หน.ปชป.หารือ คกก.สมาคมค้าเมล็ดพันธุ์ฯ เห็นตรงกันหนุนเทคโนโลยีทันสมัย เพิ่มผลผลิตมีประสิทธิภาพ เล็งชงเป็นนโยบาย ยันประกันรายได้ไม่สร้างปัญหา ชี้ คสช.ขอความร่วมมือลดต้นทุน ระยะยาวคงทำไม่ได้ หนีไม่พ้นเทคโนโลยี ปรับปรุงกฏ เชื่อ ตปท.จับตาหลัง คสช.แจงทูตทหาร หนุน “บิ๊กตู่” ให้ข้อมูล แนะเปิดให้แสดงความเห็นปฏิรูป
วันนี้ (9 ก.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายวีระชัย วีระเมธีกุล แกนนำพรรค พบปะหารือกับคณะกรรมการสมาคมการค้าเมล็ดพันธุ์ไทย ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ภายหลังการหารือนายอภิสิทธิ์เปิดเผยว่า จากการรับฟังและแลกเปลี่ยนความเห็นได้เห็นตรงกันว่านโยบายด้านการเกษตรจะต้องมีการสนับสนุนกระบวนการผลิตและเทคโนโลยีให้ทันสมัย จะทำให้ได้ผลผลิตจำนวนมากและมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะต้องมีการปรับปรุงกฎหมายบางฉบับเพื่อยกระดับมาตรฐานหลายอย่างขึ้นมา โดยจะมีการเสอนให้เป็นนโยบายด้านการเกษตรของประเทศต่อไป
นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า ส่วนตัวยังยืนยันว่านโยบายการประกันรายได้ให้กับเกษตรกรไม่ได้สร้างปัญหา เพราะไม่ได้แทรกแซงหรือบิดเบือนกลไกตลาด โดยทราบว่าในส่วนอื่นๆ ยังมีแนวคิดเรื่องการประกันรายได้ โดยจากการศึกษาของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับภาษีเงินได้ ใครที่รายได้ต่ำก็จะชดเชยรายได้ให้ ถือเป็นหลักการเดียวกันกับการประกันรายได้ อย่างไรก็ตาม ในแง่ของการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตก็มีส่วนสำคัญ ซึ่งทราบว่าขณะนี้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ความสำคัญกับการลดต้นทุน โดยใช้การขอความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ แต่ในระยะยาวการขอความร่วมมือไปเรื่อยๆ คงทำไม่ได้ ต้องมาดูในเรื่องการลดต้นทุนการเกษตรเพื่อให้เราแข่งขัน และเพิ่มรายได้ของเกษตรกรได้ ซึ่งหนีไม่พ้นเรื่องเทคโนโลยีและการปรับปรุงกฎระเบียบ มาตรฐานต่างๆ
นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงกรณี คสช.เชิญผู้ช่วยทูตทหารมาชี้แจงการดำเนินงานของ คสช.ว่า คสช.ได้ประกาศตารางการทำงานและการเลือกตั้งที่ชัดเจน เชื่อว่าต่างชาติคงจับตาดูว่าได้เดินไปตามตารางที่ประกาศไว้หรือไม่ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.ระบุชัดว่าในระยะที่ 1 ต้องใช้เวลา 3 เดือน ขณะนี้ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่เป็นไปตามตารางการทำงาน ทั้งนี้ตนเห็นด้วยกับการที่หัวหน้า คสช.จะเป็นผู้ที่ให้ข้อมูลเรื่องสถานการณ์ทางการเมืองและตารางการทำงาน เพราะคิดว่าบางเรื่องไม่อยากให้เกิดความสับสน และจะได้ชี้แจงไปในแนวทางเดียวกัน แต่ก็ควรเปิดโอกาสให้ภาคส่วนอื่นๆ แสดงความคิดเห็นในกระบวนการปฏิรูปโดยสุจริต เพื่อให้บรรยากาศการปฏิรูปเดินหน้าไปได้
“ผมนึกไม่ออกว่าถ้าต้องการมีกระบวนการปฏิรูปแล้วไม่สามารถแสดงความเห็นได้ กระบวนการปฏิรูปจะเดินได้อย่างไร เพราะหลักการการมีส่วนร่วมเป็นเรื่องสำคัญ วันนี้ถ้าเปิดโอกาสให้คนแสดงความเห็นในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ด้วยความสุจริต ไม่ก่อให้เกิดความกระทบต่อความมั่นคงก็จำเป็นต้องเปิดโอกาสให้มีการแสดงความเห็น” นายอภิสิทธิ์กล่าว