คสช. แจงผลงานกวาดล้างไม้เถื่อน พบจับผู้ต้องหา 16 คน พร้อมของกลางรวม 17 จังหวัด ส่วนใหญ่ไม้สัก-ไม้กระยาเลย กว่า 6 ร้อยท่อน ชี้มีแรงงานต่างด้าวครบกำหนดต้องกลับประเทศ 6 หมื่นราย คาดข่าวปล่อยจาก จนท. รัฐ ร่วมกับนายหน้าค้าแรงงาน ขู่จับได้มีโทษทางวินัยและอาญา กต. ปรับความเข้าใจรองนายกฯ - รมว. มท. กัมพูชา เน้นนโยบายบีโอไอ ต้องเกิดประโยชน์ประเทศ สอดคล้องแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 11
วันนี้ (19 มิ.ย.) พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ออกประกาศให้กวาดล้าง และจับกุมผู้กระทำความผิดค้าไม้เถื่อน ในเบื้องต้น ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. ภาค 1-4 ได้ร่วมกันกวาดล้าง และจับกุมผู้ต้องหาค้าไม้เถื่อนได้จำนวน 16 คน พร้อมของกลางรวม 17 จังหวัด ได้ไม้สัก 633 ท่อน ไม้พยุง 270 ท่อน ไม้กระยาเลย 689 ท่อน รวมถึงสามารถยืดคืนพื้นที่ได้จำนวน 64 ไร่ รถยนต์ 6 คัน และเลื่อยโซ่ยนต์ 4 เครื่อง
สำหรับกรณีการอพยพของแรงงานกัมพูชา ในเบื้องต้นทาง คสช. ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่า ในปีนี้จะมีแรงงานที่ครบกำหนดตัองเดินทางกลับประเทศจำนวน 60,000 ราย รวมถึงมีแรงงานที่เดินทางเข้า-ออกรายวันตามแนวชายแดน ซึ่งขณะนี้ได้รับรายงานว่า กระแสข่าวดังกล่าวน่าจะเกิดจากกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐ และนายหน้าค้าแรงงาน เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์จากกลุ่มแรงงานโดยตรง หากพบว่าเจ้าหน้าที่รัฐคนใดกระทำเรื่องดังกล่าวจะเอาผิดทางวินัย และมีบทลงโทษทางอาญา
พ.อ.วินธัย กล่าวถึงกรณีนายซาร์ เค็ง ซาร์ เค็ง รมว.มหาดไทย เรียกร้องได้ออกมากล่าวตำหนิทางการไทย เรียกร้องกองทัพไทยรับผิดชอบ กรณีที่แรงงานชาวกัมพูชาประสบอุบัติเหตุจนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บขณะเดินทางกลับประเทศว่า ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศกำลังประสานและเร่งทำความเข้าใจ ซึ่งต้องดูว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นสิ่งที่ รมว.มหาดไทยกัมพูชาพูดจริงหรือไม่ ขณะเดียวกันทราบว่ามีการส่งข่าวจากทางกัมพูชา คสช. จึงให้หัวหน้าส่วนราชการทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการ รวมถึงปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงกับเอกอัครราชทูตกัมพูชา และเอกอัครทูตไทยในกัมพูชา เพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกัน ขณะที่กระทรวงกลาโหมได้ใช้ช่องทางผู้ช่วยทูตทหารในการทำความเข้าใจ และถือว่าเราได้ใช้ทุกช่องทางทำความเข้าใจแล้ว
พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ข่าวที่เกิดขึ้นความจริงแล้วไม่มีอะไรเลย น่าจะเป็นการสื่อสารที่เข้าใจผิดมากกว่า ที่เกิดขึ้นจากการสร้างข่าวลือเพราะเป็นไปไม่ได้ที่จะไปทารุณกรรม หรือมาตรการบังคับเกี่ยวกับแรงงาน ซึ่งคนที่รับข่าวสารก็คงต้องมีวิจารณญาณพอสมควร
เมื่อถามว่า ทำไมกองทัพไม่หาว่าต้นตอของการสร้างข่าวลือมาจากไหน พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ในกระบวนการอยู่ ซึ่งเท่าที่ได้รับข้อมูลมาส่วนหนึ่งว่ามีผู้ไม่หวังดีทำกันเป็นกระบวนการ อาจจะมาจากผู้ประกอบการ หรือผู้ประกอบธุรกิจแรงงาน ผู้ค้าแรงงานที่อาจเสียประโยชน์จึงปล่อยข่าวออกมาเพื่อสร้างความสับสน
เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีนักการเมืองไทยไปร่วมมือกับนักการเมืองกัมพูชาสร้างข่าวนี้ออกมา พ.อ.วินธัย ตอบว่า เราไม่ได้ตั้งสมมติฐานอย่างนั้น ซึ่งเท่าที่ฟังท่าทีของกัมพูชาก็มีความเข้าใจสถานการณ์ในไทย เมื่อถามต่อว่า ถ้าเข้าใจ ทำไมรมว.มหาดไทยกัมพูชาจึงออกมาเรียกร้องให้ คสช. รับผิดชอบ พ.อ.วินธัย ตอบว่า เรื่องนี้ยังเป็นข้อมูลผ่านสื่อ ซึ่งที่ผ่านมาระหว่างกองทัพไทยและกองทัพกัมพูชา ก็มีการประสานกันเพื่อทำความเข้าใจกันอยู่ แต่เขาจะเข้าใจหรือไม่ก็ต้องรอดูกันต่อไป
ด้าน ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ ทีมโฆษก คสช.ฝ่ายพลเรือน กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการเดินทาง ทาง คสช. ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย ผู้ที่ดูแลการเดินทางต้องรับผิดชอบ ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศได้ทำความเข้าใจกับเพื่อนบ้านว่า ไม่มีการดำเนินการผลักดันแรงงานต่างด้าวกลับประเทศ ทั้งนี้ คสช. ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลแก้ไขปัญหาเรื่องแรงงานต่างด้าวในระยะยาว โดยจะดูแลให้สอดคล้องตามสิทธิมนุษยชน ตามสิทธิที่พึ่งได้รับ และให้เขาทำงานในประเทศไทยอย่างมีความสุข
เมื่อถามว่า ผลกระทบกับผู้ประกอบไทยที่ขาดแรงงาน จะมีมาตรการอะไรเข้ามาดูแล ร.อ.นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า เบื้องต้นเป็นการชี้แจงทำความเข้าใจกับตัวแรงงาน ซึ่งตัวแรงงานมีความเข้าใจมากขึ้น มีการตั้งศูนย์ขึ้นทะเบียนแรงงานแบบเบ็ดเสร็จในหน่วยเดียวเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายได้มาขึ้นทะเบียน ส่วนแรงงานที่กลับไปแล้ว หากจะกลับมาทำงานที่ประเทศไทยต้องเป็นไปตามกระบวนการของกระทรวงแรงงาน ซึ่งแรงงานส่วนหนึ่งที่กลับไปนั้น เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างรัฐบาลที่มีข้อตกลงการทำงานในประเทศไทย 4 ปีและเขาก็สามารถเข้ามาทำงานในประเทศไทยได้อีก 3 ปี ส่วนแรงงานที่ผิดกฎหมายแต่มีการพิสูจน์สัญชาติเมื่อทำงานครบ 4 ปีก็สามารถต่อวีซ่าได้อีก 2 ปี
เมื่อถามว่า กรณีนายหน้าที่มีการหักหัวคิวแรงงาน ร.อ.นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า เรื่องนี้ทางคณะกรรมการก็ต้องพิจารณา เพื่อทำให้แรงงานต่างด้าวเป็นระบบ ซึ่งกำลังรวบรวมข้อมูลและแนวทางมาตรการเพื่อนำเสนอต่อหัวหน้า คสช. ซึ่งทางคสช.ได้มอบหมายให้นายจ้างไปเช็ครายชื่อลูกจ้างที่มีอยู่ให้เรียบร้อยเพื่อที่เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ
พ.อ.วิธัย ยังระบุถึงกรณีที่ คสช. มีคำสั่งให้นายประวิทย์ เคียงผล อธิบดีกรมการจัดหางาน ปฎิบัติหน้าที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น เพื่อความเหมาะสม เบื้องต้นยังไม่แน่ชัดว่า จะเกี่ยวข้องกับกรณีแรงงานต่างด้าวอพยพออกนอกประเทศ
นางสาวปถมาภรณ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ทีมโฆษก คสช. ได้เปิดเผยถึงการประชุมของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ วานนี้ (18 มิ.ย.) ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะ คสช. ได้เน้นย้ำนโยบายให้คณะกรรมการบีโอไอ ดำเนินโครงการต่างๆ ให้เกิดประโยชน์กับประเทศ และให้สอดคลองกับแผนพัฒนาเศรษฐิกจแห่งชาติฉบับที่ 11
โดยในส่วนของเกณฑ์การพิจารณาส่งเสริมธุรกิจด้านบีโอไอ ได้สั่งให้ปรับปรุงเพื่อให้สอดคล้องกับธุรกิจทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก รวมถึงขอให้คณะกรรมการบีโอไอ ทำงานอย่างเต็มที่ และยืดหลักการทำงานที่โปร่งใส เป็นธรรม และไม่มีการทุจริตในทุกขึ้นตอน อย่างไรก็ตาม คสช. คาดหวังเปลี่ยนบทบาทบีโอไอ ให้เป็นผู้อำนวยความสะดวกให้กับคนไทยและต่างชาติ โดยในเบื้องต้นมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นใหม่อีก 2 ชุด เพื่อดูแลสนับสนุนการลงทุน