“พรเพชร” ทำหน้าที่ประธาน สนช.เปิดประชุม ตั้ง กมธ.ก่อนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบปี 58 กว่า 2.575 ล้านล้าน ตามแผนพัฒนา ศก.ฉ.11 ร่วมนโยบาย คสช.และยุทธศาสตร์ 8 ด้าน ศธ.คว้าสูงสุด 4.8 แสนล้าน กลาโหมงบผูกพันถึงปี 61 มากสุด “ประยุทธ์” แจงด้วยตัวเอง
วันนี้ (18 ส.ค.) ที่รัฐสภา การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เข้าสู่วาระการประชุมนัดที่ 2 เพื่อพิจารณาเรื่องด่วน คือ ตั้งคณะกรรมาธิการสามัญยกร่างข้อบังคับการประชุมสนช.ตั้งคณะกรรมาธิการสามัญ กิจการ สนช.(ชั่วคราว) และพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2558 วงเงิน 2.5 ล้านล้านบาท ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และคณะ ได้เดินทางมาชี้แจงด้วยตัวเอง
โดยก่อนหน้านี้ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้กล่าวว่า รู้สึกปลาบปลื้มที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้เป็นประธาน สนช. ถือเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิติรัฐที่ปกครองด้วยกฎหมาย พร้อมยืนยันจะยึดหลักนิติรัฐนิติธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ที่จะนำไปสู่การปกครองที่สมบูรณ์ในเวลาอันใกล้ต่อไป
ขณะที่นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.คนที่ 1 และนายพีระศักดิ์ พอจิตร รองประธาน สนช.คนที่ 2 กล่าวว่า จะทำงานโดยจะนำพระราชดำรัสในช่วงที่มีการเปิดประชุม สนช.มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติ เชื่อว่า สนช.ทุกคนจะอุทิศตนทำหน้าที่ไปสู่เป้าหมายและยืนยันว่าจะนำพาประเทศไปสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริงในอนาคตอันใกล้
ต่อมาได้มีการเปิดประชุม นายพรเพชรได้พิจารณาวาระรับทราบพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมประกาศแต่งตั้งประธานและรองประธาน สนช. การพิจารณาเรื่องด่วนตั้งคณะกรรมาธิการสามัญยกร่างข้อบังคับการประชุม สนช., ตั้งคณะกรรมาธิการสามัญกิจการ สนช.(ชั่วคราว) และวาระการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2558 วงเงินงบประมาณ 2.575 ล้านล้านบาท ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้เสนอ
โดยที่ประชุม สนช.จะเร่งพิจารณาร่างงบประมาณดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้ทันการเบิกจ่ายในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ การประชุมในวันนี้จะพิจารณาให้แล้วเสร็จในขั้นรับหลักการ วาระที่ 1
สำหรับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 ที่กำหนดเม็ดเงินงบประมาณไว้ที่ 2.575 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 19.5 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ หรือจีดีพี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2557 จำนวน 50,000 ล้านบาท และยังคงจัดสรรเป็นงบขาดดุล อยู่ที่ 2.5 แสนล้านบาท โดยคาดถึงอัตราการเจริญเติบทางเศรษฐกิจในปีงบประมาณนี้น่าจะเติบโตร้อยละ 6.3 หรือเป็นมูลค่า 13 ล้าน 2 แสนล้านบาท และคาดการณ์ถึงอัตราเงินเฟ้อร้อยละ 2.3
ทั้งนี้ ในบทแนบท้ายร่างกฎหมายระบุถึงความแตกต่างของการจัดสรรงบประมาณครั้งนี้ ไม่ได้เป็นไปตามแนวนโยบายรัฐบาลจากการเลือกตั้งและแผนบริหารราชการแผ่นดิน แต่เป็นไปตามนโยบายแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติฉบับที่ 11 พิจารณาร่วมกับนโยบายของ คสช. และกำหนดยุทธศาสตร์ในการดำเนินการอย่างบูรณาการ 8 ยุทธศาสตร์หลัก ประกอบไปด้วย ด้านการศึกษาและสาธารณสุข, ด้านการบริหารจัดการบ้านเมือง, ด้านความมั่นคง, ด้านการฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประเทศ,ด้านเศรษฐกิจ, ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และด้านการต่างประเทศ
ทั้งนี้ หากพิจารณาจากการจำแนกรายกระทรวง พบว่า กระทรวงศึกษาธิการได้รับการจัดสรรงบประมาณในวงเงินสูงสุดถึง 482,788.6 ล้านบาท ในขณะที่กระทรวงกลาโหมที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ คสช.ได้รับการจัดสรรงบประมาณติดอันดับ 5 ของกระทรวงที่ได้มากที่สุด ขณะที่กระทรวงคมนาคมซึ่งเป็นกระทรวงที่ต้องขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่ ได้รับการจัดสรร 1 แสนกว่าล้านบาท แต่มีข้อสังเกตว่า ในช่วงท้ายของร่างกฎหมาย ระบุถึงภารผูกพันข้ามปี ตั้งแต่ปี 2557 ถึง ปี 2561 โดยกระทรวงกลาโหมวางงบผูกพันไว้มากที่สุด และกระทรวงคมนาคม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตามลำดับ
ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวชี้แจงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 ต่อ สนช.แล้ว
