อดีต ส.ส.ปชป. เผย หนังสือผู้ตรวจฯ ชี้ “ยิ่งลักษณ์ - เฉลิม” ฐานะ ปธ.กตช.- ก.ต.ร. ไร้อำนาจถอดยศ “นช.แม้ว” ไม่ละเลยหน้าที่ แถมเผยคำชี้แจง “อดุลย์” ไม่ถอดยศ แม้ศาลสั่งจำคุก เหตุ สตช. ไม่เสื่อมเสีย เคยสร้างชื่อให้ โวยสวนทำชาติพินาศ ดันอ้างชื่อเสียง ฉะ ต้นน้ำยังไม่สะอาด แจง ผู้ตรวจฯ จี้ นำประเด็นหนี 5 หมายจับมาพิจารณาเพิ่ม จับตา รรท.ผบ.ตร. ดำเนินการ บีบ หน.คสช. ตัดสินใจ เลิกโบ้ย
วันนี้ (10 ส.ค.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ได้รับหนังสือจากผู้ตรวจการแผ่นดิน ลงวันที่ 7 ส.ค. 57 เกี่ยวกับกรณีที่ตนเคยยื่นคำร้องให้ตรวจสอบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเป็น ประธาน กตช. และ ก.ตร. ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีไม่ดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินให้จำคุก 2 ปี จากคดีที่ดินรัชดา โดยทางผู้ตรวจการแผ่นดิน เห็นว่า บุคคลทั้งสองไม่ใช่เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณา หรือดำเนินการถอดยศตำรวจตามที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 จึงไม่ถือว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ กับ ร.ต.อ.เฉลิม มีการละเลยหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายตามที่มีการร้องเรียน
นายวัชระ กล่าวว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินยังเห็นว่า การที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ไม่ดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการใช้ดุลพินิจที่ยุติแล้วจึงไม่มีการกระทำที่เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายแต่อย่างใด โดยในหนังสือของผู้ตรวจการแผ่นดินได้อ้างถึงคำชี้แจงของ พล.ต.อ.อดุลย์ ถึงเหตุผลที่ไม่มีการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า แม้ศาลฎีกาฯจะตัดสินจำคุก พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ก็ไม่ถือว่าสร้างความเสื่อมเสียต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากเหตุผลที่นำไปสู่คำพิพากษานั้นเป็นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ลงนามรับรองการซื้อที่ดินของคุณหญิงพจมาน ซึ่งเป็นภรรยาเท่านั้น จึงไม่ถือว่าเป็นการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงที่ต้องดำเนินการถอดยศแต่อย่างใด อีกทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เคยเป็นผู้บริหารสูงสุด ที่สร้างชื่อเสียงให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงใช้ดุลพินิจไม่เสนอ ถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ
“ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ สร้างความเสียหายในการทุจริตและใช้อำนาจรัฐในทางมิชอบสร้างความพินาศให้กับประเทศมหาศาล การที่ไม่ยอมถอดยศโดยอ้างว่าสร้างชื่อเสียงให้สำนักงานตรวจแห่งชาติ ถือเป็นหนึ่งในแม่น้ำ 5 สาย ใช่หรือไม่ ถ้า พล.อ.อดุลย์ เป็นต้นทางน้ำที่สะอาดไม่มีมาตรฐานเลือกปฏิบัติ ปลายน้ำจะเป็นอย่างไร แล้วแม่น้ำจะสะอาดได้อย่างไร”
อย่างไรก็ตาม ทางผู้ตรวจการแผ่นดิน เห็นว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังไม่ได้นำข้อเท็จจริงประเด็นที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ตกเป็นผู้ต้องหาคดีอาญาแล้วหลบหนีตามหมายจับของศาลฎีกาฯรวม 5 คดี ซึ่งอยู่ในหลักเกณฑ์ตามข้อ 1 (6) แห่งระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการถอดยศตำรวจ พ.ศ. 2547 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องนำมาพิจารณาประกอบในการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้น ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการตามระเบียบดังกล่าวเพื่อให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกัน
นายวัชระ กล่าวว่า หลังจากนี้จะได้ติดตามความคืบหน้าทั้งจากผู้ตรวจการแผ่นดิน และ พล.ต.อ.วัชรพล ประสานราชกิจ รักษาราชการแทน ผบ.ตร.ว่ามีการดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้เป็นไปตามความเห็นของผู้ตรวจการแผ่นดินหรือไม่ พร้อมกับเรียกร้องไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ซึ่งมีอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ว่าควรจะตัดสินใจดำเนินการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เพื่อให้ระเบียบและกฎหมายบังคับใช้ได้โดยเสมอภาค ไม่ใช่โยนเรื่องกลับไปให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาเหมือนที่ผ่านมา
“พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะที่เป็นเจ้าของรัฏฐาธิปัตย์แต่เพียงผู้เดียว ควรใช้ความเด็ดขาดพิจารณาปัญหาทุกเรื่อง อย่าโยนไปต้นสังกัดและตัดสินใจให้เด็ดขาดว่าจะถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ หรือถ้าไม่ถอดเพราะอะไรควรแจ้งให้ประชาชนรับทราบเพื่อความชัดเจนจะได้ไม่อึมครึมอีกต่อไป”
