คสช. ประชุมติดตามสถานการณ์ประจำวัน ประเมินกระแสต้าน คสช. ลดลง ต่างชาติเริ่มเข้าใจ ปิดวิทยุละเมิดคำสั่ง คสช. 40 สถานี เว็บไซต์ 553 URL เฟซบุ๊ก คสช. มียอดกดไลก์ 323,888 ครั้ง กัมพูชายืนยันไม่หนุนใครใช้พื้นที่เคลื่อนไหวทางการเมือง บัวแก้วสั่งทูตประจำยูเอ็นทำความเข้าใจฮิวแมนไรต์วอตช์ ในนครนิวยอร์ก เหตุจำเป็นที่ทหารต้องยึดอำนาจ
พ.อ.ธนเดช เหลืองทองคำ รองเจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทหารบก แถลงหลังเป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์ประจำวันของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) วันนี้ (7 มิ.ย.)โดยในการประชุมฝ่ายข่าว ได้มีการรายงานถึงการตรวจพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนในพื้นที่ต่างๆ อาทิ จังหวัดชลบุรี ปราจีนบุรี และสิงห์บุรี ขณะเดียวกัน มีการประเมินว่า ขณะนี้กระแสการต่อต้านการยึดอำนาจการบริหารประเทศนั้นลดระดับลงอยู่ในวงจำกัด และยังไม่พบกระแสต่อต้านการดำเนินการตามแนวทางปรองดองและสมานฉันท์ ขณะที่รัฐบาลและสื่อต่างประเทศส่วนใหญ่เริ่มมีความเข้าใจสถานการณ์ในไทยมากขึ้น ไม่มีการออกแถลงการณ์มากดดันไทย ยกเว้นประเทศนิวซีแลนด์
พ.อ.ธนเดช กล่าวว่า ฝ่ายยุทธการได้รายงานถึงการปฏิบัติงานของ คสช. เรื่องการออกประกาศฉบับที่ 54 ยกเลิกการออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) ในพื้นที่อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดกระบี่ และจังหวัดพังงา รวมถึงการออกคำสั่งให้บุคคลรายงานตัวเพิ่มเติม
ด้าน ฝ่ายกิจการพลเรือน ได้รายงานการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในทุกพื้นที่ว่ายังคงมีการจัดชุดปฏิบัติการมวลชนอยู่ 148 ชุดใน 78 จังหวัด เพื่อสร้างความเข้าใจปฏิบัติการร่วมกับส่วนราชการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ อาทิ การจัดแสดงดนตรีสด ให้บริการทางการแพทย์ เป็นต้น ศูนย์ประชาสัมพันธ์ ได้รายงานสรุปเรื่องร้องเรียนว่ามี 208 เรื่อง ทั้งการแจ้งเบาะแสยาเสพติด การพนัน ปัญหาแรงงานต่างด้าว การให้ปฏิรูปพลังงานเพื่อลดราคาน้ำมันและแก๊ส รวมถึงกรณีมีบุคคลแต่งกายคล้ายทหารบุกยึดทรัพย์สินในบ้านเรือนของประชาชนในพื้นที่ภาคอีสาน
ส่วนคณะทำงานปฏิบัติการข่าวสาร ได้รายงานว่าได้ตรวจสอบพบการออกอากาศของวิทยุชุมชนละเมิดคำสั่งของ คสช. จำนวน 40 สถานี ซึ่งได้ระงับการออกอากาศเป็นที่เรียบร้อย คณะทำงานติดตามสื่อ ได้แจ้งถึงการปิดเว็บไซต์ที่ฝ่าฝืนประกาศ คสช. ว่าตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคมถึงปัจจุบันได้ดำเนินการปิดไปแล้ว 553 URL ขณะที่ Facebook ของ คสช. มียอดกดไลก์ 323,888 ครั้ง
นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการเคลื่อนไหวเพื่อจัดตั้งองค์กรต่อต้านการรัฐประหารของนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า นายดำรง ใคร่ครวญ อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก ได้หารือกับ นางยู ออย เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวดังกล่าวแล้ว โดยเอกอัครราชทูตกัมพูชาได้ยืนยันท่าทีของกัมพูชาอย่างชัดเจนว่าไม่สนับสนุนให้ใครใช้กัมพูชาเป็นฐานเพื่อเคลื่อนไหวทางการเมืองในลักษณะที่เป็นการแทรกแซงกิจการภายในของมิตรประเทศ
นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้จัดทำแนวทางชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจกับภาคประชาสังคมของต่างประเทศ หลังจากที่องค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชนชั้นนำ อาทิ ฮิวแมนไรต์วอตช์ ได้แสดงความสนใจและเฝ้าติดตามสถานการณ์การเมืองไทยอย่างใกล้ชิด โดยได้มอบหมาย นายนรชิต สิงหเสนี เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ชี้แจงทำความเข้าใจที่สำนักงานใหญ่ของฮิวแมนไรต์วอตช์ในนครนิวยอร์กแล้ว
ขณะเดียวกัน ในสัปดาห์หน้า นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ จะเดินทางไปร่วมประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ และจะใช้โอกาสนี้เพื่อชี้แจงให้ชาติสมาชิกเข้าใจเกี่ยวกับพัฒนาการล่าสุดในไทย รวมถึงเหตุผลและความจำเป็นที่ทำให้กองทัพต้องเข้ามาคุมอำนาจในการบริหารประเทศด้วย