xs
xsm
sm
md
lg

“ตาดูดาว เท้าหนีคุก” ระบอบทักษิณกำลังจะกลับมา

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวการเมือง


ให้หลัง “บิ๊กตู่ - ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ขึ้นนั่งเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ของประเทศไทย ได้ไม่ทันไร ความเคลื่อนไหวของฟากฝั่ง “ระบอบทักษิณ” ก็เริ่มส่งสัญญาณขยับเคลื่อนไหวให้เห็นอีกครั้ง

เป็นจังหวะจะโคนที่สอดรับกันราวกับเตี๊ยมบทกันไว้ ทั้งตัว “ทักษิณ ชินวัตร” เอง หรือกระทั่งน้องสาว “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”

ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ฝ่ายพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงเลือกที่จะ “สงบนิ่ง” ตั้งแต่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาควบคุมอำนาจการปกครอง เป็นอาการนิ่งจนน่าผิดสังเกต จนแซวกันว่า น่าจะเป็นผลข้างเคียงจาก “ค่ายเอเอฟ” ที่ คสช.เรียกบรรดาแกนนำเข้าไปปรับทัศนคติในค่ายทหาร กำราบจนกลายเป็น “แมวเชื่อง”

มูฟเม้นท์-คอมเม้นท์ของคนเพื่อไทย-เสื้อแดงอันตรธานหายไปจากหน้าสื่อโดยมิได้นัดหมาย แหล่งข่าวหลายคนไม่รับสาย ไม่ตอบไลน์ จนกระจอกข่าวที่ติดตามแทบจะตกงานกันเป็นทิวแถว หรือบางคนอาจจะรับสายแบบเสียไม่ได้ ก็ไถ่ถามเพียงสารทุกข์สุขดิบ เลี่ยงที่จะแสดงความเห็นเรื่องการเมือง หรือการทำงานของ คสช. ขอกันแบบตรงๆว่า กลัวจะถูก คสช.เชิญไปปรับทัศนคติซ้ำสอง

ตลอดระยะเวลากว่า 4 เดือนมานี้ ไม่ว่า คสช.จะออกประกาศ-คำสั่งกี่ร้อยฉบับ โยกย้าย-เตะโด่งคนในเครือข่าย หรือสั่งล้มโครงการประชานิยมต่างๆนานา แต่คนเพื่อไทย-เสื้อแดงก็ไม่ฮือไม่อือ จะมีก็บางคนที่ออฟไซต์ออกมาติติง ก็มีฮอตไลน์สายด่วนไปตักเตือนพอหอมปากหอมคอ

จะมีที่ออกมาโอดโอยโวยวายหน่อยก็ตอนที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดทางอาญาต่อ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว เมื่อช่วงกลางเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นโอกาสที่บรรดาลิ่วล้อออกมาโชว์ออฟพิทักษ์ “นายหญิง” ให้สาวกได้กระชุ่นหัวใจบ้าง

แต่หลังจากนั้นก็กลับที่ตั้ง สงบเสงี่ยมเจียมตัวกันเหมือนเดิม

ว่ากันว่าที่ “ฝ่ายทักษิณ” เลือกยุทธวิธีสงบสยบความเคลื่อนไหวก็เป็นเพราะ “นายใหญ่ - ทักษิณ ชินวัตร” กำชับให้บรรดาลิ่วล้อเล่นบทนี้กันโดยพร้อมเพรียง เพราะไม่ต้องการให้ คสช.ใช้เป็น “ข้ออ้าง” หากทำงานไม่เข้าเป้าตามที่สัญญาไว้กับประชาชน หาก คสช.เพลี่ยงพล้ำเมื่อใด ค่อยออกมารุมกระทืบซ้ำ

