รอง ผบ.ตร. เรียกประชุมตำรวจนครบาลหารือรับมือม็อบต้านรัฐประหารชุมนุม 8 จุด เตือนอยู่ระหว่างใช้กฎอัยการศึก หากฝ่าฝืนกฎหมายจับกุมทันที พร้อมเร่งรัดให้ตำรวจจับกุม “ตั้ง อาชีวะ พ่วง โกตี๋ บก.ลายจุด”
วันนี้ (31 พ.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูตร รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.ศ. ช่วยราชการรอง ผบช.น. ดูแลงานด้านความมั่นคง พ.อ.สมบัติ ธัญญะวัน ผู้บังคับการกรมนักเรียนโรงเรียนทหารม้า ศูนย์กลางทหารม้า จ.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ประชุมหารือการรักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อเตรียมรับมือกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่มีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในการต่อต้านรัฐประหารในจุดต่างๆ ทั้งนี้ เพื่อทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร เพื่อให้การทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยใช้เวลา 2 ชั่วโมง
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ในวันนี้เป็นการประชุมการทำงานร่วมกันระหว่างฝ่ายความมั่นคงของตำรวจและทหาร เพื่อหารือถึงกรอบการปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ในการปฏิบัติกับผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารตามจุดต่างๆ ในวันที่ 31 พ.ค. 2557 และ 1 มิ.ย. 2557 ทั้งหมด 8 จุด คือ ที่ราชประสงค์, อนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช, สี่แยกเทพารักษ์, อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย, อนุสาวรีย์ปราบกบฏหลักสี่, เซ็นทรัลบางนา และซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ ทั่วเขตนครบาล กรณีที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมมาแสดงสัญลักษณ์ในการต่อต้านรัฐประหาร จะปฏิบัติตามนโยบายของแม่ทัพภาค 1 ที่ได้ส่ง พ.อ.สมบัติ มาร่วมประชุม โดยจะมีการหารือการปฏิบัติกับผู้ชุมนุมเหมือนที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งการกระทำดังกล่าวขัดต่อหลักกฎหมายในช่วงประกาศกฎอัยการศึก เนื่องจากเป็นกฎหมายพิเศษที่ใช้อยู่ในขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการจับกุมทันที จากนั้นส่งตัวให้ทหารคัดกรองว่าเข้าข่ายความผิดสถานใด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทหารดำเนินการต่อไป
รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีการกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุม นายตั้ง อาชีวะ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด และ นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ และจะดำเนินคดีกับผู้ที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ล่าสุด ได้สั่งฟ้องจ่าประสิทธิ์ ไชยศีรษะ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อไทย ในข้อหาหมิ่นเบื้องสูง
รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้มีประกาศของ คสช. ฉบับที่ 49 ระบุว่าห้ามมิให้เจ้าของสถานที่ ร้านค้า โรงแรม หรือสถานที่ใด ให้ผู้ชุมนุมใช้สถานที่ในการแสดงออกต่อต้านการทำรัฐประหาร มิฉะนั้นจะถือว่ามีความผิดในการสนับสนุนกลุ่มผู้ชุมนุม สำหรับในวันพรุ่งนี้ที่จะมีการชุมนุมในหลายสถานที่ ดังนั้น รถไฟฟ้าบีเอส จะไม่จอดรับผู้โดยสารใน 3 สถานีคือ สถานีเพลินจิต สถานีชิดลม และราชดำริ นอกจากนี้ จะมีการปิดเส้นทางการจราจรทั้งหมด 4 เส้นทางคือ แยกเฉลิมเผ่า แยกชิดลม หน้าห้างบิ๊กซีราชดำริ และหน้าโรงเรียนสอนภาษาเอยูเอ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ ส่วนประชาชนที่จะเดินผ่านย่านราชประสงค์จะต้องแสดงตนต่อเจ้าหน้าที่ เว้นเฉพาะแขกที่จะเข้าพักแรมให้จัดเจ้าหน้าที่ของโรงแรมประจำจุดตรวจ คอยอำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าพัก
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในกรณีที่ บก.ลายจุด มีการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่าจะเปลี่ยนแปลงสถานที่การชุมนุม เจ้าหน้าที่ตำรวจมีมาตรการรองรับอย่างไร พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะประเมินสถานการณ์ว่าสิ่งที่ บก.ลายจุด กล่าว เป็นความจริงหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้มีคำสั่งให้เตรียมหน่วยเคลื่อนที่เร็วไว้ในค่ายทหาร หากมีการเปลี่ยนพื้นที่การชุมนุม เจ้าหน้าที่ทหารก็สามารถเข้าปฏิบัติการได้ทันเวลา สำหรับการรักษาความสงบทุกจุดที่มีการชุมนุม จะใช้เจ้าหน้าที่ทหารจำนวน 19 กองร้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจ 19 กองร้อย เจ้าหน้าที่เทศกิจ และ ขสมก.
