“ดำรงค์” เสนอรื้อระบบแต่งตั้ง ขรก.ประจำ แนะตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทำหน้าที่แทน ป้องกันปัญหาการแทรกแซง
วันนี้ (12 ต.ค.) ที่รัฐสภา นายดำรงค์ พิเดช สมาชิก สปช. และอดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวภายหลังรายงานตัว สปช.ว่า ส่วนตัวมีความสนใจที่จะปฏิรูประบบการเมืองไทยเป็นลำดับแรกเพราะเชื่อว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเนื่องจากการเมืองเป็นชนวนสำคัญที่จะทำให้ประเทศเดินหน้าหรือถอยหลัง โดยมีแนวคิดที่จะปฏิรูประบบการแต่งตั้งข้าราชการประจำกระทรวงต่างๆ ว่าควรจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแห่งชาติขึ้นมาประจำกระทรวงต่างๆ ประมาณ 20-30 คน เพื่อพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการแทนคณะรัฐมนตรี (ครม.) และให้อำนาจคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีสิทธิเสนอปรับเปลี่ยนหากว่าข้าราชการประจำกระทำผิดหรือวางตัวไม่เหมาะสม เพื่อป้องกันกระบวนการแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้าย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีชื่อประธาน สปช.อยู่ในใจ เพราะไม่รู้จักใคร และไม่รู้ว่าใครเป็นคนดีหรือไม่ดี อีกทั้งก็ยังไม่มีใครทาบทามหรือให้สนับสนุนบุคคลใดมาเป็นประธาน สปช.
อย่างไรก็ตามการรายงานตัวสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) วันที่ 5 ยังคงคึกคักมีสมาชิก สปช. ทยอยเดินทางเข้ารายงานตัวที่บริเวณห้องโถง อาคาร1 รัฐสภา อย่างต่อเนื่อง โดยมีบุคคลสำคัญ อาทิ พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป อดีตหัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษ นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อดีตอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) นายพงศ์โพยม วาศภูติ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย นายปรีชา เถาทอง ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ และนายดำรงค์ พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งตลอดทั้งวันมีสมาชิก สปช. เข้ารายงานตัวรวม 23 คน รวมสมาชิกที่มารายงานตัวแล้ว 5 วัน จำนวน 209 คน ยังเหลือสมาชิก สปช. ยังไม่เข้ารายงานตัวอีก 41 คน โดยสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สปช. จะรับรายงานตัว สปช.ถึงวันที่ 15 ต.ค.
