ASTVผู้จัดการ – สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ทวีตเล่าชีวิตในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังถูกจับเผยพบ “มือปืนป็อปคอร์น-การ์ด คปท.” เผยเท่าที่ได้คุยกัน ต่างคนต่างมีชุดความคิดของตัวเองที่คิดว่าถูกต้อง ไม่ใช่อาชญากร
ช่วงบ่ายวันนี้ (3 ก.ค.) นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด หนึ่งในแนวร่วมคนสำคัญของกลุ่มคนเสื้อแดง และกลุ่มคนผู้ที่ออกมาต้านการรัฐประหารโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งได้รับการประกันตัวที่จังหวัดร้อยเอ็ด ภายหลังจากที่ พ.ต.ท.สุริยา แสงอ่อนตา พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สภ.เมืองร้อยเอ็ด ทำการอายัดตัวนายสมบัติต่อจากศาลทหารกรุงเทพฯ เมื่อตอนเย็นวันที่ 30 มิ.ย. จากกรณีที่ นายสมบัติถูกแจ้งความเพื่อดำเนินคดีที่ สภ.เมืองร้อยเอ็ด ในข้อหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามมาตรา 112 ได้ทำการโพสต์ข้อความผ่าน ทวิตเตอร์ @nuling โดยบอกเล่าถึงชีวิตในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
นายสมบัติกล่าวถึงประสบการณ์การเข้าสู่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในวันที่ 12 มิ.ย. หลังจากถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งใน อ.พานทอง จ.ชลบุรี จากความผิดฝ่าฝืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 3/2557 เรื่องให้บุคคลเข้ารายงานตัวเพิ่มเติม สั่ง ณ วันที่ 23 พ.ค. 2557 โดยระบุว่าเป็นการติดคุกครั้งที่ 2 ในชีวิต โดยในคุกตนได้มีโอกาสพบแกนนำเสื้อแดงหลายคน เช่น นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก, จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย
นอกจากนี้ยังได้พบกับฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองหลายคน เช่น ผู้ที่ได้รับฉายาว่าเป็นมือปืนป็อปคอร์น รวมถึงการ์ดเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ระบุว่าเสื้อเหลืองและเสื้อแดงที่ติดคุกร่วมกันหลายคนไม่ใช่อาชญากร เพียงแต่มีชุดความคิดของตนเองซึ่งเชื่อว่าถูกต้อง
*****************
ซีรีย์ “นักโทษการเมือง” ณ พิเศษ กรุงเทพ โดย บก.ลายจุด ณ บัดนาว #นักโทษการเมือง
บ่ายแก่ๆ ของวันที่ 12 มิย ผมเดินทางเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และเป็นธรรมเนียม ผู้มาใหม่ต้องเข้ามาอยู่แดนแรกรับ คือ แดน 1 ที่นี่มี 8 แดน
นักโทษทุกคนต้องตัดขากางเกงหรือใส่ขาสั้น ค้นตัว ทำประวัติ ตัดผมสั้นภายใน 1 วัน เข้าห้องขังตอนบ่ายสาม และออกมาตอน 6 โมงเช้า
