉพาะการส่งออก การท่องเที่ยว ก็ไม่ได้โดตามคาด ทำให้มีการคาดการณ์กันว่า จีดีพี ทั้งปีจะโตแค่ร้อยละ 1.2 เท่านั้น จากเดิมที่คาดกันว่า จะโตร้อยละ 2 และลดลงมาเหลือร้อยละ 1.5 และล่าสุดเหลือแค่นั้น
00 เอาเป็นว่า เอาใจช่วยรัฐบาล เอาใจช่วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ทำได้สำเร็จ เพราะถ้าล้มเหลว หรือไม่เป็นไปตามคาดหมาย ชาวบ้านทั่วไปแบบเราๆ ทั่นๆ ทั้งหลายก็พลอยซวยไปด้วย ขณะเดียวกันในความเป็นจริงแรงกดดันรอบทิศก็จะบีบเข้ามาทุกทิศทาง และยังส่งผลต่อภารกิจสำคัญในเรื่อง “ปฏิรูปบ้านเมืองทุกภาคส่วน”จะติดขัด หรือเลวร้ายถึงขั้นทำไม่สำเร็จเสียด้วยซ้ำถึงได้บอกว่านี่คือ “เดิมพัน”ก้อนแรก และครั้งสำคัญ จะพลาดไม่ได้เป็นอันขาด
00 จากท่าทีของ “พี่ใหญ่”ที่ดูแลด้านความมั่นคงอย่างครบวงจร อย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ทำให้เห็นแนวโน้มว่า ในอีกไม่นานเกินรอคงจะมีการพิจารณายกเลิกกฎอัยการศึกในบางพื้นที่ ในบางพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว เพื่อสร้างบรรยากาศในเชิงบวกดึงดูดนักท่องเที่ยวบางกลุ่มให้เข้ามาเพิ่ม เช่น ในยุโรป และสหรัฐอเมริกา แม้ว่าจะไม่ทันการณ์ในปีนี้ เพราะกำลังจะเข้าสู่ช่วง “ไฮซีซั่น”กันแล้วการเดินทางต้องวางแผนกันล่วงหน้า แต่ก็ถึงอย่างไรก็ดีว่า“กลัวพวกถ่อย”แล้วกดหัวไว้แบบนี้ เพราะมันกดเอาไว้ตลอดไปไม่ได้
00 พูดถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แล้ว ก็ต้องมานั่งดูความเคลื่อนไหวในบ้านสี่เสา เทเวศร์ เมื่อเย็นวันพุธที่ 1 ต.ค.ที่นำคณะ ปลัดกระทรวงกลาโหม ผบ.สส. และ ผบ.เหล่าทัพ และ ผบ.ตร.เข้าพบ “ป๋าเปรม”พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ หลังจากก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน เป็นคิวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นำคณะพวกเกษียณฯไปอำลามาแล้ว แต่งานนี้เชื่อว่า “เนื้อหา” การสนทนากันภายใน มันน่าสนใจกว่า “จะมีการรับปาก” อะไรกันไว้หรือไม่ ต่างหาก !!