xs
xsm
sm
md
lg

โฆษก คสช.จับตาสื่อออนไลน์บิดเบือน เบรกวิจารณ์ขอสะสางปมก่อน จ่อนัดสื่อนอกคุย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก (แฟ้มภาพ)
ทีมโฆษก คสช. จับตา "วินเซนต์ - เสธ.น้ำเงิน" บิดเบือนผ่านสังคมออนไลน์ แต่รับยาก แนะรอเฟส 2 ค่อยวิจารณ์ ขอสะสางข้อกังขาสังคมหวั่นถูกด่าทำเสียของ เผยเล่นกปปส.เขียนด่าฝ่ายตรงข้ามด้วย เตรียมเบรก ปชป.จ้อ จ่อชง "ประยุทธ์" นัดสื่อนอกคุย เผย ปลัดกต.บอกอาเซียนให้กำลังใจไทย ชาติอื่นยังสัมพันธ์สยาม อินเดียเตรียมเชิญ ผบ.สส.เยือน เปิดคอลเซ็นเตอร์ร้องเรียน พร้อมถอดโลโก้ คสช.ออกทีวี

วันนี้ (9 มิ.ย.) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 13.30 น. พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวย้ำถึงกรณีที่มีกระแสข่าวเกี่ยวกับการดำเนินงานของ คสช.ที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงว่า ขอให้ประชาชนติดตามรับฟังข้อมูลที่เป็นทางการได้ตามช่องทางมาตรฐานของ คสช.หรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจริงๆ เพราะขณะนี้มีการปล่อยข่าวลือที่ยังไม่ได้ข้อสรุป และไม่ใช่ข้อเท็จจริง โดยยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ อาทิ โครงสร้างภาษี อัตราดอกเบี้ย และโครงสร้างราคาพลังงาน เป็นต้น รวมไปถึงการดำเนินโครงการต่างๆก็ยังไม่มีการพิจารณาโครงการใดๆ นอกเหนือจากโครงการในปีงบประมาณ 2557 ที่มีความเร่งด่วน เนื่องจากเหลือเวลาเพียง 4 เดือนในการเบิกจ่าย สำหรับโครงการอื่นๆ โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ในอดีตนั้น หากมีความชัดเจนจะชี้แจงเป็นระยะๆ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน

พ.อ.วินธัย กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีสิ่งที่น่ากังวลคือ มีการนำข้อมูลที่บิดเบือนผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค ซึ่งหาต้นตอไม่ได้ เช่นที่มีการใช้ชื่อว่า วินเซนต์ หรือ เสธ.น้ำเงิน ซึ่งถ้าวิพากษ์วิจารณ์อย่างเป็นกลางก็ไม่มีปัญหา แต่ใช้คำพูดพาดพิง ทำให้ทราบว่า หมายถึงใคร โดยขณะนี้กำลังให้ทีมงานทำการตรวจสอบ แต่ก็เป็นเรื่องยาก เพราะต้องมีการเข้ารหัส ซึ่งก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ อยากขอให้ทุกคนอย่าเพิ่งตำหนิว่า สิ่งที่ คสช.ทำไม่ดี 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะในช่วงเฟสแรกที่ คสช. เร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนไม่อยากให้ด่ากัน ถ้าจะวิพากษ์วิจารณ์ขอให้ไปว่า กันในเฟสที่ 2 คือเมื่อมีการตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และเมื่อมีสภาปฎิรูปแล้ว

“ข้อครหาที่ว่า คสช. ต้องการอยู่ในอำนาจไปนานๆ ความจริงคนทำงานข้าราชการตลอดชีวิต อยากไปให้เร็วที่สุด เพียงแต่ว่าตอนนี้เมื่อ คสช. รับอาสาเข้ามาแก้ไขปัญหา การไปให้เร็วอย่างเดียวไม่ใช่ปัจจัย เพราะถ้าจะไปเร็ว นั้นหมายความว่า ต้องสะสางสิ่งที่เป็นข้อกังขาของสังคมให้หมดสิ้นไปด้วย ไม่อย่างนั้นก็จะถูกด่าตามไปว่า จะทำทำไมให้เสียของ” พ.อ.วินธัย กล่าว