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ได้มีการประเมินสถานการณ์ความรุนแรงอย่างไร พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ได้มีการประเมินสถานการณ์ไว้ทุกกรณี และจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ชุมนุมเหมือนกับอนุสาวรีย์ชัยฯ ส่วนการจับกุมจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ซึ่ง พ.อ.สมบัติ จะเป็นผู้กำหนดแนวทาง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะพยายามไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่ง อย่างไรก็ตาม หากมีผู้ชุมนุมฝ่าฝืนจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย กฎอัยการศึก โดยทหารจะเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายในการจับกุมผู้ชุมนุม และตำรวจเป็นผู้ให้การสนับสนุน
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า จะมีการแก้ไขปัญหาการจราจรในพื้นที่การชุมนุมอย่างไร พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า จะปฏิบัติการให้เกิดผลกระทบกับผู้ชุมนุมน้อยที่สุด เพราะสิ่งที่ผู้ชุมนุมบอกว่า ได้ทำการชุมนุมอย่างสงบ ปราศจากอาวุธ ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนรำคาญ แต่นั่นเป็นการกระทำภายใต้รัฐธรรมนูญที่ถูกยกเลิกไปแล้ว เพราะฉะนั้นกฎหมายที่ใช้ในปัจจุบันคือกฎหมายกฎอัยการศึก ผู้ชุมนุมจะนำรัฐธรรมนูญมากล่าวอ้างไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า มีการขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการห้ามมิให้ผู้ชุมนุมใช้สถานที่อย่างไรบ้าง พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า วานนี้ พล.ต.ต.อำนวย ได้มีการพูดคุยกับผู้ประกอบการย่านราชประสงค์ และอธิบายประกาศ คสช. ฉบับที่ 49 ว่าผู้ที่ให้การสนับสนุนผู้ชุมนุมเป็นอย่างไร ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ ศูนย์การค้าอัมรินทร์ พลาซ่า ได้ประกาศปิดทำการ 1 วัน แต่หากมีการไปชุมนุมที่ร้านแมคโดนัลด์ อัมรินทร์ ถ้าต่างคนต่างมา เจ้าของร้านก็ไม่มีความผิด แต่หากมีการชุมนุมเกิน 5 คนขึ้นไป คุยกันเรื่องรัฐประหาร ถ้าเจ้าของร้านไม่ไล่ผู้ชุมนุมออก ก็จะมีความผิดข้อหาให้การสนับสนุน
เมื่อถามว่าขณะนี้ยังมีตำรวจแบ่งฝ่ายกัน พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ได้พูดคุยและทำความเข้าใจกับตำรวจให้ทำงานร่วมกัน และต้องลืมสิ่งเกิดขึ้นมาในอดีต อย่าคิดว่าต้องทำเพื่อฝ่ายใด ให้ทำงานเสียสละเพื่อชาติ ซึ่งหัวหน้าคณะ คสช. ต้องการให้เกิดความปรองดอง ไม่มีสี ไม่มีแบ่งฝ่าย มีแต่ชาติ