ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเชิญเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ หลังถูกมะกันตัดงบฯช่วยเหลือด้านความมั่นคง ขณะที่ “คริสตี เคนนีย์” ยันอเมริกายังไม่คิดย้ายการฝึกร่วม “คอบร้าโกลด์” ไปออสเตรเลีย ตามที่เป็นข่าว โฆษก คสช.ปฏิเสธ คสช.ปรับเปลี่ยนนโยบายต่างประเทศหันกระชับสัมพันธ์จีนมากขึ้น
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฎิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ในฐานะรองหัวหน้า คสช. ได้เชิญนางคริสตี เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าหารือเพื่อทำความเข้าใจ ถึงสถานการณ์ความร่วมมือระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกา เบื้องต้นทราบว่ากองทัพสหรัฐฯ ยังไม่พิจารณาย้ายสถานที่ฝึกร่วมรบคอบร้าโกลด์ ตามที่นายสกอต มาร์เซล เจ้าหน้าที่การทูตระดับสูง ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก เสนอต่อรัฐสภาสหรัฐฯ ให้ย้ายฝึกคอบบร้าโกลด์ไปเมืองดาร์วิน ประเทศออสเตรเลียแทนประเทศไทย ทั้งนี้ ผบ.สส.ได้แจ้งแก่เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยว่า หัวหน้า คสช.เข้าใจดีถึงท่าทีและมาตรการต่างๆ ของสหรัฐฯ ที่แสดงออกโดยการตัดความช่วยเหลือไทย ถือเป็นธรรมเนียมปกติที่ประเทศใดมีทหารเข้าควบคุมอำนาจ นานาชาติต้องมีมาตรการแซงก์ชันจนกว่าสถานการณ์การเมืองจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
พ.อ.วันธัยกล่าวว่า เงินช่วยเหลือด้านความมั่นคง 4.7 ล้านดอลลาร์ ที่สหรัฐฯ ตัดไปนั้น เป็นเงินที่ใช้ในหลักสูตรฝึกซ้อมรบระหว่างไทย-สหรัฐฯ ในรหัส “กะรัต” และรหัส “หนุมาน การ์เดียน” รวมทั้งทุนดูงานแลกเปลี่ยนในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทางรัฐสภาสหรัฐฯ ได้อนุมัติตัดงบไปแล้ว และมีแนวโน้มว่าจะพิจารณาตัดงบเพิ่มในโครงการอื่นๆ ตามงบ 10.5 ล้านดอลลาร์ ที่เคยให้ความช่วยเหลือไทย
อย่างไรก็ตาม คสช.จะเดินหน้าชี้แจงการทำงานของ คสช.ทุกช่องทาง พร้อมกับทุกหน่วยงานของไทยที่ประจำอยู่ทั่วโลก ได้เร่งชี้แจงสถานการณ์ภายในไทยที่พิสูจน์ได้ว่าครบรอบ 1 เดือนแล้ว ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น ซึ่ง คสช.แก้ไขปัญหาทุกด้านเพื่อไปสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่เพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับมา
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่านโยบายของ คสช.เปลี่ยนท่าทีไปกระชับความสัมพันธ์กับจีนมากกว่าสหรัฐฯ นั้น พ.อ.วินธัยกล่าวว่า มีหลายภาคส่วนประเมินไปเอง คสช.พยายามปรับให้ท่าทีทุกประเทศเข้าใจเป้าหมายของ คสช.ให้ตรงกัน ขอปฏิเสธว่าเรื่องปรับเปลี่ยนนโยบายต่างประเทศยังไม่มี