รายงานการเมือง
เข้าสู่โรดแมปขั้นที่ 2 ตามที่ตัวเองวางไว้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่นำขบวนโดย “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ผ่านช่วงเวลาแห่งการยึดอำนาจและปัดกวาดบ้านเมือง จนถือว่าสงบราบคาบในระดับหนึ่ง
มาถึงตอนนี้ต้องพลิกบทมาเล่นเป็นฝ่ายบริหารตามที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่ต้น ยึดเอง เล่นเอง
พล.อ.ประยุทธ์ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)เลือกเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ของประเทศไทย แบบเบ็ดเสร็จ ไม่เหนือความคาดหมาย เพราะรู้กันตั้งแต่ไก่โห่ว่าจะเป็นนายกฯ เอง ที่ผ่านมาตั้งแต่หลังยึดอำนาจก็ซักซ้อมตัวเองเพื่อมารับตำแหน่งนี้อยู่แล้ว ทั้งการให้สัมภาษณ์ การวางตัว
ด้วยบุคลิกที่ดูเข้าทีมีความมั่นใจ เด็ดขาด กล้าคิดกล้าทำ แรกๆผู้คนล้วนชื่นชมและให้กำลังใจแต่ยิ่งนานเข้าๆ ชักเริ่มทะแม่งๆ ไม่ได้ฉายแววโดดเด่นอะไรเพิ่มเติม นอกจากความแกร่งกร้าว เบ่งกล้าม การออกมาให้สัมภาษณ์ หรือการพูดออกอากาศในรายการคืนความสุขฟังแล้วก็เพลินดี มันดี แต่พอฟังเรื่อยๆ บ่อยๆ ก็ไม่เห็นมีอะไรสัพเพเหระเรื่องทั่วไป เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็พูดจนน้ำลายแตกฟอง แล้วก็เหน็บคนนั้นทีจวกคนนี้ที สนุกดีแท้
ท่วงทำนองลีลาแบบมันๆ พูดแบบนั้นมันก็ง่ายๆ แต่สำคัญคือเนื้อหา พล.อ.ประยุทธ์ นำปัญหาหลายเรื่องมาแจกแจง แต่ที่น่าฉงนคือ บ่อยครั้งที่พูดถึงสาเหตุต้นตอปัญหาแต่กลับไม่มีวิสัยทัศน์ในการแก้ไข ไม่มีวิธีการนำไปสู่การสางปัญหา เที่ยวโยนไปให้ฝ่ายนั้นฝ่ายนี้จัดการ หรือโยนให้ผู้ประสบปัญหาแก้ไขเอาเอง!!!
ตรรกะบางอย่างที่ว่ามาก็ไม่เป็นเหตุเป็นผล ฟังเผินๆ ดูดี แต่ถ้ามองลึกลงไปใช้ไม่ได้ อย่างเรื่องปัญหาราคายางพารา บอกให้แก้ปัญหาแบบกำปั้นทุบดิน ถ้ามีปัญหามากนักก็ไปปลูกอย่างอื่นแทน ฟังแล้วแทบจะหงายหลังตกเก้าอี้ นี่หรือวิธีคิดของผู้นำประเทศ
จะปลูกอะไรล่ะครับ ท่านชาวบ้านฝากถามมา พูดง่ายๆ แบบนี้เหมือนไม่รับผิดชอบ สภาพบ้านเมือง ภูมิประเทศภูมิอากาศในแต่ละภาคของประเทศล้วนแตกต่างกัน บางที่มันทำแบบที่ท่านพูดไม่ได้พืชผลการเกษตรการเจริญเติบโตของแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกันอย่างภาคใต้ก็คงไปปลูกลำไยไม่ได้ ปลูกไปก็ไม่ขึ้น ไม่โต
