โฆษก คสช.จวก จนท.ทูตมะกันกล่อมมหาอำนาจระงับความช่วยเหลือ รวมทั้งคอบร้าโกลด์ พวกรู้ข้อมูลไม่เพียงพอ ยัน กต.เร่งแจงแล้ว แถม “คริสตี” ก็มาพบ ผบ.สส.แล้ว เชื่ออาจมีท่าทีเปลี่ยน บอกอียูไม่ได้มาเยือนไทยบ่อย พร้อมแจง 3 ลักษณะ ตั้งใจทำประชาธิปไตยให้สมบูรณ์ ลั่นไม่เคยละเมิดสิทธิมนุษยชน
วันนี้ (26 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พ.อ.วินธัย สุวารี ทีมงานโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีนายสกอต มาร์เชล เจ้าหน้าที่การทูตระดับสูง ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ที่เข้าชี้แจงสถานการณ์การเมืองไทยต่อคณะอนุกรรมการฝ่ายกิจการต่างประเทศ ประจำสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอเมริกา ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ว่า เป็นความเห็นเพียงท่านเดียวเท่านั้นที่พูดถึงท่าทีให้สหรัฐฯ ทบทวนระงับความร่วมมือต่างๆ ทันที ร่วมถึงเรื่องการฝึกซ้อมในกรอบทวิภาคีระหว่างสหรัฐฯ กับไทย (คอบร้าโกลด์) ซึ่งตนมองว่าผู้ที่พูดอาจรับข้อมูลประเทศไทยไม่เพียงพอ และได้ให้ความเห็นว่าหากประเทศไทยยังไม่เรียบร้อยก็อาจจะให้ไปดูสถานที่ฝึกคอบร้าโกลด์ในสถานที่อื่น ทั้งนี้ ประเทศไทยมีความเรียบร้อยตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศได้ประสานชี้แจงสหรัฐฯ ด้วยวาจาและเอกสาร และเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ได้เข้าพบ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ในฐานะรองหัวหน้า คสช.เช่นเดียวกัน
เมื่อถามกรณีสหรัฐฯ ได้ระงับความช่วยเหลือที่เกี่ยวเนื่องกับงานด้านความมั่นคงให้กับประเทศไทยไปแล้ว 4.7 ล้านดอลลาร์ (ราว 150 ล้านบาท) พ.อ.วินธัยกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นมาตรการปกติและเป็นระเบียบปฏิบัติสำหรับประเทศที่มีการควบคุมอำนาจการปกครอง ทั้งนี้ เชื่อว่าภายหลังการทำความเข้าใจทุกอย่างจะดีขึ้นและเชื่อระยะต่อไปสหรัฐฯ อาจจะมีท่าทีที่เปลี่ยนแปลงได้
พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ส่วนท่าทีของกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ทีอาจจะต้องขอชะลอในการที่จะเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการนั้น ปกติการเดินทางมาเยือนก็ไม่ได้มีกันบ่อย มาตรการและการชะลอการลงนามข้อตกลงความร่วมมือในทุกมิติ อาจจะขอชะลอจนกว่าจะมีประชาธิปไตยโดยสมบรูณ์ ในทั้งสองส่วนนี้ไม่ใช้ท่าทีที่ถาวร เป็นแค่เพียงช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น และไม่มีส่วนในเรื่องของเศรษฐกิจ ทั้งนี้ เราต้องทำความเข้าในเรื่องของอียู ใน 3 ลักษณะ 1. ข้อกังวลซึ่งก็เป็นข้อกังวลพื้นฐานทั่วไป เช่น อยากให้เข้าสู่ระบบประชาธิปไตยโดยสมบรูณ์โดยเร็ว 2. ไม่อยากให้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อผู้ที่คิดเห็นทางการเมือง และ 3. อยากให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว ในเรื่องของการคืนประชาธิปไตยที่สมบรูณ์นั้นในส่วนของประชาธิปไตย ถือว่าตั้งแต่ คสช.เข้ามาเพื่อรักษาประชาธิปไตยโดยเฉพาะ เพื่อให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น และเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ในมุมมองที่เหมือนกัน เพราะแต่ก่อนนั้นมองคนละมุม ต่อไปเป็นการเลือกตั้ง ทางคสช.ได้กำหนดกรอบไว้เรียบร้อยแล้ว ที่แบ่งออกเป็น 3 ระยะ เพราะฉะนั้นทั้งหมดเราได้มีข้อมูลอยู่แล้วทั้งหมด
“จากการติดตามจากสื่อมีเพียงสหรัฐฯ กลุ่มอียู ที่อาจยังรับทราบข้อมูลไม่เพียงพอต่อสถานการณ์ในปัจจุบันของประเทศไทย โดยเฉพาะเรื่องของความสงบเรียบร้อย ที่ปัจจุบันนี้เรามีความเรียบร้อย ประชาชนมีความพึงพอใจ และความรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่มีแล้ว ความวุ่นวายในบ้านเมืองก็ไม่มี ในส่วนสภาพเศรษฐกิจก็สามารถเดินต่อไปได้ ความเดือดร้อนของประชาชนก็ได้รับความแก้ไข ซึ่งต้องแยกออกเป็นประเด็นไปตามข้อสงสัย อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติของ คสช.ต่อผู้ที่เห็นต่างทางการเมือง ในการดำเนินการไม่ใช้การดำเนินการอย่างคนที่ผู้กระทำความผิด แต่ดำเนินการในลักษณะผู้ที่เป็นมิตรต่อกัน เราคนไทยมีความโอบอ้อมอารีต่อกันพูดคุยกันด้วยเหตุผลรู้เรื่อง ยืนยันว่าตั้งแต่ คสช.ตั้งขึ้นมาเราไม่เคยละเมิดสิทธิ์มนุษยชน และเราก็ให้ความสำคัญในเรื่องนี้มาก” ทีมโฆษก คสช.กล่าว