xs
xsm
sm
md
lg

คสช.ให้ 2 สัปดาห์สรุปงบ สั่งรื้อกู้ 2 ล้านล้าน ชี้เสี่ยอุบลฆ่าตัวตายไม่เกี่ยวถูกเรียก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ทีมโฆษก คสช.เผย ผบ.ทบ.สั่งสรุปงบ 57 ใน 2 สัปดาห์ ใช้ศูนย์ปรองดองทำให้รักกันมากขึ้น แจงเรือบรรทุกน้ำมันถูกปล้นกลับสู่ฝั่งแล้ว ลูกเรือปลอดภัย เตรียมร้องทุกข์หาแผนป้องกัน ให้พิจารณากู้ 2 ล้านล้าน โครงการใด ปชช.ได้ประโยชน์ งบน้ำให้ป้องกันน้ำท่วมเป็นระบบ ยึดพระราชดำริ หามาตรการช่วยพลังงาน แจงนักธุรกิจยิงตัวตายไม่เกี่ยวหมายเรียก เน้นทำความเข้าใจกลุ่มต้าน รวมถึง ตปท.

วันนี้ (2 มิ.ย.) พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้า คสช.ได้ประชุมร่วมกับคณะทำงาน 7 ฝ่าย และหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ โดยมีผู้แทนจากกระทรวงการคลัง สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) และสำนักงบประมาณ เข้าร่วมประชุม พร้อมทั้งได้มีการวีดีโอคอนเฟอร์เรนไปยังทุกจังหวัดด้วย โดยเป็นการรับทราบแผนการจัดทำงบประมาณ และเสนอแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11 ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้ฝากให้นำเรื่องความร่วมมือให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข เข้าถึงทรัพยากรอย่างทั่วถึงเป็นธรรม และการทำให้ดัชนีความสุขของประชาชนเพิ่มขึ้นบรรจะเข้าไปในแผนด้วย

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวด้วยว่า ในส่วนความคืบหน้าการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2557 ที่ยังค้างอยู่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้สั่งการให้ฝ่ายเศรษฐกิจจัดทำรายงานการสรุปแผนการใช้งบประมาณให้เสร็จสิ้นภายใน 2 สัปดาห์นี้ ก่อนจะนำเสนอที่ประชุมอีกครั้ง โดยเฉพาะโครงการที่ต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ซึ่งงบประมาณส่วนนี้สามารถนำไปกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกด้วย และหลังจากนั้นจึงจะมีการจัดทำแผนการใช้งบประมาณปี 2558 ต่อไป

“หัวหนัา คสช.ได้เน้นย้ำถึงกระบวนการทำให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข เคารพกฏหมาย และอยากให้ทุกฝ่ายร่วมกันทำทุกวิถีทางให้ดัชนีความสุขของคนไทยปรับค่าเฉลี่ยสูงขึ้น” พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าว

สำหรับสถานการณ์ภายในประเทศนั้น พ.อ.หญิง ศิริจันทร์เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์มองว่า ขณะนี้สถานการณ์การปรองดองในประเทศเริ่มดีขึ้น เนื่องจากไม่มีปัญหาการทะเลาะระหว่างประชาชนที่มีความคิดเห็นแตกต่างกัน แต่จะต้องทำให้ดีมากขึ้นกว่านี้ โดยใช้กลไกของศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อทำความเข้าใจกับประชาชน

ขณะที่ พ.อ.ณัฐวัฒน์ จันทร์เจริญ รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษก คสช.ได้กล่าวถึงกรณีการช่วยเหลือเรือบรรทุกน้ำมันสัญชาติไทยที่ถูกโจรสลัดปล้นระหว่างการเดินทางจากประเทศสิงคโปร์ไปยังประเทศเมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา เรือดังกล่าวไปเข้าเทีบยท่าที่อ่าวอุดม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เป็นที่เรียกร้อย โดยลูกเรือทั้ง 14 คนปลอดภัย แต่อยู่ในสภาพอิดโรยและตื่นตระหนกอยู่บ้าง ขณะนี้เป็นขั้นตอนของการแจ้งความร้องทุกข์ โดยทันทีที่ทราบข่าวเมื่อวันเกิดเหตุ หัวหน้า คสช.ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเข้าช่วยเหลือในทุกช่องทางทันที โดยไทยได้ประสานหน่วยงานความมั่นคงระหว่างประเทศทั้งของสิงคโปร์และอินโดนีเซีย เพื่อขอความช่วยเหลือ ทั้งนี้ หัวหน้า คสช.ยังได้สั่งการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมกันหามาตราการแก้ปัญหาในอนาคตต่อไปด้วย

พ.อ.ณัฐวัฒน์กล่าวต่อว่า ส่วนปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งปัญหาแผ่นดินไหว พายุฤดูร้อน และภัยพิบัติต่างๆ ขณะนี้ คสช.ได้ให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้เตรียมความพร้อมดูแลช่วยเหลือ และบรรเทาปัญหาของประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพราะทราบว่ายังมีประชาชนได้รับผลกระทบอยู่อีกเป็นจำนวนมาก

สำหรับการคณะทำงานด้านสังคมจิตวิทยานั้น ขณะนี้ได้ทำงานอย่างเต็มที่ โดยในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ ก็อยู่ในระหว่างการหาแนวทางแก้ไขปัญหาในโครงการเร่งด่วน เช่น การทบทวนโครงการแท็บเล็ตเพื่อการศึกษา กองทุนกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา (กยศ.) และการพัฒนายุทธศาสตร์ด้านการศึกษา เพื่อให้นักเรียนและนักศึกษาได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ รวมไปถึงการพัฒนาบุคลากรทางการศึกษาด้วย

