สน.พระอาทิตย์
ลือว่านอกจากตำรวจ 2 นายที่ถูกพาดพิงถึงนั้น ยังมีอดีตผู้มีอำนาจฝั่งรัฐบาล คอยสั่งการบรรดาข้าราชการฝั่งแดงให้ความช่วยเหลือบรรดานักเคลื่อนไหวทั้งหลาย เพื่อวางหมากเบี่ยงเบนความสนใจจากเจ้าหน้าที่รัฐ ก่อนเตรียมก่อเหตุรุนแรงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ หวังฉุดให้สถานการณ์กลับมาระอุขึ้นอีกครั้ง
“ผมโดนจับแล้ว”...คงเป็นการโพสต์สุดท้ายของ “หนูหริ่ง” สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือที่รู้จักมักคุ้นในชื่อ “บก.ลายจุด” แกนนอนกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง ในฐานะแกนนำกลุ่ม “สามนิ้ว” ต่อต้านรัฐประหาร
ก่อนจะถูกชุดจับกุมของทหารและตำรวจภายใต้คำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำโดย “พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์” ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เข้าทำการรวบตัวที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่หลังหนึ่งในอำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 5 มิถุนายน ที่ผ่านมา ตามการแจ้งพิกัดของสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
ภายหลังเข้าทำการจับกุมตัว “บก.จอมซ่า” พร้อมพวกกลุ่มชายฉรรจ์พนักงานนิคมอุตสาหกรรม 4 คน เจ้าหน้าที่ได้นำตัวคนสนิท “นกแสก” ธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ไปควบคุมตัวที่ค่าย ร.21 รอ. ทันที...โดยเบื้องต้นจะถูกคุมตัวก่อนส่งขึ้นศาลทหารต่อไป
ก็ไม่รู้ว่าป่านนี้ “หนูหริ่ง” จะเกิดอาการ “ลงแดงโลกโซเชียลฯ” หรือไม่ เพราะแกนนำต่อต้านกองทัพรายนี้ ถือเป็นผู้ที่นิยมชมชอบการปลุกปั่นผ่านคีย์บอร์ดเป็นที่สุด พร้อมข้อความแบบยียวนกวนประสาท ท้าทายบรรดาเจ้าหน้าที่อยู่ตลอดเวลา
อย่างข้อความในเฟซบุ๊กก่อนหน้าโดนตะครุบตัวที่ระบุว่า “วันนี้นักข่าวไปถามตำรวจที่เป็นหัวหน้าชุดติดตาม ตำรวจตอบว่ามั่นใจมากที่จะจับตัวผมได้เร็วนี้ ส่วนผมขอถามว่าราคาต่อรองชั่วโมงนี้เป็นอย่างไรครับ” หรือข้อความสำคัญบนทวิตเตอร์ “CatchMe If You Can”...
พอเห็นข้อความเหล่านี้ก็สมควรแล้วที่ “บก.ลายจุด” จะถูกจับกุม เพราะแทนที่จะกบดานแบบเงียบๆ แล้วค่อยหาวิธีปลุกระดมทางอื่น แต่กลับโพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียแทบจะทุกชั่วโมงโดยเฉพาะข้อความผ่านทวิตเตอร์ “@nuling” นั้นแหละ
กลายเป็นหลักฐานสำคัญที่เจ้าหน้าที่แกะร่องรอยหมายเลขประจำตัวเครื่อง หรือ ไอพี แอดเดรส ก่อนระบุพิกัดได้นั้นเอง...
กรณีของ “หนูหริ่ง” ต้องชื่นชมความฉลาดล้ำของเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรอง ที่ใช้เทคโนโลยีแกะร่องรอยได้รวมถึงความประมาทของแกนนำแดงรายนี้เอง ฉะนั้น พวกบรรดาแกนนำทั้งหลายที่ยังหลบซ่อนอยู่อย่าง “จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ” อดีตรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย คงต้องระวังตัวมากขึ้น ไม่เช่นนั้นอาจตายน้ำตื้นได้เช่นกัน!?!
