xs
xsm
sm
md
lg

“รสนา” ไขปริศนากำไร ปตท.หายไปไหน? ตอกหน้า “ปิยสวัสดิ์” ไม่ปลื้มกำไรต่ำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว. กรุงเทพฯ (แฟ้มภาพ)
อดีต ส.ว.กทม.เปิดดัชนีกำไร ปตท. ชี้ชัดค้าขายกับต่างประเทศรายได้สูงแต่กำไรน้อย สวนทางหากินในไทยสัดส่วนรายได้น้อยแต่กำไรงาม ตั้งแง่บริหารไร้ฝีมือหรือมีการผ่องถ่ายกำไรไปลงทุนเกาะเคย์แมนหรือไม่? ไล่ “ปิยสวัสดิ์” ไปแก้จุดบกพร่องก่อนจะมาขูดรีดขึ้นราคาก๊าซหุงต้มซ้ำเติม ปชช.

วันนี้ (3 ส.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 01.10 น. น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว. กรุงเทพฯ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว รสนา โตสิตระกูล ภายใต้หัวข้อ “แกะรอย กำไร ปตท.หายไปไหน?” สืบเนื่องจากกรณีที่นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานบอร์ด ปตท. ออกมาฟ้องต่อสังคมเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า “ปัจจุบันอัตรากำไรของ ปตท.(Profit Margin) อยู่ระดับต่ำเพียง 2.7% ของยอดขาย ซึ่งต่ำกว่าบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานด้วยกัน และกล่าวอ้างว่าสาเหตุที่ ปตท.มีกำไรต่ำเพราะนโยบายรัฐไม่กล้าตัดสินใจให้ขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม LPG และก๊าซ NGV ทั้งยังกล่าวอ้างว่า ปตท.ต้องแบกภาระก๊าซให้ปีละ 3 หมื่นล้านบาท” นั้น

น.ส.รสนาได้ยกภาพกราฟิกรายงานประจำปีของ ปตท.ในปี 2556 แสดงรายได้ของ ปตท.ว่ามาจากไหน และภาพกำไร ปตท.มาจากไหน พร้อมอธิบายดังนี้


“ในแท่งของรายได้ปี 2556 บอกยอดรายได้รวมของ ปตท. เท่ากับ 2,842,688 ล้านบาท ส่วนที่เป็นสีน้ำเงินคือ รายได้จากหน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศซึ่งสูงถึง52% คิดเป็นเงิน 1,478,197.76 ล้านบาท แต่กลับมีกำไรเพียง 3% คือ 3,228 ล้านบาท (ปี 2555 หน่วยธุรกิจนี้ขาดทุนประมาณ 3,800 ล้านบาท ทั้งที่มีสัดส่วนรายได้ถึงครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมดมาทุกปี)

การที่หน่วยธุรกิจนี้มีสัดส่วนรายได้ที่สูงที่สุดของ ปตท. แต่กลับมีกำไรที่ต่ำที่สุด จึงเป็นประเด็นที่น่าเคลือบแคลงใจ ว่าเป็นธุรกิจอะไรบ้าง เป็นหน่วยธุรกิจที่รวมธุรกิจที่ไปลงทุนในเกาะฟอกเงินเคย์แมนด้วยหรือเปล่า? บริหารอย่างไรจึงมีกำไรต่ำขนาดนี้

ส่วนหน่วยธุรกิจน้ำมัน (ค้าปลีก?) มีสัดส่วนรายได้ 20%คือ 568,537.6 ล้านบาท มีกำไร 8% เท่ากับ 7,444 ล้านบาท ที่นายไพรินทร์ให้สัมภาษณ์ในแทบลอยด์ไทยโพสต์ 20 กรกฎาคมว่า ในกำไร 7,000 กว่าล้านบาทนั้น กำไรส่วนใหญ่เป็นของกาแฟอเมซอนเสียด้วย ประชาชนจึงอยากรู้รายละเอียดว่าธุรกิจร้านกาแฟของ ปตท.มียอดขายและต้นทุนเท่าไรจึงได้กำไรดีกว่าการขายน้ำมัน?

หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติมีสัดส่วนรายได้ 17% เป็นเงิน 483,256.96 ล้านบาท ทำกำไรให้ ปตท.ถึง 20% ของกำไรทั้งหมดคือ 18,492 ล้านบาท ที่กล่าวอ้างว่าแบกรับภาระค่าก๊าซให้ปีละ 3 หมื่นล้านบาท หมายถึงการขาดทุน? หรือขาดทุนกำไรที่จะรีดจากประชาชนกันแน่?

