xs
xsm
sm
md
lg

คดีฆ่าสองนักท่องเที่ยวอังกฤษ ภาพลักษณ์ติดลบกู่ไม่กลับ!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

อาจเป็นเพราะถึงคราวซวยมาลงล็อกที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่เพิ่งมารับตำแหน่งผู้บัญชารการตำรวจแห่งชาติ รวมไปถึงส่งผลกระทบชิ่งไปถึงรัฐบาลที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตามมาด้วย

ท่าทีล่าสุดของรัฐบาลอังกฤษที่ผ่านทางรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศ ฮิวโก สไวร์ โดยเรียกตัวอุปทูตไทยประจำกรุงลอนดอน ณัฐวัฒน์ กฤษณามระ เข้าพบเพื่อแจ้งให้ทราบว่ารัฐบาลมีความกังวลอย่างยิ่งต่อการสืบสวนคดีของตำรวจไทย พร้อมทั้งย้ำให้ดำเนินการในแนวทางที่ยุติธรรมและโปร่งใส ขณะเดียวกันยังต้องการเข้ามาช่วยเหลือในการสืบสวนกระบวนการทางกฎหมายอีกด้วย

ท่าทีแบบนี้ความหมายแบบชาวบ้านก็คือตบหน้าทางการไทย ตำรวจไทย ไม่ให้เครดิต ไม่เชื่อถือการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเลยแม้แต่น้อย การที่ย้ำว่า “ให้ดำเนินการสืบสวนในแนวทางยุติธรมและโปร่งใส” มันก็ชัดเจนอยู่แล้ว

ที่น่าเจ็บปวดไปกว่านั้นก็คือ “ต้องการเข้ามาช่วยเหลือในกระบวนการสืบสวนตามกฎหมาย” นั่นคือผลที่ตามมาหลังจากไม่เชื่อถือแล้ว ต้องการเข้ามากำกับดูแลการทำงาน และลงมือสอบสวนด้วยตัวเอง และให้รายงานความคืบหน้าของคดีให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตเป็นระยะ แบบนี้เหมือนกับการตบหน้าตำรวจไทยฉาดใหญ่

ที่ผ่านมาหลังเกิดเหตุฆาตกรรมสองนักท่องเที่ยวอังกฤษ คือ น.ส.ฮานนาห์ วิเทอริดจ์ และ เดวิด มิลเลอร์ เมื่อวันที่ 15 กันยายน และต่อมาตำรวจก็สืบสวนจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวพม่าจำนวน 2 คน เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่กลายเป็นว่าแทนที่จะสามารถ “ปิดคดี” ตามความมุ่งหมายของตำรวจไทยและรัฐบาลไทย กลับกลายเป็นว่าสร้างความระแวงให้แก่สังคมไม่น้อยว่าเป็นการ “จับแพะ” มีการตั้งข้อสังเกต มีข้อสันนิษฐานจากหลักฐานในที่เกิดเหตุ รูปพรรณสัณฐานคนร้ายที่ถูกจับกุมกับฝรั่งนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เสียชีวิตที่มีลักษณะรูปร่าง ส่วนสูง ต่างกันลิบลับ

แน่นอนว่าแม้กระทั่งคนไทยด้วยกันไม่น้อย หรือแทบจะเรียกได้ว่าเป็นส่วนมาก ที่น่าจะเป็นคนรุ่นใหม่ที่ใช้อินเทอร์เน็ต ต่างออกมาวิจารณ์การทำงานของตำรวจอย่างรุนแรง แม้กระทั่งมีการแถลงรายละเอียดของคดีกันแบบชุดใหญ่นำโดย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง พร้อมด้วยทีมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายสืบสวนสอบสวน พิสูจน์หลักฐาน ทีมแพทย์ตำรวจที่ชันสูตรศพ แม้ว่าจะมีการการันตีของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่าถูกต้องไม่ใช่แพะ มีผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ในเรื่องดีเอ็นเอยืนยันก็ตาม แต่ก็ยังไม่เชื่อ ยังมีการหาหลักฐานมาโต้แย้งไม่เลิก

ล่าสุด นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ต้องออกมาช่วยการันตีอีกแรง ด้วยการให้เชื่อถือการทำงานของตำรวจไทย ต้องให้กำลังใจ เพราะหากคนไทยไม่เชื่อถือแล้วจะให้คนนอกมาเชื่อถือได้อย่างไรอะไรประมาณนั้น

อย่างไรก็ดีจะว่าไปแล้วนอกจากฝ่ายผู้เสียหายคือครอบครัวชาวอังกฤษที่ข้องใจการทำหน้าที่ของตำรวจไทยแล้วยังมีฝ่ายจำเลยคือทางการพม่า ที่ถึงกับมีข่าวรายงานว่าประธานาธิบดีเต็งเส่งของพม่าต้องสอบถามเรื่องนี้กับนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระหว่างการเยือนพม่าเมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมาอีกด้วย

แม้ว่าในฐานะคนไทยด้วยกันก็ต้องเชียร์พวกเดียวกันเอาไว้ก่อน และเมื่อมีการการันตีกันแบบนี้มันก็สมควรไม่มีข้อกังขาให้เกิดความเสียหาย เสียเครดิต เพราะมันกระทบมาถึงภาพลักษณ์ของประเทศ แต่ก็ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมากระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ไม่รัดกุม ทั่งในเรื่องการเก็บหลักฐาน การชันสูตรศพในที่เกิดเหตุ จนกระทั่งแพทย์หญิงพรทิพย์ โรจนสุนันทน์ อดีตผู้อำนวยการสถายันนิติวิทยาศาสตร์ก็ยังตั้งข้อสังเกตในเรื่องที่ไม่ใช้เจ้าหน้าที่จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ร่วมพิสูจน์ เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือมากกว่านี้

คำพูดของแพทย์หญิงพรทิพย์อาจไม่ใช่สรุปว่าไม่เชื่อถือ แต่ต้องการสื่อให้เห็นว่าในการทำคดีต้องสร้างความเชื่อถือไร้ความเคลือบแคลงสงสัยตามมา เพราะถ้าเกิดความไม่เชื่อถือแล้ว แม้จะเป็นการจับคนร้ายตัวจริง มีหลักฐานจริง มันก็เหนื่อย

กรณีที่เกิดขึ้นสาเหตุที่เกิดบรรยากาศแบบนี้ขึ้นมาจะมาจากสาเหตุอื่นไม่ได้นอกจากภาพลักษณ์ที่ติดลบจากการทำหน้าที่ของตำรวจสะสมมานาน จนไร้เครดิต และยิ่งเมื่อมาเกิดขึ้นกับกรณีของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่มีเพาเวอร์ มีสื่อระดับสากลเป็นเครื่องมือ มันก็ยิ่งสร้างแรงสั่นสะเทือนเป็นสองแรงบวก

ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาจากฝ่ายทางการไทย ทั้งตำรวจและรัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่รับรายงานและเลือกที่จะเชื่อถือออกมาการันตีพร้อมทั้งเรียกร้องให้ชาวบ้านมั่นใจเชื่อถืออีกด้วย นั่นก็หมายความว่าทุกอย่างต้องเดินหน้าไปแบบนี้ “ถอยไม่ได้” เดิมพันกันในแนวทางตำรวจ แต่หากมองในมุมใหม่ยังเชื่อว่าหลังจากนี้เมื่อเข้าสู่โหมดปฏิรูปรับรองว่าตำรวจไม่รอดแน่ ต้องมีการผ่าตัดการทำงานอย่างขนานใหญ่ เพราะถึงเวลาแล้วจริงๆ!!
กำลังโหลดความคิดเห็น