“วินธัย” แจงชุมนุมจี้ประหารคนฆ่า “น้องแก้ม” จะพิจารณาตามความเหมาะสม แนะยื่นหนังสือเหมะกว่า รับ หน.คสช.สั่งฟัน “ไอ้หื่น” เต็มที่ พร้อมหาผู้รับผิดชอบและหามาตรการป้องกัน รับมีพิจารณาผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท. “บรรพต” เผยผลประชุม ศปก.ทบ. “อุดมเดช” สั่งพีอาร์การทำงาน ห่วงเข้าพรรษา ย้ำบูรณาการการข่าวหนุนหน่วยปฏิบัติการ สร้างชุมชนเข้มแข็ง จี้ สมช.เร่งแผนคืนสันติสุข
วันนี้ (9 ก.ค.) กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.วินธัย สุวารี ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการรวมตัวกันของกลุ่มโซเชียลมีเดียเพื่อเรียกร้องให้มีการประหารชีวิตคนร้ายที่ทำร้ายน้องแก้มจนเสียชีวิตว่า ต้องดูลักษณะการชุมนุม เพราะการชุมนุมในระยะนี้อยู่ในช่วงการประกาศกฎอัยการศึก ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมทางการเมือง หรือการชุมนุมใดๆ ก็ตามขัดต่อกฎอัยการศึก แต่ทั้งนี้ก็จะพิจารณาความเหมาะสม ทั้งนี้อยากเสนอให้กลุ่มดังกล่าวส่งตัวแทนมายื่นหนังสือให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เหมือนกับหน่วยงานที่ได้ดำเนินการ ซึ่งถือว่าเป็นช่องทางที่เหมาะสมที่สุดในขณะนี้
ส่วนกรณีที่มีการเรียกร้องให้นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ลาออกนั้น คสช.ทราบว่าคดีดังกล่าวอยู่ในความสนใจของประชาชนและส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ทางหัวหน้า คสช.ก็ได้เน้นย้ำให้ไปดำเนินการอย่างเต็มที่กับคนร้าย พร้อมทั้งไปดูว่าผู้ที่รับผิดชอบในแต่ละส่วนให้ไปหามาตรการมาเสริมในจุดที่เป็นช่องโหว่เพื่อให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย ซึ่งถือเป็นความรับผิดชอบขององค์กรนั้นๆ ที่จะต้องไปรวบรวมหามาตรการเสริมในเรื่องการรักษาความปลอดภัยของการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อป้องกันจุดบอด
เมื่อถามว่า มีเสียงสะท้อนจากประชาชนในสังคมเรียกร้องให้นายประภัสร์ลาออกจากตำแหน่ง หัวหน้า คสช.จะนำไปพิจารณาหรือไม่ พ.อ.วินธัยกล่าวว่า หัวหน้า คสช.มีความสนใจในเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนในทุกเรื่อง และต้องยอมรับว่าเรื่องดังกล่าวสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนเช่นกัน แต่ทั้งนี้ต้องไปพิจารณากันในรายละเอียดกันอีกครั้ง
ด้าน พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เปิดเผยผลการประชุมติดตามสถานการณ์ประจำวันศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) โดยมี พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รอง ผบ.ทบ.ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นประธานการประชุมว่า ในส่วนของงานแก้ไขปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ประชุมเห็นควรให้เร่งทำการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจถึงการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยที่ประชุมได้รับฟังการชี้แจงสถานการณ์จากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ผ่านระบบการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ
ทั้งนี้ พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า ในฐานะประธานคณะทำงานขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้แสดงความห่วงใยขอให้หน่วยควบคุมสถานการณ์ในเทศกาลเข้าพรรษา รวมไปถึงช่วงท้ายของเทศกาลรอมฎอน และได้เน้นย้ำให้ กอ.รมน.ภาค 4 สน.พัฒนาการบูรณาการงานด้านการข่าวในระดับยุทธการเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติทางยุทธวิธีให้กับหน่วยปฏิบัติการ รวมถึงการสร้างความเข้มแข็งในพื้นที่ชุมชน หมู่บ้าน ผ่านทางศูนย์ปฏิบัติการอำเภอ (ศปก.อ.) โดยให้ดำรงพยายามต่อไปในการให้ฝ่ายท้องที่ ฝ่ายท้องถิ่น และภาคประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมรับผิดชอบในการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
พ.อ.บรรพตกล่าวอีกว่า ส่วนการเตรียมการประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหา จชต.ครั้งต่อไป ซึ่งกำหนด 2 สัปดาห์ต่อครั้ง ขอให้นำเสนอผลการติดตามแผนงานของส่วนราชการต่างๆ ในพื้นที่ จชต. ทั้งการปรับแผนงาน ปี 2557 และการจัดทำแผนงาน ปี 2558 ให้สอดคล้องกับแผนงานรักษาความปลอดภัยฯ ของ กอ.รมน.ภาค 4 สน. เพื่อจะช่วยกันบูรณาการ ผลักดัน ขับเคลื่อน ในระดับคณะทำงานฯ และเป็นไปตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ในฐานะหัวหน้าคสช.ได้มอบให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)เป็นเจ้าภาพรับผิดชอบกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุข จชต. และได้กำหนดขั้นตอนในขั้นต้น จำนวน 3 ขั้น คือการสร้างความไว้วางใจระหว่างกัน การลงนามสัตยาบัน และการจัดทำโรดแมปพร้อมดำเนินการเพื่อนำไปสู่สันติสุขอย่างยั่งยืน จึงขอให้ กอ.รมน.ภาค 4 สน.เริ่มดำเนินการในขั้นที่ 1 และต้องมีความคืบหน้ารายงานต่อที่ประชุมคู่ขนานกับการดำเนินงานของ สมช.