สนุกกับงานวัดย้อนยุค ในงาน “พลังวัฒนธรรม วิถีเกษตรไทย” ที่ พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ

พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชวนเที่ยวงานมหกรรม “พลังวัฒนธรรม วิถีเกษตรไทย” เพื่อเป็นการเผยแพร่และอนุรักษ์วัฒนธรรมในวิถีเกษตรไทย ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งเป็นวันปีใหม่ของไทย ช่วงวันหยุดยาว 3 วัน งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-7 เมษายน นี้ ตั้งแต่เวลา 09.30-21.00 น. ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมายให้ได้เข้าร่วม อาทิ ร่วมงานบุญมหากุศลทำบุญตักบาตรเสริมสิริมงคล เที่ยวชมพิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ และสนุกสนานกับงานวัดย้อนยุคแบบไทยๆ

จารุรัฐ จงพุฒิศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เผยว่า พิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ได้จัดกิจกรรมเพื่อเผยแพร่และอนุรักษ์วัฒนธรรมในวิถีเกษตรอย่างต่อเนื่อง โดยแต่ละเดือนจะนำเสนอแนวคิดและรูปแบบแตกต่างกันไปให้สอดคล้องกับช่วงเวลา สำหรับเดือนเมษายนนี้ จัดงานมหกรรม “พลังวัฒนธรรม วิถีเกษตรไทย” ในวันที่ 5-7 เมษายน 2557 เวลา 09.30-21.00 น. ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถนนพหลโยธิน ตรงข้ามโรงพยาบาลนวนคร จ.ปทุมธานี เพื่อเผยแพร่และอนุรักษ์วัฒนธรรมในวิถีเกษตรไทยให้คงอยู่คู่ลูกหลานไทย ตลอดจนแสดงให้เห็นถึงพลังแห่งวัฒนธรรมและวิถีเกษตรของไทยอันยิ่งใหญ่ที่มีผลต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของคนไทยนั้นเป็นอย่างไร โดยผ่านกิจกรรมงานบุญมหากุศลที่น่าสนใจและตื่นตา ตื่นใจมากมาย

ยามเช้าสุขใจกับการ “ทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง” กับพระสงฆ์เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ จำนวน 25 รูป พร้อมรับฟังบรรยายธรรม ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ณ ลานโค้ง หน้าพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ของไทย อาทิ การสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ การทำบุญใส่บาตรพระประจำวันเกิด การรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ พร้อมร่วมขบวนแห่พระพุทธสิหิงค์ ชมการแสดง กระตั้วแทงเสือ กลองยาว เสริมสร้างความเป็นสิริมงคลกับการเข้าร่วม 9 พิธีกรรม ใน 1 วัน ได้แก่ พิธีสะเดาะเคราะห์ สืบชะตา บูชาเทียน บายศรีสู่ขวัญ ส่งสะตวง รำผีฟ้า (รำเหยา) ฯลฯ อีกทั้งยังจัดพิธีรับน้ำมนต์จาก 9 วัดดังจากทั่วประเทศ ได้แก่ วัดโป่งคำ จ.น่าน วัดบรมธาตุ จ.กำแพงแพชร วัดหลวงพ่อโสธร จ.ฉะเชิงเทรา วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี วัดศรีโคมคำ จังหวัดพะเยา วัดป่าโสตถิผล จ.สกลนคร วัดพระธาตุพนม จ.นครพนม วัดพระธาตุเชิงชุม จ.สกลนคร และวัดมหาธาตุ จ.นครศรีธรรมราช

นอกจากนี้หากใครที่อยากสนุกสนานย้อนรอยกับความทรงจำวัยเยาว์ ทางพิพิธภัณฑ์เกษตรฯได้เนรมิต “งานวัดย้อนยุค” อาทิ ชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน ขี่ควาย สนุก ตื่นเต้น เร้าใจ กับเกมส์งานวัด อาทิ ยิงปืนจุกน้ำปลา ปาลูกโป่ง โยนไห ปาเป้าตัวเลข ปาบอลเข้ารู ชูทบาส บิงโกภาพเหมือน ปาจิงโก๊ะ ตั้งขวด ฯลฯ และพาเหล่าหนูน้อยร่วมเรียนรู้การละเล่นในวิถีเกษตรของเด็กไทย เรียนรู้พระอัจฉริยภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้านการเกษตร ผ่านสื่อจัดแสดงที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัย ตื่นตา ตื่นใจ พบประสบการณ์แปลกใหม่ที่สร้างจินตนาการและการเรียนรู้ไม่สิ้นสุด

จารุรัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากกิจกรรมดังกล่าวแล้ว พิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ยังให้บริการเข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ในอาคารที่เต็มไปด้วยความทันสมัยและสวยงาม อาทิ ชมภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชั่น 3 มิติ ทะลุจอ ฉายใน โรงภาพยนตร์ “กษัตริย์เกษตร” 120 ที่นั่ง เรื่องใหม่ล่าสุด “ทรัพย์ดินสินน้ำ” ภาพยนตร์แอนิเมชั่น 3 มิติที่สะท้อนสภาวะธรรมชาติปัจจุบันอย่างสนุกสนาน ตามรอยเจ้าฟ้านักอนุรักษ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เรียนรู้และสืบสานพระปณิธานพระองค์ท่าน “การรักทรัพยากร คือ การรักชาติ รักแผ่นดิน” ในพิพิธภัณฑ์ใหม่ล่าสุด “พิพิธภัณฑ์มหัศจรรย์พันธุกรรม” ตื่นตาตื่นใจ กับเทคโนโลยี แสง สี เสียง และระบบการนำเสนอ มหัศจรรย์พันธุกรรม ชมเมล็ดพันธุ์นานาชนิด ที่สะท้อนความหลากหลายของพันธุกรรมอันเป็นมรดกที่มีคุณค่าให้ประโยชน์มากมาย เรียนรู้ และรู้จักพืชถิ่นมากมาย จากสวนป่าต้นแบบ เช่น ป่าสำมะปิ ป่าซะป๊ะ วนเกษตร และ สวนสมรม

มาตื่นเต้น ผจญภัยกับการเดินป่ากลางคืน สัมผัสบรรยากาศป่ากลางวัน แอบซุ่มดูสัตว์น้อยใหญ่ที่วนเวียนมาชุมนุมกันใต้ต้นไทร เปิดสัมผัสเพื่อรับฟังเสียงแห่งธรรมชาติ ศึกษาเรื่องราวของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบนโลกอันยิ่งใหญ่ และร่วมกันบันทึกพันธสัญญาแสดงความตั้งใจในการช่วยธรรมชาติและโลกของเรา ใน “พิพิธภัณฑ์ป่าดงพงไพร”

อีกทั้งมาเรียนรู้การเกษตรหลักสูตรพื้นฐานเพื่อการพึ่งพาตนเอง “วิชาของแผ่นดิน” และอบรมเชิงปฏิบัติการ รวมกว่า 15 หลักสูตรอีกด้วย อาทิ “แดดดูดน้ำ” (การใช้โซล่าร์เซลล์สูบน้ำเพื่อการเกษตร) “พืชไม่กลัวแล้ง” (เกษตรสวนทางปลูกพืชยามแล้ง) “เปียกๆ แห้งๆ แกล้งข้าว” (ระบบผลิตเปียกสลับแห้ง แกล้งข้าว) “นาอินทรีย์ต้นทุนต่ำ” (การทำนาอินทรีย์ต้นทุนต่ำ เพิ่มผลผลิตสูง) “โลกร้อน ผ่อนด้วยน้ำ” (การจัดการน้ำทางการเกษตรในภาวะโลกร้อน) “เปรี้ยวฆ่าหญ้า” (น้ำหมัก ทำง่าย ใช้คล่อง ไม่ต้องกลัวพิษภัย) “แตงอินทรีย์ไม่มีพิษ” (การปลูกแตงกวากับแตงโมอินทรีย์) “ไผ่สารพัดนึก” (การปลูกไผ่และการใช้ประโยชน์เพื่อสร้างมูลค่า) เป็นต้น โดยทุกวิชาเปิดอบรมฟรี ตลอดจนพบกับผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรปลอดภัย ใส่ใจสุขภาพ ต้นไม้ พันธุ์ไม้นานาชนิด จากเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ตื่นตา สุขใจกับศิลปวัฒนธรรมไทย 4 ภาค อิ่มอร่อยกับอาหารงานวัดที่คัดสรรมาเฉพาะงานนี้เท่านั้น

นอกจากนี้ ยังได้จัดกิจกรรมพิเศษในวันจักรี 6 เมษายน 2557 เวลา 10.00 น. และเวลา 13.30 น. ชมการแสดงวงดนตรีไทย “สายใยจามจุรี แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” ขับร้องและบรรเลง บทเพลงพระราชนิพนธ์พระราชทานในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพลง “ไผ่รวกกับทานตะวัน ผู้ยโส” ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ 5 ชั้น 3 รับจำนวนจำกัด และรับบัตรได้ที่หน้างานเท่านั้น

ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อและโทรสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2529-2212-13 หรือ 08-7359-7171 หรือคลิกดูรายละเอียดได้ที่ www.wisdomking.or.th  และ facebook แฟนคลับพิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติ ฯ หรือ follow ในอินสตาแกรมกันได้ที่ wisdomkingfan หรือ Line : ID wisdomkingfan
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com