พ.อ.วินธัย ยังกล่าวด้วยว่า เพื่อบรรยากาศของการสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นโดยเร็ว คสช.จึงได้ดำเนินการตรวจสอบไอพีแอดเดรสของผู้สนับสนุน กปปส. ที่ยังมีการแสดงความเห็นทางการเมือง โจมตีฝ่ายตรงข้าม เพื่อทำความเข้าใจ และให้ร่วมสร้างบรรยากาศความปรองดองความสมานฉันท์ ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ ยังคงแถลงข่าวแสดงความเห็นทางการเมืองต่อเนื่องนั้น คสช.จะขอความร่วมมือ เช่นเดียวกัน

ด้าน พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค ทีมโฆษก คสช. เปิดเผยว่า เนื่องจากการสื่อสาร ทำความเข้าใจให้ตรงประเด็นกับสื่อต่างประเทศมากยิ่งขึ้น จึงมีการเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.จัดดินเนอร์ทอล์ค พบปะพูดคุยกับสื่อต่างประเทศ เพื่อทำความเข้าใจให้มากขึ้นแต่ยังไม่ระบุ เวลาและสถานที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 11 มิ.ย.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้นัดทูตานุทูตและกงศุลใหญ่ประเทศในแถบยุโรปและเอเซีย 23 ประเทศ พูดคุยทำความเข้าใจกับสถานการณ์ การเมือง คาดจะใช้ กองบัญชาการกองทัพบก สถานที่จัดงาน

ด้าน ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ ทีมโฆษก คสช.เปิดเผยถึงภารกิจการทำความเข้าใจกับนานาชาติว่า ล่าสุด นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้ร่วมประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนและการประชุมอื่นๆ ที่กรุงย่างกุ้ง สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า ระหว่างวันที่ 7-10 มิ.ย. และได้ถือโอกาสนี้ชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในไทยให้ประเทศสมาชิกอาเซียน และประเทศคู่เจรจาของอาเซียน เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยท่านปลัดกระทรวงฯ ได้ย้ำถึงความจำเป็นที่มิตรประเทศต่างๆ ควรอยู่กับประเทศไทย ให้กำลังใจ และสนับสนุนประเทศไทย โดยบรรยากาศการหารือเป็นไปอย่างเป็นมิตร การชี้แจงได้รับการตอบรับที่ดี โดยเฉพาะประเทศสมาชิกอาเซียนที่ให้กำลังใจไทยในการฟื้นฟูเสถียรภาพ ผลักดันการปฏิรูป เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยตามที่กำหนดไว้ในโรดแมปของ คสช. อย่างไรก็ตามทุกประเทศยืนยันว่าจะคงการปฏิสัมพันธ์กัประเทศไทย แม้ประเทศตะวันตกบางประเทศจะแจ้งถึงความจำเป็นที่จะต้องปรับนโยบายบางส่วนบ้างก็ตาม

ร.อ.นพ.ยงยุทธ กล่าวต่อว่า ทางเจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯได้ยืนยันความสัมพันธ์ของไทยที่เป็นพันธมิตรเก่าแก่ และมีความสำคัญกับสหรัฐฯ และหวังที่จะเห็นประเทศไทยกลับสู่ระบอบประชาธิปไตยโดยเร็ว ด้านเจ้าหน้าที่อาวุโสของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ยืนยันว่า ประเทศไทยเป็นมิตรที่สำคัญและมีความเชื่อมั่นมากขึ้น หลังคสช.ประกาศโรดแมป และหวังให้ประเทศไทยกลับสู่ระบอบประชาธิปไตยโดยเร็ว นอกจากนี้ท่านปลัดกระทรวงต่างประเทศของไทย ได้มีโอกาสหารืออย่างไม่เป็นทางการกับหัวหน้าคณะผู้แทนอินเดีย ซึ่งแสดงท่าทีเข้าใจสถานการณ์ของไทย และเห็นว่าเป็นเรื่องที่คนไทยจะต้องหาทางออกด้วยตนเอง ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจะดำเนินไปอย่างปกติ โดยทางอินเดียจะเชิญผู้บัญชาการทหารสูงสุดไทย ไปเยือนอินเดียด้วย

