“รองยงยุทธ” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำเนียบ เผย “นายกฯตู่” แบ่งงานรองนายกฯ ตนดูแลสังคม “บิ๊กป้อม” ดูความมั่นคง “หม่อมอุ๋ย” ดู ศก. “ธนะศักดิ์” ดู ตปท. “วิษณุ” ดู กม. พร้อมเชื่อมงานกระทรวงต่างๆ เร่งลดเหลื่อมล้ำ ปรองดอง ปฏิรูป หลังแถลงนโยบาย นายกฯนัดพบฝ่ายปฏิบัติ ยกเป็นคนเปิดกว้าง แต่ทำไม่ตามเป้าเจอเด้ง เผยสรรหา สปช. ด้าน ศธ. 50 คน ก่อน 22 ก.ย. เน้นหลากหลาย
วันนี้ (10 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี เข้าสักการะพระพรหมที่ประดิษฐานอยู่บนตึกไทยคู่ฟ้า และสักการะศาลพระภูมิเจ้าที่ และศาลตา ศาลยาย ก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ โดย นายยงยุทธ ให้สัมภาษณ์ถึงการแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี ว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างไม่เป็นทางการเมื่อวันที่ 9 ก.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้แบ่งงานรองนายกรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมอบหมายให้ตนดูแลงานด้านสังคม มีอยู่ 4 กระทรวง คือ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ดูแลด้านความมั่นคง ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ดูแลด้านเศรษฐกิจ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ดูแลด้านต่างประเทศ และ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ดูแลเรื่องกฎหมาย ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะดูแลภาพใหญ่ มีกระทรวงและหน่วยงานขึ้นตรงจำนวนมาก อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ซึ่งงานทั้งหมดจะต้องมีการเอกภาพ นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม. วันเดียวกัน ยังมีการแต่งตั้งเลขาธิการนายกรัฐมนตรีด้วย
นายยงยุทธ กล่าวว่า สำหรับการทำงานของตน พร้อมจะเชื่อมโยงกระทรวงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ รวมถึงกระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เหมือนกับเป็นแม่น้ำหลายสายมารวมกัน ทำหน้าที่ส่งต่องานจากที่นายกฯ มอบไปยังกระทรวงต่างๆ และงานที่กระทรวงต่างๆ จะส่งให้นายกฯพิจารณา ซึ่งจะต้องส่งให้ตนพิจารณา ทั้งนี้ สำหรับเรื่องเร่งด่วนคือ การลดความเหลื่อมล้ำ การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ การปฏิรูป ที่จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ต้องใช้เวลา แต่เราสามารถที่จะวางรากฐานให้เกิดความยั่งยืนได้
รองนายกฯ กล่าวว่า ครม. จะเริ่มงานจริงเมื่อนายกฯได้แถลงนโยบายต่อ สนช. ในวันที่ 12 ก.ย. แล้ว โดยพล.อ.ประยุทธ์ ได้แจ้งว่า หลังจากแถลงนโยบายต่อ สนช. เสร็จสิ้น จะมีการพบปะกับฝ่ายปฏิบัติ กระทรวง ทบวง กรมต่างๆ อย่างไรก็ตาม แม้ตนจะเป็นพลเรือน แต่สามารถทำงานร่วมกับทหารได้ไม่มีปัญหา เพราะล้วนแต่เป็นประชาชนเหมือนกันหมด มีการพูดคุยกันอย่างดี ต่างฝ่ายต่างแลกเปลี่ยนและเรียนรู้กัน โดย พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนเปิดกว้าง ไม่มีแบ่งว่าคนไหนเป็นทหาร คนไหนเป็นพลเรือน ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯได้แจ้งต่อ ครม. หรือไม่ว่า จะประเมินผลการทำงานของรัฐมนตรีทุกคนอย่างไร นายยงยุทธ กล่าวว่า นายกฯย้ำอยู่ตลอดมาว่า ให้ทำงานให้ได้ผล ไม่อย่างนั้นท่านจะปรับออก ซึ่งเป็นธรรมดา ทุกคนจะต้องรู้ตัว จะนั่งแช่กันเฉยๆ ไม่ได้ เวลามีน้อยแค่ 1 ปี
นายยงยุทธ ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ด้านการศึกษา กล่าวถึงความคืบหน้าในการสรรหา สปช. ด้านการศึกษาว่า ขณะนี้ได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์การสรรหาผู้เข้ารับการสรรหา สปช. ให้เหลือ 50 คนไว้แล้ว โดยจะมีการประชุมกันในวันที่ 12 ก.ย. นี้ จากนั้นจะให้กรรมการสรรหาแต่ละคนนำข้อมูลไปศึกษา แล้วในวันที่ 15 ก.ย. จะประชุมกันอีกครั้ง คาดว่า จะได้รายชื่อผู้ผ่านการสรรหา 50 คน ก่อนวันที่ 22 ก.ย. ทั้งนี้ เกณฑ์การสรรหา สปช. ด้านการศึกษา จะดูเรื่องความหลากหลายของตัวบุคคล และเรื่องแนวทางที่เขามีความสนใจ เพื่อให้มีสมดุล เพราะการศึกษาเป็นเรื่องที่กว้างมาก อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้เข้ารับการสรรหา สปช. ด้านการศึกษามีจำนวนมากถึง 777 คน จะต้องสรรหาให้เหลือ 50 คน คิดเป็น 1 ต่อ 15 ถือเป็นงานหนักมาก ดังนั้น จะมีหลายคนที่พลาดหวัง แต่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ย้ำแล้วว่า ไม่ต้องเสียใจ เพราะจะพยายามดึงให้มาช่วยงาน เช่น เป็นกรรมาธิการ หรือขอความเห็นอะไรต่างๆ