วันนี้ชาวบ้านต้องการแนวทางแก้ไขปัญหาของผู้มีอำนาจอย่างเป็นรูปธรรมเรื่องสำคัญเหนืออื่นใด ก็คือเรื่องยางพารานี่แหละต้องแก้ปัญหาราคาตกต่ำให้ได้เสียก่อน ง่ายๆคือต้องทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำลงถ้าทำได้ แค่นี้ชาวบ้านก็พอใจแล้ว จากนั้นก็ไปแก้ปัญหาเรื่องพ่อค้าเอาเปรียบ ต้องไปจัดการพวกนายทุนใหญ่ๆ อย่าให้รีดเลือดกับปู คสช.ต้องเป็นตัวประสานหาจุดพอใจทำให้นายทุน และเกษตรกรอยู่ได้
อย่าเที่ยวแต่บอกว่าให้ชาวบ้านเลิกทำเลิกปลูกพืชที่มีปัญหา อย่าให้มันซ้ำรอยเรื่องหวย ที่สุดท้ายปัญหาก็วนกลับไปเหมือนเดิมแก้ไขไม่สะเด็ดน้ำ
วันนี้หลายสิ่งหลายอย่างกำลังรอการแก้ไขจากรัฐบาลชุดใหม่ทั้งเรื่องราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ เรื่องการส่งออก เรื่องการลงทุนในประเทศที่พบว่าต่างชาติย้ายฐานการลงทุนออกไปเยอะสืบเนื่องจากปัญหาการเมืองที่ต่อเนื่องยาวนาน อีกทั้งยังมีกฎอัยการศึกสัญลักษณ์ทหารครอบงำประเทศ
ทั้งหลายทั้งปวงล้วนคาบเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจถือเป็นปัญหาหลักที่ต้องสะสาง เป็นจุดวัดดวงว่ารัฐบาลชุดใหม่จะสอบผ่านหรือล้มเหลว
หลังจากเลือกนายกรัฐมนตรีเสร็จเรียบร้อยแล้วขั้นตอนต่อไปก็คือจัดตั้งครม. เมื่อรู้ดีว่าจุดเดิมพันก็คือทีมงานด้านเศรษฐกิจ ฉะนั้นก็ควรเลือกเฟ้น เน้นมืออาชีพสร้างความเชื่อมั่นทั้งภาพลักษณ์และฝีมือได้รับการยอมรับจากทั้งคนในชาติและนานาชาติ
ไม่ควรที่จะเอานายทหารมานั่งเป็นรัฐมนตรีควบคุมดูแลกระทรวงเศรษฐกิจเห็นมีข่าวแว่วๆ ว่านายพลจะตบเท้ากันเข้ามา เช่น พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. จะมาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ก็ขอบอกว่าอย่าเลยวันนี้ภาพลักษณ์ประเทศไทยทหารเต็มบ้านเต็มเมือง ต่างชาติมองเข้ามาด้วยท่าทีเคลือบแคลง
ลำพังแค่ตัว พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่รู้ว่าเดินทางไปต่างประเทศได้หรือเปล่ายุโรป สหรัฐอเมริกา เขาจะต้อนรับหรือไม่
ถ้ารัฐมนตรีเป็นทหารต้องเดินทางไปติดต่อค้าขายกับต่างประเทศคงดูไม่จืดอาจโดนปิดประตูใส่หน้าแบบไม่ไยดีและกระทรวงเศรษฐกิจก็เกี่ยวข้องกับการติดต่อค้าขาย ส่งออก ต้องมีการเจรจาอยู่ตลอด
ฉะนั้นต้องหน้าตาดีเซ็งลี้ฮ่อ
