“ถาวร” ไม่ลง สปช. หวั่นถูกมองประโยชน์ทับซ้อน รับส่ง กปปส.ไปสมัคร แต่ไม่มั่นใจจะถูกเลือก โยน กก.สรรหาใช้ดุลพินิจ ชี้ ครม.ใหม่ต้องเข้ามาแก้ปัญหา ไม่ใช่เพื่อหน้าตาของตระกูล “อิสสระ” รับปฏิรูป 1 ปีไม่พอ จี้ทำการเมืองอันดับแรก แต่ยันไม่ลงสมัครด้วย
วันนี้ (29 ส.ค.) นายถาวร เสนเนียม แกนนำกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) กล่าวถึงกรณีที่มีบุคคลมีชื่อเสียงมาสมัครสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในช่วงสุดท้ายว่า ในส่วนของ กปปส.มีตัวแทนไปสมัครหลายคน ทั้ง กปปส.ส่วนกลางและต่างจังหวัด ทั้งนี้การที่เราให้คนของ กปปส.ไปเสนอตัวเพราะหากได้รับคัดเลือกก็จะได้นำแนวทางปฏิรูป ยุคที่เราเคยเสนอไว้ช่วงชุมนุมทางการเมืองไปผลักดัน หรือขับเคลื่อนให้บรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าคนของ กปปส.ไม่ได้รับการคัดเลือกก็ยังคงเสนอแนวความคิดเป็นลายลักษณ์อักษรไปยังสมาชิก สปช.ที่ได้รับการคัดเลือกอีกทางหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจว่าคนที่ กปปส.มอบหมายให้สมัครจะได้รับการคัดเลือกหรือไม่ นายถาวรกล่าวว่า ไม่มีอะไรมั่นใจเพราะเราไม่ได้ใช้เส้นสาย แต่มีความตั้งใจ 100เปอร์เซ็นต์ พร้อมนำเสนอบุคคลที่คิดว่าดีอยู่แล้ว ทั้งด้านความคิดและสติปัญญา เพราะฉะนั้นขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสรรหาจะเห็นชอบหรือเห็นความสำคัญของบุคคล ที่เคยเริ่มต้นปฏิรูปประเทศไทยมาตั้งแต่ช่วงแรกๆ ทั้งนี้ ตนคิดว่า กปปส.ไม่ตกขบวนปฏิรูปอยู่แล้วเพราะเราเป็นผู้จุดประกายให้มีการปฏิรูปนำหน้าคนอื่นมาตลอด แต่คนล้าหลังทางความคิดอาจจะตกขบวน ส่วนระยะเวลา 1 ปี ตามโรดแมปของรัฐบาลจะเพียงพอหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของคณะกรรมการ สปช. อยากให้ทุกคนที่ได้รับเลือกมีความตั้งใจและทุ่มเทในการทำงาน อย่างไรก็ตาม สำหรับตนจะไม่ลงสมัครแน่นอนเพราะไม่อยากถูกมองว่าเป็นคนที่ริเริ่มทำกติกาปฏิรูป แต่กลับลงสมัครเสียเอง จะถูกกล่าวหาได้ว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน
นายถาวรกล่าวว่า 11 แนวทางที่ คสช.เสนอเป็นเรื่องดี ตรงกับ กปปส.6 แนวทาง แต่ที่อยากเห็นมากที่สุด คือ การปฏิรูปด้านทุจริตคอร์รัปชัน, การกระจายอำนาจ, การจัดสรรทรัพยากร, กระจายความเป็นธรรม, ด้านกระบวนการยุติธรรม เพราะขณะนี้ การอำนวยการบริการของหน่วยงานด้านยุติธรรมของประเทศไทย ล่าช้ามาก ส่งผลให้คนที่รอรับความเป็นธรรม ไม่ได้รับความยุติธรรม นอกจากนี้ เห็นว่าการปฏิรูปการศึกษาเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะการศึกษาของเราขณะนี้ถอยหลังเข้าคลองมาตลอด เด็กไทยด้อยคุณภาพ ในเรื่องของการใช้ปัญญา และวิธีคิด วิเคราะห์ โดยเฉพาะเรื่องของศีลธรรมลดลง จึงควรปฏิรูปให้หนัก
ส่วนความคาดหวังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่นั้น นายถาวรกล่าวว่า ต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาให้ได้ ไม่ใช่มาแค่เป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ซึ่งปัญหาที่รอคอยขณะนี้ คือ เรื่องค่าครองชีพและราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ
ด้านนายอิสสระ สมชัย อดีต ส.ส. แกนนำ กปปส.กล่าวว่า การที่มีบุคคลหลากหลายเข้ามาสมัคร สปช.กันมาก น่าจะเป็นเรื่องที่ดี ตนอยากให้มีคนหลากหลายสาขามาสมัคร เพราะการปฏิรูปประเทศไม่ควรเจาะจงด้านใดด้านหนึ่ง แม้จะไม่สมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์เสียทีเดียว แต่ปัญหาจะได้ลดน้อยลง ฉะนั้นการที่มีบุคคลจากหลายฝ่ายมาสมัคร จึงเป็นการช่วยกันระดมความเห็นว่าควรเป็นไปในทิศทางใด ส่วนตัวเห็นด้วยกับแนวคิดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ต้องการให้หลายฝ่ายเข้ามาร่วมกัน จะได้ไม่ตกขบวนการปฏิรูป เพราะกว่า กปปส.จะต่อสู้จนมีการปฏิรูปเกิดขึ้นเราลำบากกันมามาก
นายอิสสระกล่าวว่า ตนคิดว่าระยะเวลาเพียง 1 ปี อาจจะไม่เพียงพอที่จะปฏิรูปได้อย่างรอบด้าน หากนายกรัฐมนตรีอยากปฏิรูปให้รอบด้านจริงๆ ก็ไม่ควรไปจำกัดระยะเวลาการทำงาน แต่เมื่อวางโรดแมฟไว้ว่าจะให้มีการเลือกตั้งเดือนตุลาคมปีหน้าก็จำเป็นต้องระดมความคิดของทุกฝ่ายมาช่วยกัน อย่างน้อยก็เป็นการปูพื้นฐานซึ่งในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีการแก้ไขหรือเพิ่มเติมส่วนใดได้บ้างก็ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตต่อไป อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวอยากให้ปฏิรูปการเมืองเป็นอันดับแรก ทำอย่างไรจะแก้ไขปัญหาเรื่องการซื้อขายเสียง เรื่องนายทุนผูกขาดพรรคการเมือง คือ มีนายทุนมาเป็นเจ้าของหรือตั้งพรรค ด้วยการอาศัยคำว่าการเมืองเข้ามาบังหน้า แต่แสวงหาประโยชน์ส่วนตัว ทำอย่างไรเราถึงจะกำจัดนายทุนเหล่านี้ให้ได้
นายอิสสระกล่าวว่า สำหรับตนจะไม่ไปสมัคร สปช.เพราะไม่พร้อมที่จะเข้าไปร่วมในกระบวนการส่วนนี้ และเกรงจะถูกมองว่าเพราะ กปปส.ต่อสู้เรื่องปฏิรูปจึงต้องการเข้าไปทำงานที่เกิดประโยชน์แก่ฝ่ายของตัวเอง
