xs
xsm
sm
md
lg

ตีปี๊บสโลแกนรัฐ “ทำก่อน ทำจริง” ถก “ครม.ตู่” นัดแรก 9 ก.ย. - คืนความสุขทหารผู้น้อย-เกษียณก่อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะ คสช. (ภาพจากแฟ้ม)
ที่ประชุม คสช. เห็นชอบงบ 5 พันล้าน ให้ประปาภูมิภาคพัฒนาระบบจ่ายน้ำ เห็นชอบเป็นเจ้าภาพจัดประชุมนิวเคลียร์ 2 รายการ หวังแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านพลังงาน อีกด้านเอ็มโอยู ขจัดโรค “คาลาอาซา” พ้นภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “ประยุทธ์” วางฤกษ์ 9 ก.ย. ประเดิมถก ครม. นัดแรก ผุดสโลแกน “ทำก่อน ทำจริง เกิดผลสัมฤทธิ์ปี 58 และยั่งยืน” เน้นใช้คำง่าย - ตรงประเด็น สั่งเคลียร์ 4 หมื่นเรื่องร้องเรียน เห็นชอบร่างกฎหมาย 2 ฉบับ ส่ง “สนช.” พิจารณา เทงบ 180 ล้าน คืนความสุขทหารชั้นผู้น้อย ชดเชยเงินเดือนแรกบรรจุ พร้อมเว้นภาษีเออรี่รีไทร์กลาโหม

วันนี้ (2 ก.ย.) ที่หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ นพ.ยงยุทธ มัยลาภ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงภายหลังการประชุม คสช. เพื่อการบริหารราชการแผ่นดิน ครั้งที่ 13 ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เป็นประธานในการประชุมว่า คสช. ได้พิจารณาโครงการเพื่อการพัฒนาในปี 2557 ของการประปาส่วนภูมิภาค โดย คสช. เห็นชอบการดำเนินการเพื่อการพัฒนาของการประปาส่วนภูมิภาค จำนวน 23 โครงการ วงเงิน 5,218 ล้านบาท ตามมติของคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2556 โดยโครงการทั้ง 23 โครงการดังกล่าวแบ่งเป็นโครงการก่อสร้างปรับปรุงขยายระบบประปา และโครงการปรับปรุงกิจการประปาภายหลังจากการรับโอนจากท้องถิ่น

ขณะเดียวกัน วันนี้ได้มีการพิจาณากรณีที่มีการขอให้รัฐบาลไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมร่วมกับทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ โดย คสช. เห็นชอบให้สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ตอบรับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในประเทศไทย จำนวน 2 รายการ คือ 1. การประชุมเชิงปฏิบัติการ แนวทางปฏิบัติตามเอกสารความมั่นคงปลอดภัยทางนิวเคลียร์ของไอเออีเอ ฉบับที่ 13 : ด้านความมั่นคงปลอดภัยทางนิวเคลียร์ ฉบับปรับปรุง ป้องกันทางกายภาพของวัสดุนิวเคลียร์ และสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 5 ซึ่งจะจัดขึ้นที่ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ระหว่างวันที่ 8-12 ก.ย. 57 และ 2. การประชุม ภายใต้กรอบโครงการภูมิภาค การเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการใช้ประโยชน์จากวิธีทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์ในการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งจะมีขึ้นที่ จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 3 - 7 พ.ย. 57

โดยการจัดประชุมทั้ง 2 รายการดังกล่าว จะเป็นประโยชน์กับนักวิชาการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย ในการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้ประโยชน์จากพลังงานปรมาณูในทางสันติ รวมทั้งเป็นการส่งเสริมบทบาทของไทยในกรอบความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับนานาชาติอีกด้วย และการจัดประชุมทั้ง 2 รายการนี้ ไอเออีเอ จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ในการดำเนินการจัดการประชุม และหัวหน้า คสช. ก็ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง คอยอำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าร่วมประชุมด้วย

