ปลัดสำนักนายกฯ ยันไม่ได้ห้ามสื่อลงพื้นที่ตรวจโกดังข้าว คาดเช็กสต๊อกข้าวเสร็จสิงหาฯ ส่วนการวิเคราะห์ต่างๆ จะเสร็จในเดือนกันยาฯ ก่อนรายงาน คสช. ด้านการปฎิรูปราชการ ประเดิมด้วยการสั่งหน่วยงาน คัด ขรก.ที่มีอัธยาศัยไมตรีดีมาคอยต้อนรับประชาชน รับระบบราชการฝังรากลึกมานานแก้ยาก แต่ก็ต้องเริ่มทำ
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการออกตรวจสต๊อกข้าวว่า ได้ทำการตรวจมา 10 วันแล้ว พบโกดังที่ไม่เรียบร้อยหรือบกพร่องหลายแห่ง แต่อยากรอรวบรวมเป็นภาพใหญ่ทีเดียวก่อนเสนอต่อหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และนำมารายงานให้สังคมได้รับทราบ โดยทั้ง 100 ทีมงานทำงานกันอย่างเต็มที่ ส่วนปัญหาก็จะมีแตกต่างกันไปในแต่ละโกดัง ทั้งนี้ได้ประมาณไว้ว่าการสำรวจโกดัง หรือไซโลทั้งหมด น่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม ส่วนการวิเคราะห์เชิงกายภาพ ดีเอ็นเอข้าว ได้กำหนดไว้ถึงเดือนกันยายน ก่อนรายงานคณะกรรมการชุดใหญ่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ระหว่างที่มีการตรวจสอบ ทางกระทรวงพาณิชย์สามารถระบายข้าวออกได้หรือไม่ ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า ทางปลัดกระทรวงพาณิชย์จะเป็นผู้พิจารณาว่าส่วนไหนที่สามารถระบายได้ เพราะหากยิ่งเก็บไว้นานก็จะยิ่งทำให้ประสิทธิภาพของข้าวลดลง เมื่อถามว่าทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุว่าหลักฐานต่างๆ สามารถนำไปดำเนินคดีกับรัฐบาลที่ผ่านมาได้ ปลัดสำนักนายกฯ กล่าวว่า ป.ป.ช. และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ก็ทำในภารกิจของเขาไป ไม่ได้เกี่ยวกับทีมงานของตนที่จะดูเฉพาะเรื่องของปริมาณและคุณภาพข้าวเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น
ส่วนการลงพื้นที่แต่ละครั้งเป็นไปได้หรือไม่ที่จะไม่แจ้งล่วงหน้า เพื่อจะได้พบข้อเท็จจริง ไม่เจอผักชี ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า แต่ละโกดังจะมีกุญแจถึง 4 ชั้น เพราะฉะนั้นจะทำอะไรหรือโยกย้ายอะไรก่อนล่วงหน้า 1-2 วันก็คงไม่ทัน การสำรวจหากพบอะไรที่ดีก็ต้องชื่นชมกัน แต่ถ้าไม่ดีก็ต้องมีการชี้แจงให้สังคมได้รับทราบ
สำหรับเหตุผลที่ไม่ให้สื่อตามไปทำข่าวการสำรวจโกดังต่างๆ ตามที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า ไม่เป็นความจริง สื่อสามารถไปทุกที่และหากตนไปก็จะแจ้งให้สื่อทราบเพราะต้องการให้สื่อได้นำเสนอข้อเท็จจริง
ม.ล.ปนัดดายังกล่าวถึงความคืบหน้าในการปฏิรูปราชการว่า ขณะนี้หลายส่วนราชการได้แจ้งกลับมาแล้วและมองเห็นว่าหนทางในการแก้ไขในเรื่องแรกๆ ควรเป็นเรื่องที่ประชาชนได้สัมผัสได้ ซึ่งตนได้ย้ำไปทุกภาคส่วนแล้วว่าส่วนใดที่มีหน้าที่ต้อนรับและบริการประชาชนประจำวัน ขอให้คัดเลือกบุคลากรที่มีอัธยาศัยไมตรี มีความรู้ความสามารถ ไม่ใช่เอาคนที่หน้าบูดบึ้งไปต้อนรับประชาชน และขอให้ประชาชนช่วยกันดูด้วย หากพบข้าราชใดคนใดปฏิบัติตนไม่เหมาะสมแม้เป็นเรื่องเล็กน้อยก็ขอให้ช่วยแจ้งมาที่ สปน.ด้วยเพื่อจะได้ประสานไปยังกระทรวงต้นสังกัด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้าราชการเป็นกองทัพใหญ่มากที่แก้ลำบากและฝังรากมานาน การจะทำให้เห็นผลโดยเร็วจะเป็นไปได้หรือไม่ ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า อาจจะไม่เร็วมาก แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย เรื่องนี้เป็นปัญหาสะสมกันมานาน ก็ต้องมาวางรากฐานที่ดีให้กับข้าราชการรุ่นใหม่ๆ เหมือนโปรโมเดล เพื่อให้เข้าใจว่าบทบาทหน้าที่ของข้าราชการจริงๆ เป็นอย่างไร ไม่ใช่เข้ามาเป็นเจ้าคนนายคน แต่ต้องเข้ามาเพื่อรับใช้ประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัจจุบันมีผลประโยชน์เยอะ ข้าราชการก็อิงนักการเมือง นักการเมืองก็อิงข้าราชการ ต่างคนต่างได้ประโยชน์ ปลัดประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า วิสัยทัศน์แบบนี้ต้องมีการปรับเปลี่ยน ข้าราชการต้องเข้มแข็ง มีจุดยืนที่มั่นคง เมื่อถามว่าจะสามารถเลิกระบบอุปถัมภ์ได้หรือไม่ เพื่อประเทศชาติจะได้เดินหน้าไปได้ ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า เรื่องนี้ทางสำนักงาน ก.พ. และ กพร.มีอยู่ในใจอยู่แล้ว แต่บางหน่วยงานละเลยการปฏิบัติก็อยากให้สวมให้เต็มรูปแบบอยู่ในใจของผู้เป็นหัวหน้าส่วนราชการ และนำทางองค์กรไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป