xs
xsm
sm
md
lg

คสช.ชี้ต่างชาติยังเชื่อมั่น ตั้ง คตร.สอบงบ ปัดสั่ง “วิษณุ” ยกร่าง รธน. ยังไม่คุยช่วย “วีระ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ทีมโฆษก คสช.แจงมีปล่อยข่าว จนท.บุกค้นบ้าน ปชช. ฝีมือผู้ไม่หวังดี ชี้มะกัน-ออสซีแค่ชะลอฝึกทหารไม่ยกเลิก ยกมูดี้ส์จัดความน่าเชื่อถือไทยคงที่ สะท้อนเชื่อมั่น ตปท.มีคิวเข้าพบเพียบ ตั้ง คตร.สอบใช้งบตามกรอบ ให้ตรงเป้าสภาพัฒน์ ศูนย์ปรองดองเริ่มแล้ว สั่งจัดเนื้อหาปรองดองทุกกิจกรรม มีประชุม 3 ฝ่ายติดตาม ปัดคำสั่งตั้ง “วิษณุ” ปธ.ยกร่าง รธน. ยังไม่เคยคุยช่วย “วีระ”



วันนี้ (4 มิ.ย.) ที่ตึกสันติไมตรี ภายในทำเนียบรัฐบาล พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวชี้แจงถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กว่ามีทหารและตำรวจนอกเครื่องแบบเข้ารื้อค้นบ้านประชาชนในต่างจังหวัดว่า เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่ต้องการให้เกิดความเข้าใจผิด เนื่องจากได้ตรวจสอบแล้วไม่พบกรณีดังกล่าวแต่อย่างใด ข่าวที่ออกมาจึงถือเป็นการปั้นแต่งเรื่องขึ้น เพราะหากเจ้าหน้าที่จะเข้าปฏิบัติหน้าที่ตรวจค้นใดๆ ต้องแต่งเครื่องแบบ โดยจะปฏิบัติร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองตลอด เหมือนกับกรณีการปฏิบัติงานตรวจค้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้ หากผู้ใดพบเห็นพฤติกรรมดังกล่าวสามารถให้เจ้าหน้าที่แสดงตัวก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่เพื่อตัดปัญหาการสร้างข่าวลือ

ส่วนข้อกังวลถึงความร่วมมือในเรื่องของการฝึกทหารร่วมกันกับหลายประเทศนั้น พ.อ.วินธัยระบุว่า ส่วนใหญ่ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี มีเพียงแต่ของประเทศออสเตรเลีย และอเมริกาบางส่วน ที่มีการชะลอการฝึกออกไป แต่ไม่ได้หมายความว่าจะยกเลิกหรือไม่มีการฝึกร่วมกันแต่อย่างใด

ขณะที่ นพ.ยงยุทธ มัยลาภ ทีมโฆษก คสช.ฝ่ายพลเรือน กล่าวถึงผลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ (มูดี้ส์) ประกาศจัดอันดับความน่าเชื่อถือของไทยอยู่ที่ระดับเดิม คือ ระดับ Baa1 โดยระบุว่าไทยยังมีความแข็งแกร่งด้านปัจจัยพื้นฐาน และสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของต่างประเทศ ต่อประเทศไทย นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย ก็ได้เข้าเยี่ยมคำนับ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ในฐานะรองหัวหน้า คสช. ทูตทั้ง 2 ประเทศยืนยันว่า ยังมีความสัมพันธ์อันดี และเข้าใจสถานการณ์ในประเทศไทย

นพ.ยงยุทธเปิดเผยด้วยว่า เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้เดินทางไปเยือนสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า เพื่อเข้าพบ นายวันนะ หม่อง ลวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของพม่า เพื่อชี้แจงสถานการณ์การเมืองของไทยให้รัฐบาลพม่าได้รับทราบ เนื่องจากเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีความใกล้ชิดกับไทย รวมทั้งดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนในปัจจุบันด้วย โดยทางพม่าระบุว่าได้ติดตามสถานการณ์ของไทยอย่างใกล้ชิด และจะไม่เข้าแทรกแซงกิจการภายในของไทย รวมทั้งเชื่อมั่นในประเทศไทยและพร้อมสนับสนุนโดยเฉพาะในกรอบอาเซียน และความสัมพันธ์ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค

นพ.ยงยุทธกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ พล.อ.ตัน ซรี ตาโต๊ะ ซรี ซูกิเฟรี บิน โมฮัมหมัด ซิน ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ประเทศมาเลเซีย และคณะเดินทางเข้าเยี่ยมคำนับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้า คสช. ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 3-4 มิ.ย. 57 เพื่อกระชับความสัมพันธ์ และสนับสนุนการทำงานระหว่างไทย และมาเลเซีย และกองทัพ

สำหรับการติดตามการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐนั้น นพ.ยงยุทธกล่าวว่า คสช.ได้แต่งตั้งคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายของภาครัฐ (คตร.) เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณเป็นไปด้วยความรอบคอบ มีความโปร่งใส และมีระเบียบวินัยการเงินการคลัง ซึ่งประธานกรรมการก็คือ พล.ท.อนันตพร กาญจนรักษ์ ปลัดบัญชีทหารบก ซึ่งมีคณะกรรมการเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในการตรวจสอบในเรื่องงบประมาณของประเทศ ทั้งปลัดกระทรวงการคลัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ที่จะมาเป็นรองประธานกรรมการ รงวมไปถึงผู้ทรงคุณวุฒิต่างๆ เป็นคณะกรรมการ

“หน้าที่สำคัญของ คตร.คือ การตรวจสอบงบประมาณให้เป็นไปตามกรอบ รวมทั้งดูผลสัมฤทธิ์ของโครงการต่างๆ สอดคล้องกับความเป็นอยู่ของประชาชนและแผนงานพัฒนาเศรษฐกิจด้วย ซึ่งจะมีการประชุมและส่งผลการประชุมให้หัวหน้า คสช.ได้รับทราบต่อไป” นพ.ยงยุทธกล่าว

ขณะเดียวกัน พ.อ.วินธัยกล่าวเสริมว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวจะเป็นการกลั่นกรองนโยบาย ให้ตรงกับเป้าหมายที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ศสช.) ซึ่งขณะนี้การอนุมัติงบประมาณต่างอยู่ในอำนาจของ คสช. เปรียบเสมือนคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสถานการณ์ปกติ แต่ในส่วนของ คตร.เป็นหน่วยงานพิเศษที่ตั้งขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการทำงานของ คสช. ทั้งนี้ในส่วนกรอบอำนาจของ คตร.จะย้อนกลับไปพิจารณาโครงการของรัฐบาลที่ผ่านมาหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละโครงการว่ามีความคืบหน้าถึงกระบวนการใด

ด้าน น.ส.ปัทมาภรณ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต นักสื่อสารชำนาญการ กรมประชาสัมพันธ์ กล่าวถึงความคืบหน้าของการดำเนินการตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ เพื่อการปฏิรูป ว่าขณะนี้ได้ใช้กลไกของกองอำนวยการรักษาความสงบภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ในการดำเนินการไปแล้ว ขณะที่ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหาร (ผบ.ทร.) ในฐานะหัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา ได้ประชุมร่วมกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงวัฒนธรรม โดยได้มอบนโยบายให้ปรับกิจกรรมสอดคล้องเนื้อหาการปรองดองเข้าไปในทุกกิจกรรม ส่วนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เน้นจัดทำกิจกรรมเพื่อส่งเสริมให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข

สำหรับฝ่ายกฎหมายและความยุติธรรม ได้ประชุมเพื่อพิจารณากฎหมาย และระเบียบที่ไม่เอื้ออำนวย ต่อกระบวนการสร้างความปรองดอง คาดว่าภายในสัปดาห์นี้น่าจะมีข้อมูลที่ชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้ในทุกวันพุธ และพฤหัสบดีของทุกสัปดาห์ จะมีการประชุม 3 ฝ่าย ประกอบด้วยฝ่ายเศรษฐกิจ สังคมจิตวิทยา ความมั่นคง เพื่อติดตามความคืบหน้าการทำงานของแต่ละฝ่าย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ความคืบหน้าในการร่างธรรมนูญชั่วคราวตามแผนงานของ คสช. พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ในส่วนของทีมโฆษกยังไม่มีข้อมูล และ คสช.ยังไม่มีคำสั่งอย่างเป็นทางการแต่งตั้ง นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษา คสช.เป็นประธานกรรมการยกร่างธรรมนูญชั่วคราวแต่อย่างใด

เช่นเดียวกับกระแสข่าวที่ว่าญาตินายวีระ สมความคิด ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ประเทศกัมพูชา ขอให้ทาง คสช.ช่วยประสานให้มีการปล่อยตัว พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ยังไม่มีข้อมูล และทาง คสช.ไม่เคยออกมาพูดเรื่องนี้ตามที่มีการเผยแพร่ทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก










กำลังโหลดความคิดเห็น