ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “ป๋าเปรม” มอบทุนการศึกษาเด็กนักเรียน นักศึกษา ผู้พิการอีสานกว่า 1,800 ทุน เป็นเงินกว่า 5 ล้าน พร้อมวิงวอนทุกฝ่ายโดยเฉพาะผู้ว่าฯ 20 จังหวัดอีสาน ใช้เวลาที่มีอยู่ช่วยทำให้เด็กเติบโตเป็นคนดีของชาติบ้านเมือง เพื่อเบียดคนไม่ดีให้ไปอยู่ที่ควรอยู่ และให้คนดีขึ้นมาแทนที่ ชี้เป็นวิธีเดียวทำให้ชาติบ้านเมืองก้าวหน้ามั่นคง และเป็นที่ยอมรับของประเทศอื่นๆ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (27 ก.ย.) ที่หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ หลังศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นประธานพิธีมอบทุนการศึกษา และรางวัลการประกวดโครงงานนักเรียนระดับภาค มูลนิธิเปรมติณสูลานนท์ ประจำปี 2557 โดยมี นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พล.ท.ชาญชัย ภู่ทอง แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) พล.ต.ท.พิสัณฑ์ จุลดิลก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) พร้อมด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 19 จังหวัดภาคอีสาน และหัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชน และนักเรียน นักศึกษา เข้าร่วมกว่า 500 คน
สำหรับปีนี้ได้มอบทุนการศึกษาให้แก่เด็กนักเรียน ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส ที่เรียนดีมีความประพฤติเรียบร้อย แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 1,857 ทุน เป็นเงินกว่า 5.3 ล้านบาท มอบโล่รางวัลแก่การประกวดโครางงานที่ชนะการประกวดระดับภาค จำนวน 96 โครงงาน
โดยมีผู้บริจาคเงินสมทบทุนมูลนิธิ จำนวน 199 ราย เป็นเงินกว่า 6.6 ล้านบาท ทำให้มูลนิธิมีเงินบริจาคสมทบทุนแล้วรวม 72 ล้านบาท และมีดอกเบี้ยกว่า 2.4 ล้านบาท ซึ่งดอกผลที่เกิดขึ้นจะนำมามอบเป็นทุนการศึกษาให้แก่นักเรียน นักศึกษา ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาสในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นประจำทุกปี ทั้งนี้ มูลนิธิฯ ได้มอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียน นักศึกษาตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบันรวมแล้ว 4,444 ทุน เป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 111 ล้านบาท
พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้กล่าวให้โอวาทแก่ผู้มาร่วมงานตอนหนึ่งว่า ขอขอบคุณทุกคนที่มาช่วยกันทำให้เด็กได้มีโอกาส โดยเฉพาะอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ดร.ประสาท สืบค้า ซึ่งอยากให้เด็กๆ เอาเป็นแบบอย่างในการให้โอกาสคนซึ่งเป็นเจ้าภาพรับจัดการประกวดโครงงานนักเรียนโดยไม่คิดมูลค่าใดๆ ทั้งสิ้น และยังได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยต่างๆ มาร่วมมือ ในที่สุดก็ได้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 20 จังหวัดภาคอีสานมาร่วมมือกันในการที่กรุณามาเป็นคณะกรรมการมูลนิธิ ทำให้มูลนิธิกว้างขวางขึ้น ซึ่งมูลนิธิฯ นี้มีแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นประธาน แม่ทัพทุกแม่ทัพก็เอาใจใส่ดูแลให้มีจริยธรรม คุณธรรม เหมือนเช่นโครงงานสุดท้ายของวันนี้ เพื่อประโยชน์ในอนาคต
พล.อ.เปรม กล่าวอีกว่า การเอ่ยนามแม่ทัพ และผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 20 จังหวัด ตนอยากได้ความร่วมมือไม่ใช่ร่วมมือกับมูลนิธิอย่างเดียว แต่ต้องร่วมกันทำให้เด็กในภาคอีสานซึ่งเป็นภาคสำคัญภาคหนึ่งของประเทศเราให้โตขึ้นมาเป็นเด็กดี ขออย่างเดียวว่าให้เป็นเด็กดี การเรียนหนังสือมากน้อยแค่ไหน ก็เป็นคนดี เด็กดี ประชาชนที่ดีได้ทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นคนพิการ หรือไม่พิการ ก็เป็นคนดีของชาติบ้านเมืองได้
ขอวิงวอนท่านผู้มีเกียรติ โดยเฉพาะผู้ว่าฯ ขอได้โปรดใช้เวลาที่ท่านมีอยู่สนใจทำเด็กของเราให้เป็นเด็กดีให้ได้ ให้เป็นคนดีในภาคอีสาน เบียดคนไม่ดีให้ตกลงไปในที่ที่ควรอยู่ เพื่อให้คนดีทั้งหลายขึ้นมาแทนที่ วิธีนี้เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้ชาติบ้านเมืองของเราก้าวหน้า มั่นคง แข็งแรงและเป็นที่ยอมรับของประเทศอื่นๆ จะว่าไม่ใช่หน้าที่ของคนอื่นนอกจากครูบาอาจารย์ก็ไม่ผิด แต่พูดอย่างนั้น คิดว่าเป็นการพูดแบบไม่เหลือความรับผิดชอบที่เรามีต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ถ้าเราทุกคนเป็นคนดีก็มีคนดีในภาคอีสาน คนดีย่อมเป็นตัวอย่างที่ดี ฉะนั้นคือสิ่งที่ต้องขอวิงวอนผู้ใหญ่ทั้งหลายช่วยกันทำให้เด็กของเราได้เติบโตขึ้นมาเป็นคนดี
“วันนี้ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความร่วมมือ และสนับสนุนมูลนิธิ และขอให้คุณงามความดีที่มอบให้แก่เด็กๆ และขอให้พระสยามเทวาธิราช ได้มองเห็น และคุ้มครองป้องกันพวกเราให้มีแต่ความสุขความเจริญ เป็นตัวอย่างที่ดีให้เด็กๆ ในอนาคตต่อไป” พล.อ.เปรม กล่าวในตอนท้าย