คสช.ถกทูลเกล้าฯ รธน.หรือไม่ พอใจงานปรองดอง “บิ๊กตู่” ยินดี “วีระ” ฝากทำประโยชน์ต่อ

คณะ คสช.ประชุมหน่วยเกี่ยวข้องด้านกฎหมาย หน.ทีมร่าง รธน.ร่วมด้วย หลังส่ง รธน.ชั่วคราวให้พิจารณา หากเห็นชอบชงต่อทูลเกล้าฯ ถวาย โฆษก กอ.รมน. แจงงาน ศปป.ดำเนินกิจกรรมปรองดองน่าพอใจ แบ่งข้อมูลแนะจากทุกภาคส่วนเป็น 5 กลุ่ม วาง 11 แนวทางให้เสนอแนะ หน.คสช. รับทราบ “วีระ” ขอเข้าพบ ฝากยินดีรับอิสรภาพ ขอให้ทำประโยชน์ต่อ

วันนี้ (3 ก.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ในฐานะรองหัวหน้า คสช.ดูแลฝ่ายความมั่นคง พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ในฐานะรองหัวหน้า คสช.ดูแลฝ่ายสังคมและจิตวิทยา พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ในฐานะรองหัวหน้า คสช.ดูแลฝ่ายเศรษฐกิจ พล.ต.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้า คสช.ดูแลฝ่ายกิจการพิเศษ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วย ผบ.ทบ.ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของ คสช. และ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รอง ผบ.ทบ.ในฐานะเลขาธิการ คสช. พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านกฎหมายของ คสช. รวมถึงนายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของ คสช.ในฐานะหัวหน้าทีมร่างธรรมนูญการปกครองชั่วคราว ได้เดินทางมาประชุมหารือรายละเอียดเนื้อหาสาระร่างธรรมนูญการปกครอง 45 มาตรา ภายหลังจากที่นายวิษณุได้ส่งร่างธรรมนูญการปกครองชั่วคราวให้หัวหน้า คสช. พิจารณามาแล้วก่อนหน้านั้น ทั้งนี้ หากที่ประชุม คสช.ให้ความเห็นชอบก็จะเข้าสู่ขั้นตอนของการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยต่อไป

ขณะที่ พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวว่า แนวทางตามขั้นตอนการรวบรวมและรายงานของศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) ที่กำหนดให้แล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อรายงานต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผ่านสำนักงานคณะกรรมการปรองดองและการปฏิรูป ภายหลังจากที่ ศปป.กอ.รมน.ภาคและจังหวัดได้ดำเนินกิจกรรมการปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปในรูปแบบต่างๆ มาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งเป็นที่ปรากฏต่อสาธารณชนทั่วไป ทั้งกิจกรรมคืนความสุข กิจกรรมสาธารณประโยชน์ กิจกรรมตามวาระการเยี่ยมประชาชนของฝ่ายปกครอง งานเทศกาล งานบุญ งานประเพณีตามโอกาสต่างๆ ในแต่ละท้องถิ่นทั่วประเทศ โดยผลการดำเนินการที่ผ่านมาได้รับผลสัมฤทธิ์ที่น่าพอใจในการเสริมสร้างบรรยากาศของการปรองดองสมานฉันท์เกิดขึ้นในสังคม ต่างจากก่อนหน้านี้ที่พบว่าเกิดบรรยากาศความขัดแย้งขึ้นในสังคมอย่างกว้างขวาง ส่วนผลการดำเนินการในขณะนี้ได้รับข้อมูลและข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนในการเดินหน้าประเทศไทยในหลากหลายมุมมอง

พ.อ.บรรพตกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ข้อมูลที่ได้รับจะแบ่งเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มภาคประชาชน กลุ่มข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ กลุ่มภาคแกนนำทางการเมือง กลุ่มภาคธุรกิจเอกชน กลุ่มภาคประชาสังคมและอื่นๆ โดยแต่ละกลุ่มจะสะท้อนความคิดเห็น ข้อเสนอแนะอย่างอิสระพร้อมได้กำหนดเป็นแนวทางได้ 11 ประเด็น คือ 1. แนวทางการปฏิรูปทางการเมือง 2. แนวทางการสร้างมาตรฐานทางจริยธรรมของผู้บริหารประเทศ 3. แนวทางการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม 4. แนวทางการปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน 5. แนวทางการปฏิรูปการทุจริตคอร์รัปชัน 6. แนวทางการปฏิรูปการศึกษา 7. แนวทางการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ 8. ด้านข้อมูลข่าวสาร 9. ด้านความเหลื่อมล้ำทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม 10. การจัดสรรทรัพยากรที่ดิน ป่าไม้ และน้ำ 11. ด้านอื่นๆ เช่น ระบบพลังงาน เป็นต้น ซึ่งแต่ละแนวทาง ศปป.จะรวบรวมข้อมูลตั้งแต่ระดับหมู่บ้านจนถึงระดับภาค โดยเป็นข้อมูลดิบ ไม่มีการสรุป ไม่มีการชี้ถูกชี้ผิด ส่งตรงต่อสำนักงานคณะกรรมการปรองดองและการปฏิรูปต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้รับทราบแล้วว่านายวีระ สมความคิด มีความประสงค์ขอเข้าพบ โดยหัวหน้า คสช.ได้ฝากแสดงความยินดีกับนายวีระที่ได้รับอิสรภาพและกลับมาสู่ครอบครัวอย่างอบอุ่น และฝากให้ช่วยกันดูแลทำให้บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย ตั้งใจปฏิบัติงานในภาระหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มกำลังเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมต่อประเทศต่อไป