xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กโด่ง” ลงพื้นที่หลังปรับนโยบายดับไฟใต้ เผยเป็นวาระแห่งชาติ พอใจช่วงรอมฎอน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.อุดมเดช  สีตะบุตร เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(แฟ้มภาพ)
เลขาฯ คสช.พร้อมคณะ สมช.-กอ.รมน.ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ แจงเป็นครั้งแรกนับแต่ หน.คสช.เปลี่ยนนโยบายดับไฟใต้ให้ทำงานกระชับมากขึ้น เชื่อจะดีขึ้น ตั้งเป็นวาระแห่งชาติ มอบ มทภ.4 รับผิดชอบบูรณาการงานในพื้นที่ พอใจสถานการณ์ช่วงรอมฎอนแต่ไม่ประมาท ให้เลขาฯ สมช.รับผิดชอบคุยกลุ่มในพื้นที่ ต้องรอบคอบขึ้น สร้างความไว้ใจทุกระดับ รับมีปฏิบัติบางอย่างแต่บอกไม่ได้

วันนี้ (7 ก.ค.) ที่กองการบิน กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รองผู้บัญชาการทหารบก (รองผบ.ทบ.) และเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะประธานคณะทำงานขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมกับคณะทำงานของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เดินทางลงพื้นที่จ.ยะลาและ จ.ปัตตานี เพื่อติดตามผลการดำเนินงานด้านต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

ทั้งนี้ พล.อ.อุดมเดชให้สัมภาษณ์ก่อนออกเดินทางว่า ครั้งนี้ถือว่าเป็นการลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ครั้งแรกหลังจากที่ได้ปรับเปลี่ยนนโยบายโครงสร้างการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งถือว่าการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และหัวหน้า คสช.มีความประสงค์ให้กระบวนการทำงานขับเคลื่อนเป็นไปแบบกระชับมากยิ่งขึ้น เพราะที่ผ่านมาในส่วนที่เคยดำเนินการรอบปีที่ผ่านมาเป็นคณะกรรมการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กปต.) และมีศูนย์ปฏิบัติการการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.)ที่มีขั้นตอนของทีมงานระดับรัฐบาล ระดับคณะทำงานและผู้ปฏิบัติ ส่วนที่ปรับใหม่จะทำให้กระชับมายิ่งขึ้น

พล.อ.อุดมเดชกล่าวต่อว่า ทั้งนี้หัวหน้า คสช.ได้กำหนดให้งานจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไขปัญหาและเป็นวาระแห่งชาติ โดยได้สั่งการโดยตรงให้คณะทำงานขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ขับเคลื่อนงานด้านล่าง และแต่งตั้งผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องตามความจำเป็นให้เกิดความกระชับ และที่สำคัญงานที่จะปฏิบัติในพื้นที่ภาคใต้จะบูรณาการ โดยมอบหมายให้ พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผอ.รมน.ภาค 4 สน.เป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง ทุกส่วนราชการจะต้องมีงานประสานสอดคล้องกันภายใต้ ผอ.รมน.ภาค 4 สน. ทั้งเรื่องการพัฒนาที่มีศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ดำเนินการ งานด้านการตำรวจที่มีกองกำลังตำรวจชายแดนภาคใต้ดำเนินการอยู่ และงานทางทหารที่มีกองทัพภาคที่ 4 รวมถึงงานกระทรวง ทบวง กรม เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องดำเนินการประสานร่วมกันทั้งหมด

“ความสำเร็จการแก้ไขปัญหาภาคใต้ ไม่ใช่อยู่ที่เรื่องความมั่นคงของทหารและตำรวจอย่างเดียว หน่วยงานอื่นต้องร่วมกันทำให้หมด ปีที่ผ่านมาทุกคนเข้าใจว่าจะต้องมีการทำงานร่วมกันแบบนี้ อาจเป็นโครงสร้างที่ยังไม่กระชับ ดังนั้นขณะนี้พยายามทำโครงสร้างให้กระชับมากยิ่งขึ้น น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความสำเร็จได้ดี แต่ยังมีปัญหาเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่บ้าง แต่จากสถิติพบว่าในช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงลดน้อยลง โดยเฉพาะช่วงเทศกาลถือศีลอด หรือรอมฎอน กอ.รมน.ภาค 4 สน.ยังสามารถรักษาสถานการณ์ไว้ได้เป็นที่น่าพึ่งพอใจ แต่ต้องไม่ประมาท วันนี้ก็จะลงไปเน้นย้ำ ติดตามการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น หวังว่าการแก้ไขปัญหาภาคใต้จะดีขึ้นตามนโยบายของหัวหน้า คสช.” พล.อ.อุดมเดชกล่าว

ส่วนความคืบหน้าในการดำเนินการหารือกับกลุ่มต่างๆ ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้นั้น พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า หัวหน้า คสช.ได้สั่งการว่าเรื่องการพูดคุยให้เกิดสันติสุขยังคงต้องมีต่อไป โดยหัวหน้า คสช.ได้กำหนดให้เลขาธิการ สมช.เป็นผู้รับผิดชอบในการพูดคุยดังกล่าวต่อไป และทางมาเลเซียก็จะเป็นผู้อำนวยความสะดวกให้ในลักษณะคล้ายกับของเดิม แต่ต้องดำเนินการให้รอบคอบมากขึ้น เข้าใจและไว้ใจกันทั้งระดับบน และระดับพื้นที่ ทั้งนี้ในพื้นที่จะต้องมีการปฏิบัติอะไรบางอย่าง แต่ไม่สามารถบอกได้ เพราะเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่ต้องทำงานโดยสร้างความไว้วางใจระหว่างกันให้ได้ ขั้นตอนต่อไปก็อาจจะกำหนดพื้นที่ทดลองบางสิ่งบางอย่างว่าเรามีความไว้วางใจกันจริง เมื่อมีแนวทางก็ต้องนำไปสู่การพูดคุยกันอย่างชัดเจน โดยทำโรดแมปเพื่อให้เกิดการพูดคุยสันติสุขสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืน สิ่งใดที่สามารถทำได้ก็จะเร่งแก้ไขอย่างรวดเร็วและต้องใช้ความรอบคอบ

“หัวหน้า คสช.ได้เน้นย้ำการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเรื่องสำคัญ ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันดำเนินการ ขอให้มั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่มีความตั้งใจพยายามให้ทุกสิ่งมีความสำเร็จ แต่บางอย่างต้องใช้เวลา ซึ่งจะทำต่อไปให้ดีที่สุด” พล.อ.อุดมเดชกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น