“สุริยะใส” หวั่น คสช. เสียโอกาสรับฟังข้อเสนอแนะที่ดีๆ จากภาคสังคม แนะแยกแยะกลุ่มเคลื่อนไหว หนุนแนวคิด คสช. ตั้ง “สภากระจก” นำคนพลาดหวัง สปช. มาทำงานคู่ขนาน ขณะทีสถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปปท.) ม.รังสิต เลื่อนเปิดไป พ.ย.
วันนี้ (27 ก.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา อาจารย์วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต กล่าวว่า คสช. ไม่ควรเอากิจกรรมของกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้าน มาปนกับกลุ่มที่เคลื่อนไหวเพื่อเสนอประเด็นปฏิรูปต่อ สปช. เพราะไม่เช่นนั้นจะเป็นการเสียโอกาสที่จะได้รับฟังข้อเสนอแนะที่ดีๆ จากภาคสังคม และจะเป็นการปิดกั้นการมีส่วนร่วมหรือการแสดงออกของภาคประชาชนโดยไม่จำเป็น ทั้งนี้ คสช. ต้องตั้งหลักคิดใหม่ว่า สปช. ไม่ใช่อรหันต์ที่รู้ทุกเรื่อง แต่ สปช. ควรทำหน้าที่เอื้ออำนวยและส่งเสริมการมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง หากการปฏิรูปถูกล้อมกรอบแค่ในเฉพาะ สปช. เท่านั้น จะทำให้สังคมไม่มีความรู้สึกร่วมและไม่เห็นความจำเป็นและความสำคัญของการปฏิรูปประเทศ
“ในเบื้องต้นผมเห็นด้วยที่ คสช. จะระดมคนที่ไม่ได้รับการคัดเลือกเป็น สปช. มาตั้งเป็นสภากระจกรับฟังความเห็นจากสาธารณะทำงานคู่ขนานและหนุนเสริม สปช. อีกทางหนึ่งถือเป็นแนวคิดที่ดี อย่างน้อยๆ คนเหล่านี้ก็ปวารนาตัวมาผลักดันเรื่องการปฏิรูปประเทศแล้ว”นายสุริยะใส กล่าว
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า ในส่วนของสถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปปท.) ที่จะขับเคลื่อนโดยมหาวิทยาลัยรังสิตนั้น ที่ผ่านมาได้ประสานหลายเครือข่ายไว้เรียบร้อยและเตรียมเปิดตัวสถาบันฯ พร้อมทั้งจัดงาน Click Off สานพลังประชาชนขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศไทยครั้งที่ 1 นั้น กรรมการสถาบันฯเห็นสมควรให้เลื่อนไปต้นเดือน พ.ย. เพราะบรรยากาศค่อนข้างชุลมุนและยังไม่นิ่งพอ ไม่อยากให้ถูกตีความผิดเพี้ยนเจตนารมณ์ในการจัดงาน และเราพร้อมประสานและแจ้งคสช. ทุกครั้งถ้าต้องมีการจัดงานเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจในการระดมเครือข่ายทำข้อเสนอเพื่อปฏิรูปประเทศไทย คาดว่าในเดือน ต.ค. เมื่อได้ สปช. แล้วกระบวนการทำงานคงชัดเจนเป็นรูปเป็นร่างขึ้น ภาคประชาสังคมก็จะได้วางบทบาทถูกว่าจะเข้าไปมีส่วนร่วมแบบไหนอย่างไร