ส่วนรายได้จากการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศทำรายได้ในสัดส่วนแค่ 7% จากรายได้ในปี 2556 คือ 198,988.16 ล้านบาท แต่กลับทำกำไรให้ ปตท.สูงที่สุดในบรรดาธุรกิจทั้งหมดของ ปตท.คือ 39% เป็นยอดเงิน 37,139 ล้านบาท ธุรกิจปิโตรเคมีทำรายได้ในสัดส่วนแค่ 3% คือ 85,280.64 ล้านบาท แต่ได้กำไร 18% เป็นเงิน 16,956 ล้านบาท

คงพอเห็นได้ว่ากำไรหลักๆ ของ ปตท.ล้วนมาจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรภายในประเทศ ได้แก่

1) การสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่เป็นกิจการต้นน้ำ มีสัดส่วนรายได้เพียง 7% แต่สามารถสร้างกำไรให้ ปตท.ถึง 39%

2) ส่วนธุรกิจก๊าซธรรมชาติที่มีสัดส่วนรายได้ 17% สร้างกำไรให้ ปตท.20% และ

3) รายได้จากปิโตรเคมีที่ใช้ก๊าซ LPG จากอ่าวไทยเป็นหลัก สัดส่วนรายได้เพียง 3% แต่ทำกำไรให้ถึง 18% คือ 16,956 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมผลกำไรทั้งหมดในบริษัท PTTGC ซึ่งเป็นบริษัทปิโตรเคมีลูกของ ปตท.ที่ใช้ LPG กว่าครึ่งจากอ่าวไทยเป็นวัตถุดิบโดยมีกำไรถึง 33,277.41 ล้านบาทในปี 2556

รายได้จากทรัพยากรในประเทศที่มีสัดส่วนรายได้รวมใน 3 กิจการของ ปตท.เพียง 27% แต่สร้างกำไรให้ ปตท.ถึง 77% ส่วนกิจการอื่นที่เหลือของ ปตท.แม้มีสัดส่วนรายได้รวมถึง 73% แต่กลับสร้างกำไรให้ ปตท.เพียง 23% เท่านั้น

มองในอีกแง่หนึ่ง คือ ปตท.ทำธุรกิจจำนวนมากที่ไร้ประสิทธิภาพ ใช่หรือไม่? หรือมีค่าใช้จ่ายมากเกินไป? หรือมีการผ่องถ่ายกำไรออกไปลงทุนในเกาะฟอกเงินอย่างเคย์แมน เบอร์มิวดา มากเกินไปใช่หรือไม่? จึงทำให้ Profit Margin ต่ำ

กิจการที่ไร้ประสิทธิภาพเหล่านั้นต่างหากที่เป็นตัวการที่แท้จริงที่นำมาเกลี่ยเพื่อลดทอน Profit Margin ของกำไรอันอู้ฟู่ที่ได้มาจากธุรกิจผูกขาดทรัพยากรทั้งก๊าซธรรมชาติและน้ำมันภายในประเทศ แต่ประธานบอร์ดยังกล้ากล่าวโทษว่าเป็นเพราะนโยบายรัฐที่ไม่ยอมให้ ปตท.ขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม LPG และก๊าซ NGV

ประธานบอร์ด ปตท.ควรไปตรวจสอบกิจการหน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศเสียก่อนว่ามีกำไรต่ำเพราะอะไร เพราะมีการรั่วไหลไปที่ 30 บริษัทในเกาะเคย์แมนหรือเปล่า? ก่อนที่จะหวังมารีดนาทาเร้นเอากับการขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม และค่าน้ำมันจากประชาชน เพื่อไปชดเชยให้กับการขาดทุนเพราะขาดประสิทธิภาพจากการลงทุนสะเปะสะปะของ ปตท. ถ้าไม่มีเรื่องการผ่องถ่ายกำไรไปอยู่ในการขาดทุน หรือกำไรต่ำของกิจการของ ปตท.

นี่กระมัง เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้บอร์ด ปตท.ชุดใหม่เร่งรีบจะแปรรูป ปตท.รอบสอง หรืออีกข้อเสนอคือรีบแยกท่อก๊าซออกมาตั้งบริษัทใหม่ขายในตลาดหุ้นให้ได้ภายในปี 2558 ในช่วงที่มีอำนาจพิเศษของ คสช.ก่อนมีรัฐธรรมนูญ และก่อนมีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง ดังที่นายปิยสวัสดิ์ให้สัมภาษณ์สื่อโดยใช้ข้ออ้างว่าเพื่อหนีการล้วงลูกของนักการเมือง แต่ในความเป็นจริงนั้น คือต้องการหนีการตรวจสอบของประชาชนต่างหาก ใช่หรือไม่!!?”


กำลังโหลดความคิดเห็น