โฆษกศาลปกครอง เผยที่ประชุมตุลาการศาลปกครองสูงสุด ถกสถานะคณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง หลังรัฐธรรมนูญยกเลิก แต่ไม่ทราบผลยังคงอยู่หรือไม่ ยันไม่กระทบพิจารณาคดี ไม่สะเทือนสอบ “หัสวุฒิ” เอี่ยว จม.วิ่งเต้น ตร.หรือไม่ ด้านรองประธานศาลฯ มอบรางวัลหนังสั้น
วันนี้ (5 มิ.ย.) ที่สำนักงานศาลปกครอง นายไพโรจน์ มินเด็น โฆษกศาลปกครอง กล่าวถึงการประชุมตุลาการศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมาที่มีการพิจารณาเรื่องสถานะของคณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง (ก.ศป.) ว่า เป็นหารือในประเด็นข้อกฎหมายว่า ก.ศป.ยังคงอยู่หรือไม่ หลังรัฐธรรมนูญถูกยกเลิก ส่วนตัวไม่ทราบมติเป็นอย่างไร ทราบเพียงว่าจะมีการดำเนินการเรื่องนี้ต่อไปโดยสำนักงาน เพื่อแก้ปัญหา แต่ทั้งนี้แม้จะมีข้อสงสัยว่า ก.ศป.ยังคงอยู่หรือไม่ แต่ก็จะไม่มีผลกระทบต่อการพิจารณาตัดสินคดีของศาลปกครอง เพราะการตัดสินคดีเป็นเรื่องของตุลาการ ก.ศป.เป็นเพียงคณะกรรมการที่ดูแลเรื่องภายใน ทั้งการแต่งตั้งโยกย้ายตุลาการ และเรื่องจริยธรรม ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการตัดสินคดี ดังนั้น การฟ้องคดีที่ศาลปกครองก็ยังทำได้อยู่ โดยการแต่งตั้งตุลาการก็ต้องได้รับความเห็นชอบของ ก.ศป. แต่ขณะนี้ตุลาการของเรามีเพียงพอที่จะรองรับคดีที่ประชาชนร้องเรียนเข้ามาได้
ส่วนความไม่ชัดเจนในสถานะ ก.ศป.จะมีผลต่อกรณีก่อนหน้านี้ ก.ศป. มีมติตั้งคณะกรรมการสอบ นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยะกุล ประธานศาลปกครองสูงสุดว่ามีส่วนเกี่ยวกับการทำจดหมายของสนับสนุนการเลื่อนขั้นนายตำรวจตามที่เป็นข่าวหรือไม่ โฆษกศาลปกครอง เห็นว่า เมื่อ ก.ศป.มีมติมาก่อนแล้วก็ต้องดำเนินการต่อไป ส่วนประเด็นที่ว่า ก.ศป.มีอยู่ต่อไปหรือไม่ หรือหากสอบสวนแล้วจะรายงานผลต่อใครก็เป็นเรื่องของข้อกฎหมาย ต้องรอมติของที่ประชุมตุลาการศาลปกครองสูงสุดว่าจะเห็นอย่างไร เมื่อถามย้ำว่าการสอบดังกล่าวต้องสอบต่อไปหรือไม่ นายไพโรจน์ยืนยันก็คงทำต่อไป เพราะเมื่อได้รับมอบหมายไปแล้ว
ทั้งนี้ วันเดียวกันนายเกษม คมสัตย์ธรรม รองประธานศาลปกครองสูงสุด ได้เป็นประธานมอบรางวัลการประกวดภาพยนตร์สั้นศาลปกครองในหัวข้อ “เล่าเรื่องคดีปกครอง ท้าประลองทำหนังสั้น” ซึ่งจะเป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง ให้กลุ่มเป้าหมายต่างๆ ในสังคมได้เข้าใจโดยโครงการดังกล่าวได้เปิดโอกาสให้ประชาชนทั่งไป และนักศึกษา ส่งหนังสั้นความยาวไม่เกิด 15 นาทีเข้าประกวดเบื้องต้นมีผู้ส่งผลงานเข้าประกวด 50 ทีมและได้มีการดำเนินการคัดเลือกให้เหลือ 15 ทีม ก่อนเข้ารับการอบรมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับศาลปกครอง และการผลิตภาพยนตร์พร้อมมอบทุนในการผลิตหนังสั้นก่อนส่งเข้าประกวด โดยรางวัลชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล 5 หมื่นบาท พร้อมโล่และเกียรติบัตร คือ ทีม ซู พาวิลเลี่ยน ขณะที่รองผู้ชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ทีมพิราบขาว ทีอายู ได้รับรางวัล 3 หมื่นบาท และรองผู้ชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ทีมมูฟวิ่งอิมเมจ ได้รับเงินรางวัล 2 หมื่นบาท ส่วนรางวัลชมเชิญอีก 7 รางวัลได้เงินรางวัลรางวัลละ 1 หมื่นบาท พร้อมโล่และเกียรติบัตร ซึ่งหนังสั้นที่ได้รับรางวัลและนำมาสร้างประกวดจะได้เค้าโครงเรื่องมาจากคดีที่ผ่านการตัดสินของศาลปกครองสูงสุดมาแล้ว อย่างไรก็ตาม การจัดงานในวันนี้ นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยะกุล ประธานศาลปกครองสูง และนายดำเรกฤิทธิ์ เจนครองธรรม เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง ไม่ได้มาร่วมงานดังกล่าว หลังมีเรื่องการร้องเรียนเกี่ยวกับจดหมายขอการสนับสนุนนายตำรวจ แม้ว่านายดิเรกฤิทธิ์จะเป็นกรรมการงานดังกล่าว
