คสช.ไม่หนักใจ “จอห์น แคร์รี” ตำหนิซ้ำ ชี้กลไกแจง ตปท.ดี ไม่งั้นถูกกดดันกว่านี้

ทีมโฆษก คสช.ย้ำเดินหน้าทำความเข้าใจต่างชาติต่อ หลัง กต.มะกันจ้อตำหนิรอบสอง รับมีกลไกอยู่แล้วโครงสร้างดี ไม่งั้นคงถูกกดันกว่านี้ แจงเดินตามโรดแมปชัด หลายชาติเข้าใจ ไม่หนักใจแจงชาติที่เข้าใจ

วันนี้ (15 ส.ค.) ที่หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่นายจอห์น แคร์รี รมว.ต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่าขณะนี้ประชาธิปไตยของประเทศไทยเดินถอยหลังตั้งแต่มีการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค.รวมถึงเรียกร้องให้ทางการไทยยกเลิกข้อจำกัดต่างๆ ในการแสดงออกและการเคลื่อนไหวทางการเมือง ว่า เรากำลังดำเนินการตามโรดแมป เรื่องดังกล่าวเราอาจจะต้องมีการประสานงานกับกระทรวงต่างประเทศ ในเรื่องการทำความเข้าใจและได้มีการดำเนินการทำอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องเข้าใจว่าบางครั้งมีข้อมูลใหม่ๆและข้อมูลอื่นๆ เข้ามาตลอดเวลา ดังนั้นการสร้างความเข้าใจจึงต้องดำเนินการอยู่ต่อไป

เมื่อถามถึงการที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ มีการทำเรื่องเสนอ คสช.ว่าควรจะต้องจัดตั้งคณะทำงานพิเศษขึ้นมาดำเนินการเรื่องต่างประเทศ เนื่องจากกระทรวงการต่างประเทศไม่เข้าใจในกระบวนการ และคสช.ก็ไม่สามารถอธิบายกับต่างประเทศได้ พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวว่า คงไม่ใช่ลักษณะนั้น ในส่วนการสร้างความเข้าใจคสช.มีกลไกปกติของภาครัฐอยู่แล้ว ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ ฝ่ายความมั่นคง กระทรวงพาณิชย์ หรือคณะทูตต่างๆ ที่มีอยู่ในนามของภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งกลไกที่เรามีอยู่ในโครงสร้างก็ดีอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นตั้งแต่วันทำรัฐประหารในวันที่ 22 พ.ค. แรงกดดันต่างๆจากประเทศที่ไม่เข้าใจก็จะต้องลึกลงเรื่อยๆแล้ว

เมื่อถามย้ำว่านายจอห์น แคร์รีออกมาพูดในลักษณะดังกล่าว 2 ครั้งแล้ว พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวว่า ไม่เป็นไร คนที่มีหน้าที่สร้างความเข้าใจก็ต้องทำงานหนักในเรื่องนี้ต่อไป เพราะเรื่องนี้เป็นนโยบายของ คสช. ที่ต้องใช้การสร้างความเข้าใจในทุกข้อเรียกร้อง ให้เข้าใจ ซึ่งเรามีโรดแมปที่ชัดเจนแล้ว และเราก็ได้แสดงเจตนารมณ์ของคสช.ที่ชัดเจนแล้วทั้งการตั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) การตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ทำให้เห็นว่าเราไม่ได้เบี่ยงเบนไปในทิศทางไหน เรามีธงประเทศ เดินหน้าตามที่เราประกาศไว้ต่อสาธารณะ ในหลายประเทศก็เข้าใจและเห็นความจริงใจและเจตนารมณ์เหล่านี้ แต่อาจมีบ้างที่บางประเทศอาจจะไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่หนักใจและเกินความสามารถต่อคนที่มีหน้าที่โดยตรงจะเข้าไปดำเนินการหลักในเรื่องเหล่านี้