ข่าวดี จีน-เอเซียหนุนไทย !!

เกาะกระแส


00 ในบรรยากาศที่โลกเกิดความขัดแย้ง ถ่วงดุลเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวเองนั้นมองอีกมุมหนึ่งมันก็เป็นผลดีเหมือนกัน โดยเฉพาะเป็นผลดีต่อประเทศไทยในสถานการณ์ปัจจุบันหลังจากการยึดอำนาจของ คสช.โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะหลังจากนั้นเราก็ถูก สหรัฐฯ รวมทั้งประเทศในยุโรป หลายประเทศรุมประณามและลดระดับความสัมพันธ์ ซึ่งหากตัดเรื่องความสำนึกรักชาติออกไปแล้วก็ต้องยอมรับมันมีผลกระทบไม่น้อยเหมือนกัน อย่างน้อยก็ในเรื่องการส่งออก การท่องเที่ยว แต่ในท่ามกลางสถานการณ์ของความขัดแย้งในโลกยุคใหม่ระหว่าง ตะวันตกกับ จีน และล่าสุดเพิ่มรัสเซียเข้ามาด้วย มันก็เลยทำให้ไทยจึงไม่ต้องถูกโดดเดี่ยว

00 แน่นอนว่าที่ผ่านมารัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เป็นหุ่นเชิดของ ทักษิณ ชินวัตร มีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ ในลักษณะขายทรัพยากรของชาติและความมั่นคงของชาติให้กับ สหรัฐฯ และประเทศในยุโรปในเรื่องธุรกิจพลังงาน และความมั่นคงในเรื่องการอนุญาตให้ใช้สนามบินอู่ตะเภา เมื่ออำนาจเปลี่ยนมือมาอยู่กับ คสช.ผลประโยชน์ที่ประเทศเหล่านี้เคยได้รับก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงทันที และอย่าได้แปลกใจที่เมื่อสหรัฐมีท่าทีต่อต้าน คสช.ทันใดทันที จีน กลับรีบให้การรับรองโดยประกาศท่าทีไม่แทรกแทรงกิจการภายใน ล่าสุดตามข่าวที่มีการแถลงจากทีมโฆษกฝ่ายพลเรือน นพ.ยงยุทธ มัยลาภ เปิดเผยว่าที่ผ่านมาเอกอัครราชทูตจีนและเวียดนาม ได้เข้าพบ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุดในฐานะรองหัวหน้าคสช.ยืนยันความสัมพันธ์ นอกจากนี้ยังมีข่าวดีที่ "มูดี้ส์"สถาบันจัดอันดับควาน่าเชื่อถือได้คงอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับเดิมนั่นคือ ระดับ Baa1 ซึ่งเป็นระดับที่มีเสถียรภาพสูง นอกจากนี้ท่าทีจากประเทศในอาเซียนอื่นๆก็ยืนยันไม่ยุ่งเรื่องภายในของเรา นี่ยังไม่นับถึงกรณีของรัสเซียไม่มีคำแถลงใดๆออกมาอย่างเป็นทางการ

00 ดังนั้นเชื่อว่านับจากนี้ เมื่อไทยเหมือนถูกบีบให้ต้องสนิทชิดเชื้อกับจีนมันก็ช่วยไม่ได้ที่ต่อไปฝ่ายต้อง"หนาว"จะกลายเป็นสหรัฐ เพราะยุทธศาสตร์"หวนคืนสู่เอเซีย"หากไทยไม่ให้ใช้สนามบินอู่ตะเภา มันก็กดดันจีนเรื่องทะเลจีนใต้ไม่ได้ผลเต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะเรามีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่สุด และที่สำคัญให้จับตาดูการพิจารณาการให้สัมปทานแหล่งพลังงานรอบใหม่จะมีการทบทวนหรือไม่ ถ้าทบทวนเพื่อเพิ่มผลประโยชน์ให้ตกมาอยู่กับคนไทยมากขึ้นอย่างเป็นธรรมมันก็ยิ่งหนาวสั่นเพิ่มขึ้นไปอีก !!

00 เริ่มมีความเคลื่อนไหวในการช่วยเหลือ วีระ สมความคิด ให้ได้รับการปล่อยตัวจากเขมร หรืออย่างน้อยให้มีการส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ล่าสุดที่เห็นความชัดเจนก็คือการเปิดเผยของโฆษกผู้ตรวจการแผ่นดิน รักษเกชา แฉ่ฉาย ว่าในวันที่ 17 มิ.ย.จะมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น รัฐบาล กระทรวงการต่างประเทศ กรมราชทัณฑ์ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนมาหารือเพื่อหาทางช่วยเหลือ ซึ่งที่ผ่านมาภรรยาของ วีระ คือ พิศอำไพ สมความคิด ได้ยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือมาและได้ส่งหนังสือดังกล่าวไปถึง คสช.แล้ว ก็หวังว่าจะได้รับข่าวดี และจะได้เห็นถึงความเอาใจใส่กับคนไทยที่ต้องเดือดร้อนเพราะความรักชาติหวงแหนแผ่นดินทุกตารางนิ้ว