เกาะกระแส
00 ความเคลื่อนไหวในบ้านเมืองนับจากนี้ ถือว่าเข้าสู่ช่วงเวลาสำคัญอย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.ได้กล่าวเอาไว้ เมื่อค่ำวันศุกร์ที่ 11 ก.ค. ว่ากำลังเข้าสู่เฟสสอง ของการปฏิรูปบ้านเมือง เพื่อนำไปสู่ประชาธิปไตยที่ยั่งยืน และที่สำคัญต้องการให้ไร้ความขัดแย้งในอนาคต ทำให้บรรยากาศเก่าๆ ของคนไทยกลับคืนมา โดยโรดแมปที่กำลังเดินไปก็คือ ในเดือนนี้จะมี รธน.ชั่วคราวออกมา จากนั้นภายในเดือนก.ย. จะมี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีรัฐบาล และมีสภาปฏิรูปฯ เพื่อนำไปสู่การ ร่าง รธน. ฉบับถาวร โดยมีการระบุตัวเลขสมาชิกสภาปฏิรูปที่มาจากทุกกลุ่มในสังคม
00 ความชัดเจนเพิ่มขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง นั่นคือ สถานะทางอำนาจของ คสช.ตาม รธน.ฉบับชั่วคราว หากกล่าวกันแบบตรงไปตรงมาก็จะออกมาในลักษณะควบคุมรัฐบาลนั่นแหละ โดยจะดูแลในเรื่องความมั่นคงเป็นหลัก ซึ่งแน่นอนว่า นิยามของความมั่นคงมัน "ย่อมกว้างขวาง" ครอบจักรวาลอยู่แล้ว ขณะที่รัฐบาลก็ทำหน้าที่บริหารบ้านเมืองตามแบบสากล รวมทั้งสร้างภาพลักษณ์ และชี้แจงกับต่างประเทศ ซึ่งนาทีนี้ยังไม่ชัดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะนั่งควบเก้าอี้ นายกฯ หรือเปล่า แต่หากสถานะของศูนย์อำนาจออกมาอย่างที่ว่า เป็นหรือไม่เป็น ก็ไม่ต่างกัน เพราะหัวหน้า คสช. ก็ไม่ต่างอะไรกับ"ซูเปอร์นายกฯ" นั่นแหละ
00 สังเกตหรือไม่ว่า ช่วงรอยต่อสำคัญจะไปบรรจบเอาในช่วงเดือนก.ย.ทั้งสิ้น และน่าจะต้องเป็นปลายเดือนเสียด้วย ก็เพราะว่า ส่วนสำคัญ ก็คือบรรดา บิ๊กคสช. จะเกษียณอายุพร้อมกัน ไล่เรียงไปตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. รวมทั้ง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. แน่นอนว่า คนพวกนี้ก็ต้องมีตำแหน่ง รมต.กันอยู่แล้ว รวมทั้งคนที่ยังไม่เกษียณฯ ก็ไม่มีปัญหา เพราะรธน. ยังเปิดกว้างให้ข้าราชการประจำดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ ดังนั้นเมื่อถึงเวลานั้นเราคงได้เห็นว่าใครจะมานั่งควบฯ ใครจะเป็นนายกฯ รวมไปถึงมีใครบ้างที่ก้าวข้ามมาเป็น รมต. แต่ที่ไม่น่าพลาดก็คง พล.อ.ธนศักดิ์ ปฏิมาประกร และ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง แน่นอน !!
00 เมื่องานปฏิรูป การบริหารบ้านเมืองหลังจากเข้าควบคุมอำนาจของ คสช. เริ่มเดินหน้าลงลึกในรายละเอียด มันก็เริ่มได้เห็นปรากฏการณ์บางอย่างที่ "น่าสงสัย" และตั้งคำถาม เริ่มจากการเพิกถอนหนังสือเดินทางกับพวกที่มีหมายจับ พวกที่เป็นผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามมาตรา 112 หลังจากหลบหนีออกนอกประเทศ หลายราย ซึ่งก็สมควร ไม่มีใครเถียง แต่ที่มันน่าสงสัย และอยากจะถามให้ได้คำตอบว่า ทำไมที "หัวหน้าโจรใหญ่" อย่าง ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นต้นตอความขัดแย้ง เกิดการทุจริตกันอย่างมโหฬาร จนศาลสั่งยึดทรัพย์กว่า 4.6 หมื่นล้านบาท ถูกศาลสั่งจำคุก มีหมายจับยาวเป็นหางว่าว กลับอยู่ดีมีสุขในต่างประเทศ ไม่มีการสั่งเพิกถอนหนังสือเดินทาง ไม่เคยถูกเรียกรายงานตัว นี่มันอะไรกัน ช่วยตอบให้ชื่นใจหน่อยสิว่า มีเหตุผลอะไร ติดขัดเรื่องอะไร อธิบายให้ชื่นใจหน่อยสิครับ หรือว่านี่คือ แนวทางการ "ปรองดอง" แบบไม่แตะพวก "อภิสิทธิ์ชน" แบบนี้
00 ขณะเดียวกันได้เริ่มเห็นความเคลื่อนไหวของ ทักษิณ ชินวัตร อีกแล้ว มีการโพสต์ออกมาในออนไลน์ในช่วงนี้ก็คือ เป็นภาพถ่าย ยืนชี้ไปไปที่ภาษาอังกฤษ แปลความหมายว่า "รอ" เหมือนกับการส่งสัญญาณมาถึงบรรดาสาวกทั้งหลายในประเทศไทย ว่าให้ "รอไปก่อน" สักระยะหนึ่ง อย่างน้อยก็อีกราวปีเศษๆ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. รับปากว่าภายในเดือนตุลาคม ปี 58 จะมีการเลือกตั้ง ความหมายก็คือ ตอนนี้ให้อยู่นิ่งๆ กันไปก่อนสักพัก รอจังหวะไปก่อน อีกไม่นานค่อยกลับมาใหม่
00 ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเหล่านี้ มันช่างสอดคล้องกันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ว่าตอนนี้เหมือนแตะมือกันว่า ให้นิ่ง แล้วไม่แตะต้องหรือเปล่า แลกกับการไม่ป่วนหรือเปล่า ขณะเดียวกัน นับจากนี้ให้รอดูบทเฉพาะกาลใน รธน.ชั่วคราว ว่า ครอบคลุมไปถึงไหนบ้าง จะมีเรื่อง "นิรโทษกรรม" ตามมาแค่ไหน ให้จับตารอดูให้ดี ถึงตอนนั้นอาจเห็นอะไรชัดแจ้งขึ้นมาหรือเปล่า พูดไปตอนนี้อาจเหมือนกับพวกกวนน้ำให้ขุ่น !!