เสียงตะโกน “ยินดีต้อนรับ บก.ลายจุด” คือ เจ๋ง ดอกจิก และจ่าประสิทธิ์ ทั้งคู่สีหน้าแสดงความยินดีอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเจอหน้าผมในคุก
เป็นการใช้ชีวิตในคุกครั้งที่สองในชีวิต ครั้งแรกตอนโดนพลเอกสพรั่งและพลเอกสนธิฟ้องหมิ่นประมาท การเข้ามาครั้งล่าสุดจึงปรับตัวรับมือได้ดี
อาหารมื้อแรกในคุกคือขนมปังถุงเล็กๆ ที่พี่เจ๋ง ดอกจิก หยิบใส่มือไว้ เพราะเข้ามาสาย ครัวกลางปิดแล้ว พร้อมน้ำดื่มขวดหนึ่ง
ก่อนเข้าห้องพัก ผมเดินไปทักทายพี่สมยศ พฤกษาเกษมสุข ที่อยู่อีกห้องหนึ่ง ในบรรดาคนที่รู้จักในนั้น พี่สมยศคือคนที่ผมคุ้นเคยมากที่สุด
พี่สมยศเป็นนักโทษการเมืองที่ติดคุกมา 3 ปีกว่าแล้ว คดียังอยู่ในชั้นอุทธรณ์ ในบรรดานักโทษการเมืองทั้งหมด เขาคือคนที่นิ่งที่สุด สงบ เยือกเย็น
เป็นธรรมดาที่ผู้คนในคุกจะมีความหลากหลาย โดยเฉพาะความเห็นทางการเมือง ในแดน 1 ผมได้พบกับผู้ต้องหาที่ถูกเรียกว่า มือปืนป็อปคอร์น
ความรู้สึกแรกที่ได้เจอป็อปคอร์น ผมรู้สึกถึงความเป็นคนธรรมดาผู้หนึ่ง ภาพที่สังคมมองเขาว่าเป็นมือปืนมืออาชีพอะไรเทือกนั้น ไม่ปรากฏเลย
ผมเดินไปแนะนำตัวเอง พร้อมยืนมือออกมาสัมผัสแบบทักทาย “สวัสดีป็อปคอร์น ผม บก.ลายจุด”
แม้ในช่วงแรกของการสนทนากับเพื่อนใหม่ต่างสีระหว่างป็อปคอร์นกับ บก.ลายจุด จะหนืดสักหน่อย แต่เมื่อการเริ่มต้นสักพัก กำแพงของสีก็ลดลง
ผมจะไม่ลงรายละเอียดเรื่องบทสนทนาระหว่างผมกับป็อปคอร์นเพราะจะไม่เป็นความยุติธรรมและอาจมีผลต่อคดี เอาเป็นว่าเขาไม่ได้มีลักษณะเป็นคนใจร้ายอะไร
ป็อปคอร์นถูกมอบหมายงานให้ดูแลหน้าแดน เพราะผู้คุมกังวลว่าหากให้ทำงานในแดนจะไปปะปนกับเสื้อแดงและอาจเป็นปัญหา นี่เป็นเรื่องที่ผู้คุมระวังมาก
ใครจะเชื่อว่า วันท้ายๆ ที่ผมอยู่ในคุก ป็อปคอร์นแอบมานอนกลางวันในมุมเสื้อแดงอยู่กันเป็นกลุ่ม พวกเขานั่งสนทนากันสนุกสนานออกรส หัวเราะกันร่า
กฎในคุกข้อแรกคือ ห้ามป่วย เพราะยาที่นี่หายาก มีแต่พาราฯ นักโทษที่ค่อนข้าง VIP หน่อยจะมียาแก้อักเสบ ยาแก้ไอ ทิฟฟี่นี่จัดเป็นของระดับไฮคลาส
เช้าวันหนึ่งผมเจอป็อปคอร์นสีหน้าไม่ค่อยดี เขาป่วย ไอ มีน้ำมูก เขาไม่มียาทานผมเลยหายาลดน้ำมูก 2 เม็ดมาให้ นี่ไม่ใช่เรื่องสีแต่คือมนุษยธรรม
นอกจากป็อปคอร์นแล้ว ยังมีการ์ด คปท.คนหนึ่ง แต่โดนจับในคดีปืน ไม่ได้เกี่ยวกับคดีการเมือง ที่แขนเขาสักคำว่า “พุทธะอิสระ”
ผมอยากสรุปสั้นๆ ว่า ทั้งเสื้อเหลืองและแดงที่มาติดคุกร่วมกัน พวกเขาไม่ใช่อาชญากร เขาเพียงมีชุดความคิดของตนเองซึ่งเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
ผมไอมาสองอาทิตย์กว่าแล้วจากในคุก วันนี้ก็ยังไม่หาย เชื้อโรคในคุกจัดว่าแรงมาก คนที่นั่นเรียกสิ่งนี้ว่า “โรคคุก” ...