ร.อ.นพ.ยงยุทธ กล่าวต่อว่า ในวันนี้จะเป็นการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาค 26 ประเทศ รวมถึงสหภาพยุโรป โดยไทยจะใช้เวทีดังกล่าวชี้แจงภูมิหลังและพัฒนาการทางการเมืองของไทยเพิ่มเติม โดยจะเน้นความสำคัญที่มิตรประเทศจะอยู่กับไทยและให้กำลังใจไทย อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ท่านปลัดกระทรวงการต่างประเทศ จะเข้าร่วมการประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นกำหนดการที่กำหนดไว้ก่อนแล้ว โดยจะใช้โอกาสนี้ทำความเข้าใจกับฝ่ายต่างๆที่มีความกังวล เช่น เรื่องการควบคุมตัวบุคคลต่างๆ เรื่องสิทธิในการแสดงออก โดยขณะนี้กำลังนัดหารือกับข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ

ร.อ.นพ.ยงยุทธ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีการวิจารณ์จากองค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ทางกระทรวงการต่างประเทศได้สั่งการให้คณะทูตถาวร ณ กรุงนิวยอร์ก นัดหารือกับองค์กรฮิวแมนไรท์วอทช์ และได้มอบหมายให้สถานเอกอัคราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน นัดหารือกับองค์กรแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล แล้ว ขณะที่ประเทศจีนรัฐมนตรีต่างประเทศก็ยินดีต้อนรับท่านปลัดกระทรวงการต่างประเทศของไทยเยือนกรุงปักกิ่ง ในวันที่ 11 ก.ค.นี้

ด้าน น.ส.ปถมาภรณ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ทีมโฆษก คสช.กล่าวว่า ขณะนี้มีกระบวนการปลอมโดยอ้างว่าเป็นสื่อของ คสช.เกิดขึ้นในโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ จึงอยากขอความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งข้อมูลข่าวสาร และข้อเท็จจริงต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานของ คสช.ในเชิงสร้างสรรค์ ให้แจ้งผ่านช่องทางหลักของ คสช. ทั้งคอลเซ็นเตอร์ 10 คู่สาย หมายเลข 094-128-6273-9 รวมถีงอีเมล เฟซบุ๊ค และทวิตเตอร์ของ คสช.นอกจากนี้ประชาชนยังสามารถทำหนังสือร้องเรียนมายัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา หัวหน้า คสช.ได้โดยตรงโดยส่งมาที่ กองบัญชาการกองทัพบก ถ.ราชดำเนินนอก

น.ส.ปถมาภรณ์ กล่าวด้วยว่า ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ได้มีการอนุญาตให้นำตราสัญลักษณ์ คสช.ที่ปรากฏบนโทรทัศน์ทุกรายการได้ออกไปแล้ว เนื่องจาก คสช.เห็นว่า สถานการณ์คลี่คลายมากขึ้น อีกทั้งเพื่อเป็นการให้บรรยากาศได้ผ่อนคลาย อย่างไรก็ตามยังคงใช้สัญลักษณ์ดังกล่าวเฉพาะช่วงที่มีการถ่ายทอดโทรทัศน์รายการเฉพาะกิจของ คสช.ที่มีสถานีกองทัพบกช่อง 5 เป็นแม่ข่ายเท่านั้น นอกจากนี้ในส่วนของสถานีโทรทัศน์ หรือสถานีวิทยุที่มีการให้ยุติการออกอากาศชั่วคราวนั้น ให้เป็นหน้าที่ของ กสทช.ที่จะพิจารณาว่าจะสามารถให้ออกอากาศได้เมื่อใด


กำลังโหลดความคิดเห็น