xs
xsm
sm
md
lg

ยกก้น “ประยุทธ์” ให้อำนาจเต็มเหนี่ยว แลกผลงานห่วยแตกโดนยำแน่!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

าจเป็นปฏิกิริยาต่อเนื่องหลังจากมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 ที่มีสาระสำคัญคือ ให้อำนาจแบบล้นฟ้า กับ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่เปิดทางให้ใช้อำนาจผ่านทางบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ มีอำนาจเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว รวมไปถึงเสนอขอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวรที่ผ่านการยกร่างโดยคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญแล้ว

เรียกได้ว่าให้อำนาจกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แบบครอบจักรวาล ชนิดที่เรียกว่าในรอบหลายสิบปีมานี้ทอดตาไปทั่วแผ่นดินไม่เคยมีใครในประเทศไทยมีอำนาจเบ็ดเสร็จเท่าเขาก็แล้วกัน!!

อย่างไรก็ดี ในสถานการณ์ที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ และพิเศษก็อาจอ้างได้ว่าจำเป็นให้ “อำนาจพิเศษ” เพื่อไปถึงเป้าหมายที่ทุกฝ่ายต้องการ นั่นคือ การปฏิรูปประเทศทุกภาคส่วนให้เกิด “ผลสัมฤทธิ์” ขึ้นมาให้ได้

ฉับพลันที่มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวดังกล่าวออกมา ก็มีเสียงวิจารณ์ มีท่าทีไม่ไว้ใจออกมาทันที ซึ่งหากสังเกตให้ดีจะออกมาจากพวกนักการเมือง หรือในปัจจุบันจะเรียกว่าพวก “นักเลือกตั้ง” ทั้งจากพวกที่เป็นฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน ติติงดักคอกันไปในทำนองว่าให้อำนาจกับบุคคล และคณะบุคคลมากเกินไป เกรงว่าจะเสพติดอำนาจไม่ยอมปล่อยมือง่ายๆ

หากแปลความหมายให้เข้าง่ายแบบบ้านๆ ก็คือ กลัวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้อำนาจเกินขอบเขตหรือ “บ้าอำนาจ” และอีกอย่างหนึ่งที่คนพวกนี้กลัว ก็คือ จะไม่คืนอำนาจแล้วนำไปสู่การเลือกตั้งตามกำหนดที่เคยสัญญาเอาไว้ภายในเดือนตุลาคม 2558 อ้างว่า มีการเขียนในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว เปิดช่องให้มีการยุบ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปร. หรือ สปช.) แล้วแต่งตั้งใหม่ ยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ไม่จบสิ้น ดักคอสารพัด

บางคนเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกมาชี้แจงให้เคลียร์ว่าทำไมถึงต้องมีอำนาจแบบนี้ และจะใช้อำนาจอย่างไรบ้าง อ้างว่าเกรงจะใช้กันแบบไร้ขอบเขต ซึ่งความเห็นดังกล่าวก็พอเข้าใจได้ เพราะบางคนก็ต้องการแสดงให้เห็นว่าต้องให้ความเห็นสักหน่อย อย่างน้อยก็ให้สังคมได้เห็นว่าแม้อยู่ในภาวะจำกัดก็ยังออกมาพูดวิจารณ์บ้าง ไม่ใช่เงียบฉี่ไปเฉยๆ

อย่างไรก็ดี หากไม่ถือสาก็ถือว่าเป็นการตักเตือน ชี้แนะกันไว้ล่วงหน้า เพราะทุกคนก็ต้องมีส่วนร่วมกับปัญหา และการแก้ปัญหาบ้านเมือง ไม่เป็นไร

อย่างไรก็ดี หากพิจารณาจากสถานการณ์จริง ในเมื่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้กำลังทหารเข้ามาควบคุมอำนาจกลายเป็น “รัฏฐาธิปัตย์” ได้สำเร็จ ก็ต้องถือว่าอำนาจทุกอย่างอยู่มือของเขาเรียบร้อยแล้ว นาทีนี้ไม่ต้องมาพูดถึงกติกาประชาธิปไตยใดๆ แล้ว ขณะเดียวกัน การเข้ามาในครั้งนี้ก็ได้รับการสนับสนุนจากชาวบ้านมากมายพิสูจน์ให้เห็นกับตามาหลายรอบแล้ว เพราะหากพิจารณาจากความสงบในบ้านเมืองจากวันที่ 22 พฤษภาคม เป็นต้นมา จนถึงวันนี้ผ่านมาสองเดือนเศษ หลายคนก็ยังโอเค ไร้ความวุ่นวาย หลายคนทำมาหากินตามปกติ จะมีบ้างในเรื่องข้อจำกัดในการรวมกลุ่ม การแสดงความคิดเห็นทางการเมือง แต่ในสถานการณ์แบบนี้อาจไม่จำเป็นเพราะได้ฟังได้เห็นกันจนเบื่อแล้ว

สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แน่นอนว่ามีอำนาจล้นฟ้า แต่ด้วยภารกิจความรับผิดชอบตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ก็ต้องถือว่ามีความเสี่ยงไม่แพ้กัน เพราะสิ่งที่กำลังทำนับว่าเป็นงานหิน มีความกดดัน ต้องพิสูจน์กับความ “คาดหวัง” ของคนทั้งประเทศ โดยเฉพาะกับเรื่องปฏิรูปที่เขารับปากว่าต้องทำให้สำเร็จ โดยมีกำหนดระยะเวลาเอาไว้ล่วงหน้า ซึ่งเชื่อว่าสังคมต้องจับตามองทุกฝีก้าว ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งการให้อำนาจแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดอีกด้านหนึ่ง มันก็เหมือนกับว่า “เอาให้สุดๆ ไปเลย” หากทำสำเร็จ ไม่บิดพลิ้วตุกติกก็รับดอกไม้ไปเต็มๆ แต่หากผลงานออกมาห่วยแตก ไม่เป็นไปตามที่พูดเอาไว้ หรือมีการใช้อำนาจเพื่อตัวเอง พวกพ้องไม่สุจริต แบบนี้ก็ไม่ต้องมาแก้ตัวให้เสียเวลา รับรองโดนรุมยำเละแน่

แน่นอนว่าสังคมยุคใหม่มีความตื่นตัว มีคนนับล้านทั่วประเทศออกมาเรียกร้องให้เกิดการปฏิรูปบ้านเมือง กำจัดทุจริตคอร์รัปชันในบ้านเมืองทุกรูปแบบอย่างที่เคยเห็น ประกอบกับในโลกสื่อสารยุคใหม่ไม่มีทางที่จะปิดบัง ปิดกั้นได้มิดหรอก และต้องไม่ลืมว่าในปัจจุบันที่ชาวบ้านเขาเงียบ ไม่ใช่เขากลัว พล.อ.ประยุทธ์ หรือกลัว คสช. แต่เป็นเพราะเขาให้โอกาส และยังเห็นว่าผ่านมากว่าสองเดือน ยังไม่มีอะไรเสียหาย ยังมีความหวัง อาจมีสงสัยบ้างแต่ยังไม่ใช่ประเด็นที่ต้องสรุปในตอนนี้

ส่วนเรื่องอำนาจล้นฟ้าก็เช่นเดียวกัน ชาวบ้านส่วนใหญ่คงไม่ติดใจ เพราะนั่นคือเครื่องมือสำหรับให้ทำงานใหญ่ แต่อย่างที่บอกนั่นแหละหากผลออกมามันไม่คุ้มค่า นี่แหละคือปัญหาใหญ่ที่จะตามมา!
กำลังโหลดความคิดเห็น