พ.อ.ณัฐวัฒน์กล่าวด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้รับทราบผลการประชุมฝ่ายเศรษฐกิจที่มี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. ในฐานะรองหัวหน้า คสช.รับผิดชอบอยู่ โดยในกรณีโครงการโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาทนั้น ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำกลับไปพิจารณาว่าโครงการใดมีประโยชน์กับประชาชน โดยเน้นต้องมีกระบวนการตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อม และสามารถตรวจสอบได้ และต้องผ่านการทำประชาพิจารณ์ด้วย โดยเฉพาะโครงการรถไฟรางคู่ คาดว่าสามารถดำเนินการได้ภายในปีนี้ แต่ต้องมีการศึกษาเส้นทางที่สามารถใช้ประโยชน์ได้มากที่สุด ส่วนโครงการรถไฟความเร็วสูงให้กลับไปศึกษารายละเอียด โดยให้ดูจุดคุ้มทุน และต้องไม่กระทบวินัยการเงินการคลัง หากจะเดินหน้า อาจเป็นการร่วมทุนกับเอกชน โดยใช้เงินลงทุนในประเทศเป็นหลัก

สำหรับโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทนั้น พ.อ.ณัฐวัฒน์กล่าวว่า หัวหน้า คสช. ได้มอบหมายให้ไปศึกษาระบบป้องกันน้ำท่วมอย่างเป็นระบบ และให้ป้องกันโครงการในลักษณะเบี้ยหัวแตกที่ใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก แต่ให้เน้นนำโครงการในพระราชดำริ เช่น โครงการแก้มลิง มาเป็นแนวทาง โดยให้กรมชลประทานเป็นเจ้าภาพในการศึกษา และให้กองทัพเป็นฝ่ายปฏิบัติ สำหรับด้านราคาพลังงาน หัวหน้า คสช.ให้นโยบายว่าต้องเป็นไปตามกลไกตลาดในภาพรวม แต่จำเป็นต้องหามาตราการอื่นมาช่วย เช่น กองทุนน้ำมัน และอยากให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของคนไทย ที่อยากใชัน้ำมันราคาถูก พร้อมฝากให้คิดเรืิ่องพลังงานทดแทนด้วย

ขณะที่ พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษก คสช.กล่าวถึงกรณี นายสราวุธ ภูธรโยธิน บุคคลที่ถูกหมายเรียกตามประกาศ คสช.ได้ใช้อาวุธปืนยิงตัวตาย โดยชี้แจงว่า สาเหตุที่นายสราวุธทำร้ายตัวเองนั้นไม่เกี่ยวข้องกับการถูกออกประกาศเรียกรายงานตัวของ คสช.แต่อย่างใด เนื่องจากได้รับข้อมูลจากญาติของนายสราวุธว่าเกิดจากปัญหาความเครียดทั้งในเรื่องสุขภาพส่วนตัว และการประกอบธุรกิจ ทั้งนี้ขอย้ำว่าการที่ คสช.ยังมีการเรียกบุคคลเข้ารายงานตัวนั้นไม่ใช่เป็นลักษณะของการเรียกตัวผู้กระทำผิด แต่มีเจตนาให้บุคคลเหล่านั้นมาทำความเข้าใจ ปรับทัศนคติ เพื่อให้ทุกฝ่ายร่วมกันหาทางออกให้แก่ประเทศ

พ.อ.วินธัยยังได้อธิบายเพิ่มเติมถึงศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปด้วยว่า ขณะนี้ได้ใช้กลไกของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และกระทรวงมหาดไทย โดยจะเริ่มทำให้เกิดความเข้าใจกันตั้งแต่ในระดับครอบครัว ตลอดจนถึงระดับตำบล รวมถึงอยากให้ทุกฝ่ายร่วมกันสร้างความปรองดอง ขณะที่การเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้านการควบคุมอำนาจการปกครองนั้น คสช.จะเน้นการสร้างความเข้าใจต่อประชาชนว่าสถานการณ์ในปัจจุบันไม่ได้อยู่ในภาวะปกติ โดยเหตุการณ์เมื่อวานนี้ (1 มิ.ย.) คสช.ได้จับกุมผู้กระทำผิดตามประกาศของคสช. ได้ 6 ราย โดยหากเจ้าหน้าที่สอบสวน แล้วพบว่ามีความผิดก็จะต้องดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม ขณะที่การแสดงสัญลักษณ์ชู 3 นิ้ว จะมีความผิดหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับแต่ละสถานการณ์

ด้าน พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษก คสช.กล่าวถึงการที่หลายประเทศมีมาตรการเตือนเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศไทยว่า เป็นไปตามปกติของแต่ละประเทศที่มีมาตรการต่อประเทศที่มีการรัฐประหารอยู่แล้ว โดยในส่วนการทำความเข้าใจกับต่างประเทศนั้น คสช.ได้ให้ทุกหน่วยงานโดยเฉพาะกระทรวงต่างประเทศ และฝ่ายความมั่นคง ชี้แจงโดยเน้นการสื่อสารข้อมูลเพื่อสร้างความเข้าใจ ใช้เหตุผลข้อเท็จจริงในการหักล้าง ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ทุกส่วนราชการสร้างความเข้าใจ และอธิบายการทำงาน รวมถึงความคืบหน้าในการดำเนินการช่วยเหลือประชาชน ขณะนี้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศไทยได้เข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดี การเกิดสถานการณ์ไม่ต้องการให้กระทบต่อนักท่องเที่ยว หรือชาวต่างชาติ อย่างไรก็ตามยอมรับว่าการสร้างความเข้าใจอาจจะต้องใช้ระยะเวลา



กำลังโหลดความคิดเห็น