ปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกฯ ประชุมซักซ้อมแนวทางปฏิบัติงานพระศพพระสังฆราช เผยพระบรมฯ-พระเทพฯ ทรงพระกรุณาเป็นที่ปรึกษางาน แต่ยังไม่กำหนดวัน อ้างซ่อมเมรุวัดเทพศิรินทร์อยู่ ระบุหลายจังหวัดตื่นตัวปรองดอง หวังมีศูนย์จังหวัดและอำเภอแหล่งเรียนรู้เห็นอกเห็นใจกัน ข้าราชการต้องเป็นมิตรทุกฝ่าย อยากให้ทุกฝ่ายไม่แบ่งแยก ชี้ต้องสุจริต ยุติธรรม โปร่งใสก่อน บอก “ประยุทธ์” ย้ำตรวจสอบงบ เจอถามหัวหน้า คสช.จะใช้ทำเนียบหรือไม่ บอกเจ้าตัวพูดไม่ใช่นายกฯ
วันนี้ (6 มิ.ย.) ที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อเวลา 10.30 น. ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะอำนวยการจัดงานพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ว่าการประชุมวันนี้ (6 มิ.ย.) เพื่อเป็นการซักซ้อมแนวทางการปฏิบัติของทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องซึ่งงานพิธีนั้นยังไม่ได้มีการกำหนดวันที่แน่นอน และเป็นเรื่องที่คณะกรรมการยินดีเป็นอย่างยิ่งว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณารับเชิญเป็นองค์ประธานที่ปรึกษาของการจัดงานพระศพครั้งนี้ ส่วนวันเวลาจะเป็นวันไหนจะมีการกำหนดอีกครั้ง เพราะขณะนี้วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร กำลังมีการซ่อมแซมพลับพลาและเมรุหลวงด้วย รวมไปถึงพื้นที่ข้างเคียงต่างๆก็มีการซ่อมแซม ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้กำชับขอให้การจัดงานเป็นไปอย่างสมพระเกียรติและเป็นความสำนึกร่วมกันของประชาชนชาวไทย
ผู้สื่อข่าวถามว่า งบประมาณเดิมที่กำหนดไว้จะเพียงพอหรือไม่ หรือจะต้องมีการเพิ่มเติม ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า ทุกส่วนราชการที่เสนอมา อย่างสำนักงบประมาณได้มีการนำเสนอไปอย่างรอบคอบ ไม่ได้พิจารณาด้วยจำนวนที่มากมายเกินความจำเป็น ยังมีบางหน่วยงานที่ยังตระเตรียมในชั้นสุดท้าย ก็จะมีการเสนอมายังคณะกรรมการก่อนที่จะเสนอให้ คสช.ต่อไป
ปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ยังให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าแผนการปรองดองในจังหวัดต่างๆ ว่า ตอนนี้มีหลายจังหวัดได้รายงานกลับเข้ามาว่ามีความตื่นตัวกันมาก เป็นการแสดงให้เห็นความมุ่งมั่นที่อยากจะให้ศูนย์ในระดับจังหวัดและอำเภอเป็นแหล่งเรียนรู้ความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน ไม่มีการแบ่งแยกฝ่าย และข้าราชการจากนี้ไปจะต้องเป็นมิตรต่อทุกฝ่าย ไม่เป็นศัตรูกับใครที่มีความขุ่นข้องหมองใจ ทั้งเรื่องการเมืองการปกครอง ใครที่มีอดีตก็มาพูดคุยกัน ในฐานะที่เป็นคนไทยด้วยกัน ปัญหาอะไรที่จะแก้ไขกันได้ในระดับอำเภอหรือจังหวัดก็ดำเนินการกันไป เพราะความเข้มแข็งของจังหวัดจะนำไปสู่ความเป็นประเทศชาติที่มีความมั่นคงต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ สปน.จะมีการประสานกับจังหวัดต่างๆ เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าจังหวัดใดที่มีการดำเนินการไปแล้ว ผลเป็นอย่างไร อยากให้เป็นภาพของความเข้มแข็งในทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน ปราชญ์ชาวบ้าน เยาวชน ประชาชนทุกฐานะจะเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันไม่มีการแบ่งแยกถือเนื้อถือตัว
ม.ล.ปนัดดากล่าวต่อว่า สิ่งที่มองว่าจะแก้ไขได้ และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนให้เกิดความอุ่นใจก็คือ ความสุจริตยุติธรรม ความโปร่งใส โดยยึดหลักธรรมาภิบาลในการทำงาน ซึ่งข้าราชการต้องเป็นตัวอย่างในเรื่องนี้จะต้องไม่มีภาพของความฟุ่มเฟือย การใช้จ่ายที่สุดโต่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ย้ำอยู่ตลอดว่าให้มีการตรวจสอบในเรื่องเหล่านี้ โดยเฉพาะเรื่องการบริหารจัดการงบประมาณ
ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวทางปรองดองคิดว่าจะเข้าถึงประชาชนในต่างจังหวัดทุกพื้นที่ได้หรือไม่ เนื่องจากยังมีประชาชนบางส่วนจัดตั้งกลุ่มต่อต้าน คสช.อยู่ ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า ที่ผ่านมาเราตามใจตัวเองกันมามากพอแล้ว ต่างประเทศมองว่าประเทศไทยเป็นระบบอุปถัมภ์ ดังนั้นจากนี้ไปเราจะต้องเปลี่ยนให้เป็นระบบเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน เสียสละ ให้อภัย ทำทุกอย่างเพื่อนำไปสู่ความร่มเย็นเป็นสุข ซึ่งในต่างจังหวัด ถ้าผู้ว่าราชการจังหวัดทำงานร่วมมือกันทั้งนายอำเภอ ปลัดจังหวัด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ก็จะทำให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นได้ แต่ว่าก็ไม่ได้คาดโทษผู้ว่าฯที่ไม่สามารถควบคุมการก่อตัวของประชาชนที่จะต่อต้าน คสช. เพราะอยากให้ทุกจังหวัดร่วมมือร่วมใจกันเพื่อประเทศชาติมากกว่า
เมื่อถามว่า เท่าที่มีการพูดคุยกับหัวหน้า คสช.ได้มีการเปรยที่อยากจะใช้ทำเนียบรัฐบาลเป็นที่ทำงานบ้างหรือไม่ ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์พูดครั้งสุดท้ายบอกว่าท่านไม่ใช่นายกฯ เมื่อถามต่อว่าไม่ใช่นายกฯ ตอนนี้ใช่หรือไม่ ม.ล.ปนัดดาได้เพียงหัวเราะ