วันนี้ (5 มิ.ย.) ที่สำนักงานศาลปกครอง นายไพโรจน์ มินเด็น โฆษกศาลปกครอง กล่าวถึงการประชุมตุลาการศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมาที่มีการพิจารณาเรื่องสถานะของคณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง (ก.ศป.) ว่า เป็นหารือในประเด็นข้อกฎหมายว่า ก.ศป.ยังคงอยู่หรือไม่ หลังรัฐธรรมนูญถูกยกเลิก ส่วนตัวไม่ทราบมติเป็นอย่างไร ทราบเพียงว่าจะมีการดำเนินการเรื่องนี้ต่อไปโดยสำนักงาน เพื่อแก้ปัญหา แต่ทั้งนี้แม้จะมีข้อสงสัยว่า ก.ศป.ยังคงอยู่หรือไม่ แต่ก็จะไม่มีผลกระทบต่อการพิจารณาตัดสินคดีของศาลปกครอง เพราะการตัดสินคดีเป็นเรื่องของตุลาการ ก.ศป.เป็นเพียงคณะกรรมการที่ดูแลเรื่องภายใน ทั้งการแต่งตั้งโยกย้ายตุลาการ และเรื่องจริยธรรม ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการตัดสินคดี ดังนั้น การฟ้องคดีที่ศาลปกครองก็ยังทำได้อยู่ โดยการแต่งตั้งตุลาการก็ต้องได้รับความเห็นชอบของ ก.ศป. แต่ขณะนี้ตุลาการของเรามีเพียงพอที่จะรองรับคดีที่ประชาชนร้องเรียนเข้ามาได้
ส่วนความไม่ชัดเจนในสถานะ ก.ศป.จะมีผลต่อกรณีก่อนหน้านี้ ก.ศป. มีมติตั้งคณะกรรมการสอบ นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยะกุล ประธานศาลปกครองสูงสุดว่ามีส่วนเกี่ยวกับการทำจดหมายของสนับสนุนการเลื่อนขั้นนายตำรวจตามที่เป็นข่าวหรือไม่ โฆษกศาลปกครอง เห็นว่า เมื่อ ก.ศป.มีมติมาก่อนแล้วก็ต้องดำเนินการต่อไป ส่วนประเด็นที่ว่า ก.ศป.มีอยู่ต่อไปหรือไม่ หรือหากสอบสวนแล้วจะรายงานผลต่อใครก็เป็นเรื่องของข้อกฎหมาย ต้องรอมติของที่ประชุมตุลาการศาลปกครองสูงสุดว่าจะเห็นอย่างไร เมื่อถามย้ำว่าการสอบดังกล่าวต้องสอบต่อไปหรือไม่ นายไพโรจน์ยืนยันก็คงทำต่อไป เพราะเมื่อได้รับมอบหมายไปแล้ว
ทั้งนี้ วันเดียวกันนายเกษม คมสัตย์ธรรม รองประธานศาลปกครองสูงสุด ได้เป็นประธานมอบรางวัลการประกวดภาพยนตร์สั้นศาลปกครองในหัวข้อ “เล่าเรื่องคดีปกครอง ท้าประลองทำหนังสั้น” ซึ่งจะเป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง ให้กลุ่มเป้าหมายต่างๆ ในสังคมได้เข้าใจโดยโครงการดังกล่าวได้เปิดโอกาสให้ประชาชนทั่งไป และนักศึกษา ส่งหนังสั้นความยาวไม่เกิด 15 นาทีเข้าประกวดเบื้องต้นมีผู้ส่งผลงานเข้าประกวด 50 ทีมและได้มีการดำเนินการคัดเลือกให้เหลือ 15 ทีม ก่อนเข้ารับการอบรมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับศาลปกครอง และการผลิตภาพยนตร์พร้อมมอบทุนในการผลิตหนังสั้นก่อนส่งเข้าประกวด โดยรางวัลชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล 5 หมื่นบาท พร้อมโล่และเกียรติบัตร คือ ทีม ซู พาวิลเลี่ยน ขณะที่รองผู้ชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ทีมพิราบขาว ทีอายู ได้รับรางวัล 3 หมื่นบาท และรองผู้ชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ทีมมูฟวิ่งอิมเมจ ได้รับเงินรางวัล 2 หมื่นบาท ส่วนรางวัลชมเชิญอีก 7 รางวัลได้เงินรางวัลรางวัลละ 1 หมื่นบาท พร้อมโล่และเกียรติบัตร ซึ่งหนังสั้นที่ได้รับรางวัลและนำมาสร้างประกวดจะได้เค้าโครงเรื่องมาจากคดีที่ผ่านการตัดสินของศาลปกครองสูงสุดมาแล้ว อย่างไรก็ตาม การจัดงานในวันนี้ นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยะกุล ประธานศาลปกครองสูง และนายดำเรกฤิทธิ์ เจนครองธรรม เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง ไม่ได้มาร่วมงานดังกล่าว หลังมีเรื่องการร้องเรียนเกี่ยวกับจดหมายขอการสนับสนุนนายตำรวจ แม้ว่านายดิเรกฤิทธิ์จะเป็นกรรมการงานดังกล่าว