นอกจากนี้ คสช. ได้เห็นชอบและอนุมัติการลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการขจัดโรคคาลาอาซา (Kala-azar) ให้หมดไปจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายอื่น เป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจดังกล่าว ซึ่งจะมีขึ้นในการลงนามร่วมกันระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข 5 ประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนบังคลาเทศ ราชอาณาจักรภูฎาน สาธารณรัฐอินเดีย สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล และราชอาณาจักรไทย

ในระหว่างการประชุม รัฐมนตรีสาธารณสุขของประเทศสมาชิกองค์การอนามัยโลกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 32 ในวันที่ 9 ก.ย. ที่กรุงธากา สาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อลดจำนวนผู้ป่วยโรคคาลา อาซา ให้เหลือน้อยกว่า 1 คน ต่อประชากร 10,000 คน/ปี ในระดับอำเภอ หรือตำบล ภายในปี พ.ศ. 2560 โดยการจัดสรรทรัพยากร การแลกเปลี่ยนข้อมูล การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่างๆ การวิจัย การสร้างศักยภาพและการสนับสนุนทางวิชาการ

นพ.ยงยุทธ กล่าวต่อว่า โรคคาลาอาซานี้ เป็นโรคที่เกิดจากริ้นฝอยทราย ที่มีลักษณะคลายยุงที่มีเชื้อ โปรโตซัว ลิชมาเนีย กัด ซึ่งประเทศไทยพบโรคนี้ได้ประปลาย ทั้งทางภาคใต้และภาคเหนือ แต่ปัจจุบันโรคนี้มีโอกาสพบได้มาขึ้น เนื่องจากประชากรมีการเคลื่อนย้ายและมีแรงงานต่างชาติเข้ามา ประกอบกับ ประเทศไทยเรามีริ้นฝอยทรายเป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้ที่เป็นโรคนี้จะเป็นไข้เรื้อรัง น้ำหนักลด หมดแรง เป็นแผลตามผิวหนัง ม้ามโต้ หากไม่ได้รับการรักษาอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

ด้าน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบกและทีมโฆษก คสช. เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ สั่งการเร่งรัดทำห้องประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ชั้น 5 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล ให้เสร็จเรียบร้อย ทันวันที่ 9 ก.ย. นี้ ซึ่งคาดว่าจะมีการประชุม ครม. นัดแรก และสั่งการให้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จัดเตรียมการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยหัวข้อหลัก จะเป็นตามการแบ่งงานของรองนายกฯ ทั้ง 5 ฝ่าย เน้นเศรษฐกิจความอยู่ดีกินดี คุณภาพชีวิตประชาชน ในสโลแกนที่ว่า “ทำก่อน ทำจริง เกิดผลสัมฤทธิ์ปี 58 และยั่งยืน” พล.อ.ประยุทธ์ จะใช้คำที่ง่ายๆ ให้ประชาชนเข้าใจ และตรงประเด็น ภายหลังถวายสัตย์ปฏิญาณ ครม. จะทำงานทันที

ขณะที่ พ.อ.วินธัย สุวารี ทีมโฆษก คสช. แถลงภายหลังประชุม คสช. ว่าด้วยการบริหารราชการแผ่นดิน ครั้งที่ 13/2557 ว่า ในที่ประชุม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงนโยบายด้านการศึกษา ว่า ที่ผ่านมาไม่ได้ตำหนิการบริหารงาน เพียงให้ข้อคิดเห็น อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาถึงความเหมาะสมและความต้องการของประเทศชาติ ว่า อะไรควรทำก่อนที่มีผลสำเร็จ และควรเร่งดำเนินการในปี 58 ส่วนเรื่องร้องเรียนที่เข้ามายัง คสช. มากกว่า 4 หมื่นเรื่อง จากการเปิดศูนย์ 1111 รับเรื่องร้องทุกข์ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการแก้ไข และรายงานผลนายกฯ โดยตรง