นี่เองเป็นเหตุให้คนเพื่อไทย-เสื้อแดงสงบนิ่งกันจนน่าอึดอัด

และพลันที่ “บิ๊กตู่” เลือกที่จะเขยิบก้นจากเก้าอี้หัวหน้า คสช. เข้ามาทำหน้าที่ผู้นำประเทศด้วยตัวเอง ในฐานะ “นายกฯประยุทธ์” ก็เป็นเหมือนอาณัติสัญญาณให้ “ฝ่ายทักษิณ” เริ่มออกมาวอร์มเครื่องสร้างกระแสคู่ขนานไปกับการตั้งไข่ของรัฐบาล

เหมือนกับว่า “ระบอบทักษิณ” ประเมินแล้วว่า เมื่อมีรัฐบาลเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเมื่อใด บทบาท-อำนาจของ คสช.ที่เคยล้นประเทศ ก็ต้องเฟดตัวลงไปอยู่หลังม่าน

ตรงกับที่ “วิษณุ เครืองาม” รองนายกรัฐมนตรี และมือกฎหมายคนสำคัญของ คสช.ที่ออกมาระบุว่า จากนี้ไป คสช.จะทำหน้าที่เป็นเพียงที่ปรึกษาของรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องความมั่นคงต่างๆ การออกประกาศหรือคำสั่งจะทำไม่ได้แล้ว ต้องใช้กลไกของรัฐบาลเท่านั้น หาก คสช.จะมีคำสั่งใดออกมาก็ต้องเป็นไปตาม “กฎอัยการศึก” เท่านั้น

และเชื่อว่า จากนี้ไปเสียงเรียกร้องให้ยกเลิก “กฎอัยการศึก” ก็ต้องกระหึ่มขึ้นตามลำดับ สุดท้ายไม่อาจคงไว้เป็นเกราะป้องกันตัวได้ตลอดอายุรัฐบาล นั่นเท่ากับว่าต่อไป คสช.ก็ไม่มี “ดาบอาญาสิทธิ์” ไว้ใช้เหมือนเดิม รังจะใช้อำนาจในเชิงเผด็จการเหมือนเดิม ก็ดูจะไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาลที่มีผู้นำเป็นคนๆเดียวกับหัวหน้า คสช.

ถึงเวลานั้นคนเพื่อไทย-เสื้อแดงที่เก็บงำความรู้สึกไว้ไม่ต่างกับ “ระเบิดเวลา” ก็คงออกมาเล่นบทบาทถนัดเหมือนเคย เพราะไม่ทันไรบรรดาหัวแถวก็เริ่มออกแอคชั่นเขย่าบัลลังค์อำนาจ คสช.ให้เห็นกันแล้ว

ไล่ตั้งแต่แมตซ์ฟุตบอลการกุศลระหว่างทีมสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย กับทีมธนาคารอาคารสงเคราะห์ ที่เมืองทองธานี เมื่อปลายเดือนก่อน ที่ขนบรรดาแกนนำเพื่อไทย-คนเสื้อแดง มากันอย่างคับคั่ง “วีระกานต์ มุสิกพงศ์ - ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ - จาตุรนต์ ฉายแสง - พงศ์เทพ เทพกาญจนา - วัฒนา เมืองสุข” เป็นต้น

ไม่นานหลังจากนั้นก็เป็นคิวของ “เดอะเต้น - ณัฐวุฒิ” ที่ออกมานั่งให้สัมภาษณ์รายการ Peace Talk ทางสถานีโทรทัศน์ Peace TV ที่กลายร่างมาจากช่อง Asia Update ทีวีเสื้อแดงหลังได้ไฟเขียวจาก คสช. เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยวันนั้น “ณัฐวุฒิ” เล่าย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่แกนนำเสื้อแดงถูกควบคุมตัวไปอยู่ในค่ายทหาร ก่อนที่จะเป็นคิว “จตุพร - วีระกานต์” และขาดไม่ได้กับ “ธิดา ถาวรเศรษฐ” ที่มาถ่ายทอดเหตุการณ์ในช่วงเดียวกัน

