“ม.ล.ปนัดดา” นำ ขรก.สำนักงานปลัดสำนักนายกฯ ทำบุญ ตักบาตรพระสงฆ์ 9 รูป เป็นสิริมงคลจากการเข้าทำงานทำเนียบฯ เต็มรูปแบบ ส่วนการสร้างความปรองดองของคนในชาติ ทุกภาคส่วนต้องร่วมกัน พร้อมเรียกร้องให้ข้าราชการเป็นแบบอย่างในการสร้างความสามัคคีของคนในชาติ ทำงานอย่างโปร่งใส ไม่ทุจริต เล็งนำข้อเสนอแนะ “โทนี แบลร์” มาปรับใช้ พร้อมเปิดตู้ ปณ.1111 ให้ประชาชนร้องเรียน ขรก.ที่ไม่สุจริต
ที่ตึกสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อเวลา 07.15 น.วันนี้ (5 มิ.ย.) ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นำข้าราชการในสำนักงานปลัดสำนักนายกฯ ทำบุญ ตักบาตรพระสงฆ์ 9 รูปจากวัดมกุฏกษัตริยาราม ในโอกาสที่ข้าราชการเริ่มเข้ามาทำงานกันอย่างเต็มที่เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากผ่านไป 7 เดือนที่ไม่สามารถเข้ามาทำงานในทำเนียบรัฐบาลได้ โดยมีข้าราชการในสำนักงานปลัดสำนักนายกฯ นายนนทิกร กาญจนะจิตรา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) รวมถึงนายอภินันท์ จันทรังษี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เข้าร่วมตักบาตรด้วย
ม.ล.ปนัดดาให้สัมภาษณ์ภายหลังการทำบุญตักบาตรว่า การทำบุญในวันนี้ซึ่งเป็นวันพระด้วย ถือเป็นวันดีที่ข้าราชการทำเนียบฯ ได้กลับเข้าทำงานเป็นปกติแล้ว และเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับข้าราชในสังกัด สปน.ด้วย สำหรับตนถือเป็นครั้งแรกที่เข้ามาทำงานในทำเนียบฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากข้าราชการ
ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าแนวคิดการทำเรื่องความปรองดอง ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า เรื่องนี้ปลัดกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้ทุกจังหวัดจัดตั้งศูนย์ปรองดองประจำจังหวัด และอำเภอ เท่าที่ติดตามในจังหวัดต่างๆ พบว่าประชาชนมีความตื่นตัวกันมาก ศูนย์ดังกล่าวถือเป็นการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน
ส่วน คสช.มีแนวคิดจะนำผลการศึกษาของ 108 เวทีที่ สปน.ทำไว้ มาปรับใช้ด้วยหรือไม่นั้น ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า ทราบว่าจะมีการนำทุกอย่างที่แต่ละหน่วยงานเคยศึกษาไว้มาประยุกต์ใช้เพื่อให้ทุกฝ่ายเกิดความปรองดอง ไม่มีสี ไม่มีฝ่ายเพราะทุกคนเป็นคนไทยด้วยกัน ต้องมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เสียสละและให้อภัยต่อกัน และจะมีการนำแนวคิดของผู้นำต่างประเทศที่เคยเดินทางมาประเทศไทยอย่างเช่นนายโทนี แบลร์ ที่เคยพูดไว้มาสรุปและนำไปสู่สิ่งเหมาะสมและมีความเป็นไปได้กับสังคมไทยต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า จนถึงขณะนี้มั่นใจหรือไม่ว่าความปรองดองจะเกิดขึ้นจริง ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า ถือเป็นความมุ่งมั่น ปรารถนาของคนไทยทั้งประเทศ เพราะเราเคยรักกันมากจนเป็นแบบอย่างให้แก่ชาวโลก ก็ต้องดูว่าสาเหตุอะไรที่ทำให้คนไทยไม่รักกันเหมือนเมื่อก่อนก็ไปแก้ที่สาเหตุ เชื่อว่าจะทำให้เกิดความปรองดองได้ แต่อย่างไรก็ตาม การเริ่มต้นเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อเริ่มต้นปรองดองแล้วจะขยายไปสู่แนวทางการปฏิบัติอย่างไรก็เป็นเรื่องของแต่ละฝ่ายที่จะเสนอแนะกัน และทุกฝ่ายต้องยอมรับความคิดเห็นซึ่งกันและกันด้วย
ต่อข้อถามว่า ขณะนี้มองกันว่าฝ่ายหนึ่งถูกกด ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งก็พยายามสร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง จึงเป็นห่วงว่าความปรองดองอาจเกิดขึ้นยาก ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า เรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นเรื่องของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
ม.ล.ปนัดดายังย้ำว่า อยากให้ข้าราชการทุกคนแอ็กทีฟ วางตัวเป็นแบบอย่างที่มีความถูกต้อง ยึดมั่นหลักธรรมาภิบาลในการทำงานและเป็นข้าราชการของทุกฝ่าย ถ้าข้าราชการไม่เป็นตัวอย่างของความมุ่งมั่นในเรื่องนี้ก็คงจะทำอะไรสำเร็จยาก เมื่อถามว่าในส่วนของข้าราชการเองก็มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายด้วย ควรจะสลายแนวคิดให้ได้ก่อนที่จะไปสลายแนวคิดประชาชนให้เกิดการปรองดองหรือไม่ ม.ล.ปนัดดากล่าวย้ำว่า ตนยังอยากเห็นข้าราชการเป็นแบบอย่างของความถูกต้อง และต้องโปร่งใสด้วย ไม่ใช่ไม่โปร่งใสแล้วมาบอกให้ปรองดอง
อย่างไรก็ตาม ในการหารือกับหัวหน้าส่วนราชการในช่วงสายวันนี้จะเป็นการย้ำให้การทำงานของข้าราชการกระฉับกระเฉง ไม่กลับกลายเป็นจุดบกพร่องหรือล่าช้า หัวหน้า คสช.ได้เน้นย้ำตลอดว่าให้ยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ให้ข้าราชการทำอย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะช่องทางที่รัฐบาลมีอยู่อย่างตู้ ปณ.1111 ก็นำมาพิจารณา ซึ่งนอกจากเป็นช่องทางให้ประชาชนร้องเรียนแล้วก็จะให้เป็นช่องทางที่จะได้ช่วยทำงานกับ ป.ป.ช.ด้วย เพราะอยากให้ ป.ป.ช.มีบทบาทอย่างเต็มที่ในการตรวจสอบการทำงานของภาครัฐ ทั้งนี้จะพยายามทำทุกอย่างให้บรรลุถึงความสำเร็จในเรื่องของความปรองดอง สมานฉันท์
