xs
xsm
sm
md
lg

คสช.ตั้งเป้าล้างยาเสพติดให้หมดประเทศ “ประยุทธ์” จี้แก้ปัญหาร้องเรียนเร่งด่วน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร (แฟ้มภาพ)
“อุดมเดช” ประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์และความคืบหน้างานต่างๆ ตามคำสั่ง คสช.ยันจัดระเบียบจักรยานยนต์รับจ้าง รถตู้โดยสาร และรถแท็กซี่ให้เป็นรูปธรรมใน 5 วัน “ประยุทธ์” สั่งเร่งแก้ปัญหาร้องเรียนด่วน ขณะที่ “ไพบูลย์” ถกปัญหายาเสพติดตั้งเป้าขจัดให้หมดไปจากประเทศไทย เล็งดึง “ทูบีนัมเบอร์วัน-เอ็นจีโอ” ร่วม



ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน วันนี้ (20 มิ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มอบหมายให้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รอง ผบ.ทบ.ในฐานะเลขาธิการ คสช. เป็นประธานการประชุม คสช.แทนเพื่อติดตามสถานการณ์และความคืบหน้าการดำเนินงานต่างๆ โดยเฉพาะกรณีที่มีการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูแลเรื่องการจัดระเบียบจักรยานยนต์รับจ้าง รถตู้โดยสาร และรถแท็กซี่ ที่คณะทำงานได้รายงานผลความคืบหน้าในการดำเนินงานที่ผ่านมาจากที่ได้มีการลงพื้นที่ดำเนินการจัดระเบียบในส่วนต่างๆ โดยในวันนี้ก็ได้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และจะดำเนินการให้เป็นรูปธรรมภายใน 5 วัน

สำหรับประเด็นเรื่องร้องทุกข์ที่ผ่านการยื่นหนังสือ หรือเรื่องที่ผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์นั้น พล.อ.อุดมเดชแจ้งว่า หัวหน้า คสช.ให้แก้ไขอย่างเร่งด่วน หากประเด็นใดที่กระทบในวงกว้าง ให้ประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจต่อประชาชน โดยเฉพาะสื่อต่างประเทศที่ไม่เข้าใจในเรื่องการปิดวิทยุชุมชน ให้กระทรวงการต่างประเทศไปทำความเข้าใจโดยเจาะไปที่สื่อต่างประทศที่นำเสนอข่าวนั้น เพื่อให้ทราบว่าวิทยุชุมชนที่ถูกปิดไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบการตามกฎหมาย

ทั้งนี้ เดือนหน้าเป็นเดือนรอมฎอน วิทยุชุมชนที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมศาสนาอิสลามที่ถูกปิดอยู่ระหว่างการตรวจสอบของ กสทช.ว่าเปิดดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ อาจตรวจสอบไม่ทันเวลาในห้วงการประกอบศาสนกิจ จึงขอให้ไปประสานกับกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยภาค 4 และ ศอ.บต.ในการขออนุญาตเปิดในห้วงเวลาดังกล่าว โดยไม่ขัดต่อระเบียบของ กสทช. ในระหว่างนี้ กสทช.ก็ดำเนินการตรวจสอบไปตามขั้นตอน หากพบว่ามีการดำเนินการที่ผิดกฎหมายก็ให้ปิดได้ทันที

พร้อมกันนี้ ในที่ประชุมได้ย้ำกรณีที่สถานทูตไทยในเยอรมนี ได้พบปะกับกลุ่มนักเรียนไทยเพื่อพูดคุยถึงสถานการณ์ในประเทศ โดยย้ำให้สถานทูตไทยที่ประจำในต่างประเทศขยายผลเช่นกัน อีกทั้งยังขอให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ตรวจสอบและช่วยเหลือการดำเนินการจัดสรรงบท้องถิ่น และกองทุนต่างๆ ให้มีความโปร่งใส และใช้ประโยชน์จริง

ด้าน พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา หัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เป็นประธานการประขุมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เน้นติดตามการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย กำกับดูแล การป้องกัน ปราบปราม บำบัดในพื้นที่ภูมิภาค ส่วนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มอบหมายให้ กทม.เป็นหน่วยงานหลักในการแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมถึงเน้นให้มีการบูรณาการความร่วมมือกับโครงการต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนที่ดูแลทางด้านยาเสพติด อาทิ โครงการทู บี นัมเบอร์วัน

นอกจากนี้ คสช.ยังเล็งดึงเอ็นจีโอ และภาคประชาชนมาร่วมมือกันแก้ปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง โดยเห็นว่า ทุกคนในประเทศต้องรับผิดชอบร่วมกัน ทั้งนี้ คสช.มีเป้าหมายหมายหลักในการขจัดยาเสพติดให้หมดไปจากประเทศ


กำลังโหลดความคิดเห็น