ส่วนปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง พล.อ.ประยุทธ์ สั่งกองทัพบกและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เตรียมความพร้อมไว้แต่เนินๆ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างอัตโนมัติ บรรเทาความเดือดร้อนประชาชนได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ พร้อมกำชับกระทรวงพาณิชย์ควบคุมราคาสินค้า จากที่มีการปรับลดราคาเชื้อเพลิงลง ไม่อยากให้ราคาสินค้าผิดจากราคาที่ควรจะเป็นจนส่งผลกระทบประชาชน ส่วน 4 โครงการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วงเงิน 9 พันล้านบาท ที่ชะลอโครงการก่อนหน้านี้ ปัจจุบันกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างเสร็จสิ้นแล้ว ส่งผลประหยัดงบประมาณ 2 พันล้านบาท หัวหน้า คสช. จึงอยากให้ทุกหน่วยงานเอาเรื่องนี้เป็นแบบอย่าง

ส่วน น.ส.ปถมาภรณ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ทีมโฆษก คสช. กล่าวว่า ที่ประชุม คสช. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 ในส่วนของงบกลางจำนวน 180 ล้านบาท เพื่อชดเชยเป็นเงินเดือนแรกบรรจุให้กับข้าราชการทหารชั้นผู้น้อยของกองบัญชาการกองทัพไทย ที่บรรจุเข้ารับราชการเป็นทหารก่อนวันที่ 1 ม.ค. 56 ให้สอดคล้องกับบัญชีเงินเดือนใหม่ของข้าราชการพลเรือนตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 55 จำนวน 9,231 คน แบ่งเป็นระดับชั้นสัญญาบัตร1,586 คน และระดับชั้นประทวน 7,645 คน

นอกจากนี้ คสช. ได้เห็นชอบร่างกฎกระทรวงการคลังมาตรการยกเว้นภาษีเงินได้ตามโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดของกระทรวงกลาโหม ปีงบประมาณ 2556 - 2561 เพื่อเป็นการช่วยเหลือและจูงใจให้ทหารที่จะออกจากราชการตามโครงการดังกล่าว โดยประมาณว่า จะมีข้าราชการทหารเข้าร่วมโครงการประมาณ 5,000 คน งบประมาณ 1,982 ล้านบาท จะเป็นภาษีสูญเสีย 10 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลกระทบไม่มากนักต่อรายได้การจัดรายเก็บภาษี

น.ส.ปถมาภรณ์ เปิดเผยด้วยว่า ที่ประชุมยังได้เห็นชอบร่างกฎหมาย 2 ฉบับ เพื่อเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คือ 1.ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ฉบับที่ ... พ.ศ. ... สาระสำคัญ เป็นการปรับปรุงเพิ่มเติมกฎหมายที่เกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ เพื่อป้องกันการฮั้วข้อมูล โดยเฉพาะกับบุคคลภายใน ซึ่งกฎหมายดังกล่าว จะห้ามไม่ให้บุคคลภายใน เข้าไปเกี่ยวข้องกับการซื้อขายตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์ ทั้งเพื่อตนเองหรือบุคคลอื่น รวมไปถึงการเปิดเผยข้อมูล นอกจากนี้ ร่างกฎหมายฉบับนี้ยังมีการกำหนดมาตรการการลงโทษทางแพ่งไว้ด้วย ซึ่งจะทำให้การซื้อขายหลักทรัพย์เป็นไปด้วยความสุจริต และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

2. ร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง ฉบับที่ ... พ.ศ. ... สาระสำคัญคือกำหนดบทบัญญัตองค์ประกอบของคณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง ให้มีความชัดเจนมากขึ้น ทั้งคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม วิธีการคัดเลือก วาระการดำรงตำแหน่ง และการพ้นจากตำแหน่ง


กำลังโหลดความคิดเห็น