คนเก่งๆ มือเศรษฐกิจเจ๋งๆ ที่นานาชาติยอมรับ ในประเทศเราก็มีอยู่เยอะแยะขอให้เน้นทีมเศรษฐกิจ ต้องดูดีทุกกระเบียด เหมือนคุณชายจากวังจุฑาเทพ อย่าเอาทหารมาเป็นเลยถ้าจะให้ตำแหน่งก็นู่นเลยด้านความมั่นคง สังคม เอาเลย เอาทหารมาเป็นไม่มีใครว่างานถนัดอยู่แล้ว แต่ขอว่าอย่าเอามาคุมเศรษฐกิจที่ไม่ถนัด
ต้องกระตุกเตือน คสช.กันเอาไว้เพราะดูเหมือนว่ากำลังเพลิดเพลิน จนคิดว่าทำอะไรก็ได้จะจับใครใส่ตำแหน่งไหนก็เรื่องของฉัน ซึ่งมันไม่ใช่แน่หลายคนไม่กล้าเตือนก็เตือนกันก่อนที่ความเสียหายจะตามมาเรื่องเศรษฐกิจถ้าเสียไปแล้วก็ยากที่ดึงกลับคืนฟื้นความเชื่อมั่น
อย่าลืมว่าวันนี้ในสายตาต่างชาติเขามองเราไม่ใช่ประชาธิปไตยเขาไม่ยอมรับทหาร ไม่ยอมรับการรัฐประหาร ไม่ว่าจะมีเหตุผลความจำเป็นแค่ไหนก็ตามแต่ขึ้นชื่อว่าการรัฐประหารล้วนสวนทางกับระบอบประชาธิปไตยที่สังคมโลกส่วนใหญ่ยอมรับ
การจัดตั้ง ครม.จึงเป็นเรื่องสำคัญมากในการจัดวางคนนอกจากเหมาะสมกับงาน เก่ง ดี มีวิสัยทัศน์ ภาพลักษณ์ ยังต้องดูดีด้วยแต่แว่วว่าการจัด ครม.ไม่ลงตัวมีความขัดแย้งภายในเกิดขึ้นบูรพาพยัคฆ์ยังเขย่ากันไม่ลงตัว
ชื่อของ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์เผ่าจินดา อดีต ผบ.ทบ. ค่อนข้างนิ่งในตำแหน่งมท.1 รมว.มหาดไทย แต่หลายคนจับตาว่าพี่ใหญ่ “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานที่ปรึกษา คสช. จะมาหรือไม่มา ถ้ามาจะเป็นตำแหน่งอะไร
แว่วว่าจะเป็นรองนายกฯ ควบ รมว.กลาโหม แต่รายงานข่าวแจ้งว่า ถ้า “บิ๊กป้อม” นั่งตำแหน่งรมว.กลาโหมอาจทำให้ดุลอำนาจเสียศูนย์ ขาดเอกภาพ กองทัพมีผู้นำ 2 คน ทั้ง “บิ๊กตู่” และ “บิ๊กป้อม” การบริหารงานโดยเฉพาะด้านความมั่นคงของพล.อ.ประยุทธ์คงดูติดขัด
จึงเป็นไปได้มากกว่าที่ พล.อ.ประยุทธ์จะควบตำแหน่ง รมว.กลาโหมเองอำนาจยังอยู่ในมือเบ็ดเสร็จเหมือนเดิม ถ้าออกมาแบบนี้ พล.อ.ประวิตรคงไม่รับตำแหน่งใน ครม. เหลือรองนายกฯตำแหน่งเดียวดูเล็กไปสำหรับพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์!!!
หน้าตา ครม.จะออกมาอย่างไรอีกไม่กี่อึดใจคงได้รู้กัน แต่เมื่อมีอำนาจล้นมือจะแต่งตั้งใครก็ได้ คสช.ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ ควรคำนึงถึงความเหมาะสม Put the right man on the right job เพราะการบริหารงานบ้านเมืองไม่ใช่เรื่องเล่นๆยิ่งยามหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้จะลองผิดลองถูกไม่ได้
เสียงชื่นชมหรือก่นด่าก็ว่ากันที่หน้าตาของ ครม.ด้วยนะครับท่าน!!!