อีกหนึ่งประเด็นสำคัญของการจับกุมครั้งนี้คงเป็นกรณีที่ “สมชาย แสวงการ” ออกมาเปิดเผยถึงแหล่งที่กบดานของ “บก.ลายจุด” มีเจ้าหน้าที่สีกากีเข้ามาเกี่ยวข้อง พร้อมตั้งข้อสังเกตก่อนหน้าที่ “หนูหริ่ง” จะตกม้าตายนั้น เจ้าตัวมีการโพสต์ที่ทำให้เชื่อได้ว่า มีตำรวจให้การช่วยเหลืออยู่จริง
หนึ่งในผู้ที่ถูกกล่าวถึงคือ “พ.ต.อ.อนุชา พงศ์เรืองรอง” ผกก.สภ.พานทอง
โดยนามสกุล “พงศ์เรืองรอง” ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นอะไรกับแกนนำแดง “อมฮอลล์” แม้เจ้าตัวจะเลี่ยงออกมาปฏิเสธว่า ไม่ได้ช่วยเหลือ “บก.ลายจุด” แน่นอน พร้อมอ้างว่า หลังทราบเรื่องจับกุมช่วงกลางดึกวันนั้น ก็พยายามเช็กเรื่องต่างๆ ไม่ได้มีความคิดที่จะปกปิดอะไร...
แต่จากการจับกุมในวันนั้น ซึ่งไม่มีตำรวจเจ้าของพื้นที่ปฏิบัติการด้วย ตรงนี้สะท้อนให้เห็นความบกพร่องบางอย่างแล้ว รวมถึงที่ผ่านมาประมาณ 1 สัปดาห์ที่ “หนูหริ่ง” หนีไปกบดานในพื้นที่อำเภอพานทอง แต่ชุดสืบสวนของพื้นที่กลับไม่ได้กลิ่นเลยหรืออย่างไร คงเป็นคำถามคำโตที่ “พ.ต.อ.อนุชา” จุกอยู่ในอก แล้วสุดท้ายคงมีอนาคตไม่ต่างจากผบก.-ผกก. บ่อนฉาว ที่พิษณุโลกแน่นอน!?!
ขณะที่นายตำรวจอีกคนที่ถูกพาดพิงถึงคือ “พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์” นรต.รุ่น 36 อดีต ผบก.ภ.จว. ชลบุรี ที่ขณะนี้ถูกโยกไปช่วยราชการที่ ศปก.ตร. แบบไม่มีกำหนด ซึ่งชื่อของบุรุษสีกากีรายนี้ คงเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับผู้ชุมนุมกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) และกองทัพธรรม หลังเจ้าตัวเคยตกเป็นข่าวว่าเป็นผู้สั่งการให้ตำรวจเล่นของหนัก เข้าสลายการชุมนุมที่แยกผ่านฟ้าลีลาศ เมื่อวันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ จนมีผู้เสียชีวิต 5 ราย และบาดเจ็บนับสิบ
งานนี้แม้เจ้าตัวจะถูกเตะออกนอกพื้นที่ แต่เชื่อได้เลยว่า “พล.ต.ต.คัชชา” ยังมีอำนาจพอตัว โดยเฉพาะการสั่งงานเล็กๆ น้อยๆ คงไม่ใช่เรื่องลำบากมากนัก โดยก่อนหน้านี้ ก็มีข่าวลือหึ่งว่า “ตั้ง อาชีวะ” เอกภพ เหลือรา ก็เคยมากบดานอยู่ในถิ่นนี้ โดยเป็นช่วงแรกๆ ที่ “เด็กนรก” หลบหนีหมายจับคดี ม.112...
ทั้งนี้ มีข่าวลือว่านอกจากตำรวจ 2 นายที่ถูกพาดพิงถึงนั้น ยังมีอดีตผู้มีอำนาจฝั่งรัฐบาล คอยสั่งการบรรดาข้าราชการฝั่งแดงให้ความช่วยเหลือบรรดานักเคลื่อนไหวทั้งหลาย เพื่อวางหมากเบี่ยงเบนความสนใจจากเจ้าหน้าที่รัฐก่อน เตรียมก่อเหตุรุนแรงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหวังฉุดให้สถานการณ์กลับมาระอุขึ้นอีกครั้ง
โดยมีรายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่ม “อริสมันต์” และ “กษิ ดิฐธนรัชต์” ผู้ต้องหาระเบิดมีนบุรีตามแนวชายแดนฝั่งกัมพูชา ซึ่งงานนี้ก็ไม่รู้ว่าสอดคล้องอะไรกับการตั้งกลุ่มต้านรัฐประหารของ “จักรภพ เพ็ญแข” หรือไม่!?!