กรมควบคุมโรคระบุไทยเสี่ยงติดเชื่อไวรัสอีโบลาในเกณฑ์ต่ำ แต่ไม่ประมาท จัดระบบเฝ้าระวังเข้ม 5 สนามบินหลัก กำชับทุกโรงพยาบาลเกาะติดระวังโรค
ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) วันนี้ (6 ส.ค.) นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาในประเทศทวีปแอฟริกา คือ กินี ไลบีเรีย เซียร์ราลีโอน และไนจีเรีย โดยองค์การอนามัยโลกสรุปยอดผู้ป่วย ณ วันที่ 4 ส.ค. 2557 พบผู้ป่วย 1,603 ราย เสียชีวิตแล้ว 887 ราย ปัจจุบันโรคนี้ยังไม่มีวัคซีน หรือยารักษาเฉพาะ
ทั้งนี้ ไทยได้ประเมินความเสี่ยงต่อโรคติดเชื้อไวรัสอีโบล่าในเกณฑ์ต่ำ แต่ก็ไม่ได้ประมาท โดยกระทรวงสาธารณสุขได้จัดระบบเฝ้าระวัง และเตรียมความพร้อมในการวินิจฉัยและดูแลผู้ป่วย ได้แก่ เฝ้าระวังโรค โดยเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางจากประเทศที่มีการระบาดในสนามบินนานาชาติทั้ง 5 แห่ง คือ สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง สนามบินเชียงใหม่ สนามบินภูเก็ต และสนามบินหาดใหญ่
นอกจากนี้ ได้ให้โรงพยาบาลทุกแห่งทำการเฝ้าระวังโรค โดยเอาใจใส่ค้นหา และรายงานผู้ป่วยที่มีอาการสงสัย โดยเฉพาะผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ รวมถึงเตรียมความพร้อมมาตรการดูแลรักษาหากมีผู้ป่วยมีอาการสงสัยโดยใช้มาตรการเดียวกับการดูแลผู้ป่วยโรคติดต่ออันตรายสูง โดยสำนักระบาดวิทยาได้ติดตามสถานการณ์ในต่างประเทศอย่างใกล้ชิด โดยประสานงานกับองค์การอนามัยโลก และเครือข่ายการเฝ้าระวังโรคระหว่างประเทศ ขณะที่กรมวิทยาศาสตร์การเแพทย์ เตรียมความพร้อมในการตรวจชันสูตรทางห้องปฏิบัติการ โดยประสานอย่างใกล้ชิดกับเครือข่ายห้องปฏิบัติการในประเทศ และความร่วมมือกับหน่วยงานในต่างประเทศ เพื่อตรวจวิเคราะห์การติดเชื้อไวรัสชนิดนี้
นพ.โสภณกล่าวว่า โรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาเป็นโรคติดเชื้อจากไวรัสที่มีความรุนแรง ติดต่อโดยการสัมผัสกับเลือด หรือของเหลวจากร่างกาย โดยมีระยะฟักตัวของเชื้อ 2-21 วัน ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูงอย่างรวดเร็ว อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ และปวดศีรษะมาก ตามด้วยอาการเจ็บคอ อาเจียน ท้องเสีย และมีผื่นนูนแดงขึ้นตามตัว และในรายที่มีอาการรุนแรงจะมีอาการเลือดออกง่าย อวัยวะหลายระบบเสื่อมหน้าที่ และเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยได้เฝ้าระวังนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา ตั้งแต่วันที่ 8 มิ.ย. 2557 จำนวน 341 ราย ซึ่งเกินระยะเวลา 21 วัน จำนวน 251 ราย และมีผู้ที่ต้องเฝ้าระวังจำนวน 21 ราย เนื่องยังคงอยู่ในระยะการฟักตัวของเชื้อชนิดดังกล่าว