การใช้เวทีรายการ Peace Talk เป็นแค่การชิมลาง เพราะไล่ดูผังรายการของ Peace TV ที่แม้จะไม่ได้ฮาร์คอร์เท่า Asia Update เมื่อครั้งก่อนมี คสช. แต่ก็มีช่วงเวลาที่บรรดาแกนนำเสื้อแดงเข้ามาจัดรายการ ทั้งรายการ “เหลียวหลังแลไปข้างหน้า” ของ “ป้าธิดา” และรายการ “เข้าใจตรงกันนะ” ที่ “ณัฐวุฒิ” จะเป็นผู้ดำเนินรายการ

สอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของแกนนำคนเสื้อแดงตามพื้นที่ต่างๆ ที่เริ่มมีการต่อสายนัดแนะถึงการจัดกิจกรรมกันแล้วบ้าง

มูฟเม้นท์ที่น่าสนใจและมองข้ามไม่ได้เลย ก็เป็น “อดีตนายกฯปู” ที่เคยเลี้ยงกระแสเป็นข่าวบนหน้าสื่ออยู่หลายวันเมื่อครั้งขออนุญาต คสช.โกอินเตอร์บินไปทัวร์ยุโรป เพื่อร่วมงานฉลองวันคล้ายวันเกิดของ “นช.แม้ว” พี่ชาย

มาวันนี้ “ยิ่งลักษณ์” กลับมาใช้พื้นที่สังคมออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊คอีกครั้ง หลังจากห่างหายไปนาน เริ่มมีการโพสต์ภาพช้อป-ชิม-ชิลล์ ตามถนัดอีกครั้ง เริ่มตั้งแต่ไปเที่ยวเยี่ยมชมตลาดน้ำอโยธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นจับเครื่องบินไป จ.อุดรธานี ร่วมงานศพอดีต ส.ส.ทองดี มนิสสาร แต่ก็ไม่ลืมที่จะโพสต์ภาพกิจกรรม ทั้งกินไข่กระทะ ของขึ้นชื่อเมืองอุดรฯ หรือแวะเที่ยวตลาดผ้านาข่า พร้อมโปรโมทผ้าไหม สินค้า OTOP ห้าดาวของ จ.อุดรธานี ก่อนกลับ กทม.อีกต่างหาก

มีคำให้สัมภาษณ์ “ยิ่งลักษณ์” สั้นๆถึงการทำหน้าที่นายกฯของ “ประยุทธ์” ด้วยว่า คงไม่ต้องฝากงานอะไร เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนมีความสามารถอยู่แล้ว แต่ประโยคแถมท้ายน่าจะมีความหายลึกซึ้งที่ว่า “เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะทำตามโรดแมปที่ได้สัญญาไว้”

เป็นสุ่มเสียงของ “น้องปู” ที่ส่งผ่านไปถึง “พี่ตู่” ในฐานะคนเคยทำงานใกล้ชิดกันมาก่อน ซึ่งตีความง่ายๆว่า รัฐบาลนี้อยู่นานไม่ได้ ต้องทำงานให้เสร็จภายใน 1 ปี และต้องให้มีการเลือกตั้งภายในปี 2558 ตามที่ประกาศไว้ด้วย

ความเคลื่อนไหวของ “ระบอบทักษิณ” ยังไม่หยุดเพียงเท่านั้น เมื่อ “โอ๊คอ๊าค - พานทองแท้ ชินวัตร” ลุกชายหัวแก้วหัวแหวน “นช.แม้ว” ใช้อินสตาแกรม @oak_ptt และเฟซบุ๊ค Oak Panthongtae Shinawatra โพสต์ข้อความแบบมีนัยว่า “อีก 3 วันเค้าจะกลับมา” ต่อด้วย “อีก 2 วันจะหายคิดถึง” พร้อมแนบลิงค์ไปยังเว็บไซต์ Youtube เมื่อกดเข้าไปก็พบว่า เป็นคลิปการ์ตูนแอนิเมชั่น “ตาดูดาว เท้าติดดิน” ซึ่งบอกเล่าเรื่องเกี่ยวกับชีวประวัติของ “ทักษิณ” เริ่มตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นเด็กจนถึงปัจจุบัน ซึ่งออนแอร์ฉบับเต็มไปเมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา

หากจำกันได้กับชื่อ “ตาดูดาว เท้าติดดิน” ที่หลายคนอาจจะคุ้นหู เพราะเป็นชื่อของพ็อคเก็ตบุ๊คชีวประวัติของ “ทักษิณ” ที่ออกวางจำหน่ายเมื่อครั้งยังเป็นนายกฯอยู่ จนเมื่อปี 2548 บริษัท ดาราวีดีโอ จำกัด ของตระกูลสังวริบุตร ได้ซื้อลิขสิทธิ์นำมาทำเป็นละครเพื่อออกฉายทางช่อง 7 มีนักแสดงนำคือ “พอล - ภัทรพล ศิลปาจารย์” และ “จุ๋ย - วรัทยา นิลคูหา” รับบท “ทักษิณ - พจมาน ชินวัตร” แต่เมื่อถ่ายทำเสร็จตั้งแต่กลางปี 2548 ละครเรื่องนี้ก็แท้งตั้งแต่ยังไม่ฉาย เพราะเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เรตติ้งของ “รัฐบาลทักษิณ” ตกต่ำจนติดลบ ทำให้ผู้บริหารช่อง 7 ตัดสินใจระงับการออกอากาศในที่สุด

มาหนนี้ “ตาดูดาว เท้าติดดิน” มาในรูปแบบการ์ตูนแอนิเมชั่นที่ “ลูกโอ๊ค” ออกแรงตีปิ๊บโปรโมทด้วยตัวเอง เนื้อหาก็พูดถึงประวัติของ “ทักษิณ” และครอบครัว ก่อนที่จะมาเป็น “นช.แม้ว” อย่างเช่นทุกวันนี้แล้ว

ไฮไลท์สำคัญของ “ตาดูดาว เท้าติดดิน” เวอร์ชั่นการ์ตูนอยู่ที่เพลงประกอบที่มีเนื้อร้องชวนคลื่นไส้ว่า “เคยมองไปบนฟ้า เห็นดวงดาราเรียงรายเป็นล้าน บอกใจไม่หยุดฝัน แม้ว่าเส้นทางจะยากจะหิน ใจมันจะโบยบิน สองเท้าย่ำดินเดินลุยต่อไป พากเพียรสู่จุดหมาย คว้าดาวแสนไกลไว้เป็นของเรา อดทน เจ็บเก็บไว้ แพ้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถ้าใจต้องการ หยัดยืนจนวันนั้น วันแห่งชัยชนะ ตาดูดาว เท้าติดดิน ทุกอย่างเป็นจริงด้วยพยายาม ตาดูดาว เท้าติดดิน นี่แหละทักษิณ ผู้ไม่ยอมแพ้ในโชคชะตา”

ดูจะเป็นเนื้อร้องที่ไม่ค่อยใกล้เคียงความเป็นจริงสักเท่าไร หากจะให้ตรงความจริงมากกว่านี้ คงต้องปรับช่วงท้ายเล็กน้อย

“…ทุกอย่างเป็นจริงด้วยพยายาม ตาดูดาว เท้าหนีคุก นี่แหละทักษิณ คนที่โกงแม้แต่โชคชะตา”

การที่เลือกปล่อยคลิปออกเผยแพร่ในช่วงเดียวกับที่ “รัฐบาลประยุทธ์” จะเข้าทำหน้าที่อย่างเป็นทางการ ก็มองไม่ยากว่า เป็นการชิงพื้นที่สื่อกันแบบโจ่งๆ นัยว่าจะปล่อยให้สปอตไลท์สาดส่อง “บิ๊กตู่” คนเดียวคงไม่ได้

และเมื่อทุกองคาพยพของ “ระบอบแม้ว” เริ่มขยับ ก็เป็นสัญญาณที่ คสช. และ “พล.อ.ประยุทธ์” ต้องระวังให้จงหนัก

เพราะเลือกที่จะไม่แตะต้อง “ฝ่ายทักษิณ” เอง










กำลังโหลดความคิดเห็น