หัวหน้าคนไทย ไม่มีปัญหาเลื่อนเลือกตั้ง จี้ คสช. สลายความขัดแย้ง ทำให้สุด อย่าปล่อยโอกาสหลุดลอย หวังสตาร์ทพาชาติก้าวกระโดด เตือนตั้งทีมที่ปรึกษาหน้าเดิมระวังเสียของ
วันนี้ (1 มิ.ย.) นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย เปิดเผยว่า ส่วนตัวในฐานะนักการเมืองไม่มีปัญหากับการที่จะไม่มีการเลือกตั้งอีกอย่างน้อย 1 ปีครึ่ง ถึง 2 ปี ตามคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ประกาศไว้ เพราะเชื่อว่าหากมีเลือกตั้งเร็วกว่านั้นก็จะกลับไปสู่วังวนเดิมๆ ทั้งหากไม่มีการเลือกตั้ง คสช. ก็ต้องสร้างความมั่นใจได้ว่าปัญหาของบ้านเมืองจะยุติ ต้องทำให้ความขัดแย้งหมดไป เพราะทุกคนอยากเห็นการทำงานที่มากกว่าแค่การยึดอำนาจ จึงอยากขอให้ คสช. ใช้ความกล้าบวกคุณธรรม ยึดความชอบธรรมและถูกต้อง ในการปฏิบัติการต่างๆ เพื่อให้ชาติบ้านเมืองสุขสงบเสียที เหมือนที่ตนได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ไปก่อนหน้านี้แล้วเพื่อให้กำลังใจและเสนอแนะบางประการไป
“ส่วนตัวแม้ไม่นิยมการยึดอำนาจ แต่วันนี้เมื่อ คสช. ออกมาทำแล้ว ต้องทำให้สุด ให้ได้ผลสัมฤทธิ์ อย่าปล่อยโอกาสนี้หลุดลอยไปโดยประเทศไม่ได้ประโยชน์อะไร เหมือนทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา เมื่อประเทศชาติต้องหยุดนิ่งและถอยหลังไป ท่านจะต้องใช้โอกาสที่ถอยหลังไปเพิ่มระยะทางเป็นจุดสตาร์ท และสามารถพาประเทศก้าวกระโดดไปให้ไกลที่สุด เพื่อให้ประเทศชาติอยู่รอดได้” นายอุเทน กล่าว
สำหรับการแก้ไขปัญหาทางการเมืองนั้น นายอุเทน กล่าวว่า ควรต้องเริ่มต้นใหม่กันหมดเลย ต้องยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 50 เพื่อร่างขึ้นมาใหม่ทั้งหมด โดยเลี่ยงการนำฉบับปี 40 หรือ 50 มาเป็นต้นแบบ รวมไปถึงการใช้บุคคลที่มาร่างรัฐธรรมนูญก็ควรเป็นบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใหม่ๆ มิเช่นนั้นก็ทำให้มีปัญหาเหมือนเดิม ที่สำคัญต้องไม่เขียนรัฐธรรมนูญให้ต้องมีการตีความ หรือขยายความอีก ต้องให้มีความชัดเจน ไม่ควรลงรายละเอียดมากเกินไป ดังนั้น จึงไม่ควรใช้คนเข้ามาร่วมร่างจำนวนมากเกินไป ประมาณ 22-28 คนก็น่าจะเพียงพอ
ส่วนรายนามคณะที่ปรึกษา คสช. ที่ออกมา 10 คน อาทิ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และ ม.ร.ว.ปรีดียาธร เทวกุล นั้น นายอุเทน มองว่า ได้เคยเห็นวิธีคิดวิธีทำงานของคนเหล่านี้มาพอสมควร จึงสามารถบอกได้ว่า ไม่น่าจะเป็นดรีมทีมอย่างที่หวัง หรือเป็นที่พึ่งของ คสช. เพราะแต่ละคนมีประวัติที่ไม่ประสบความสำเร็จเมื่อมามีส่วนร่วมกับฝ่ายบริหารหรือรัฐบาล และบางคนในกลุ่มนี้ก็เคยมีปัญหาการทำงานร่วมกันในอดีตมาแล้ว อาทิ นายสมคิด กับ ม.ร.ว.ปรีดียาธร เป็นต้น
“ผมไม่เห็นด้วยกับมวยที่หน้าช้ำมาขึ้นชก การที่ คสช. ซึ่งมีโอกาสและมีเวลา ได้รับการยอมรับ และเสียสละมาขนาดนี้แล้ว ผมไม่อยากเห็นการหายใจฟรี หรือการเสียของ การตั้งคณะที่ปรึกษาชุดนี้ขึ้นมาอาจนำไปสู่การเสียของ และความผิดพลาด ดูได้จากหลายๆ กระแสไม่ตอบรับกับคณะที่ปรึกษาชุดนี้ รวมทั้งในบ้านเมืองนี้ยังมีคนเก่งๆ ที่มีวิสัยทัศน์มีอีกมาก แต่ทำไมจึงเลือกใช้มวยเก่าๆ คนเดิมๆ” หัวหน้าพรรคคนไทย กล่าว
นายอุเทน กล่าวอีกว่า หาก คสช. ไม่กล้าที่จะสรรหาเลือกเฟ้นคนเก่งมาทำงาน ก็อาจจะถูกมองว่า คสช. ใจแคบ และวิสัยทัศน์แคบ ไม่กล้าใช้คนเก่งคนดี และอาจถูกมองว่าใช้งานแต่คนรอบข้าง ซึ่งถือเป็นความผิดพลาด ตนขอยืนยันว่าอย่างน้อยที่สุดทั้ง นายสมคิด ม.ร.ว.ปรีดียาธร นายวิษณุ เครืองาม และ นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ไม่ใช่ผู้ที่จะเข้ามาให้คำปรึกษาด้านสังคม เศรษฐกิจ กฎหมาย หรือการเมืองที่ดีของ คสช. ได้
นายอุเทน เปิดเผยด้วยว่า ก่อนหน้านี้ ตนได้ทำหนังสือถึงหัวหน้า คสช. โดยเสนอแนะแง่มุมในการทำงานไปทั้งหมด 9 ข้อ อาทิ การสร้างและส่งเสริมให้เกิดความเสมอภาคในสังคม การปรับปรุงระบบการศึกษา การประกาศควบคุมราคาสินค้าอุปโภค-บริโภคทันที และการปรับปรุงระบบการเกษตร เป็นต้น โดยสิ่งที่ตนมีความเป็นห่วงมากที่สุดคือ ปัญหาปากท้องของประชาชน ซึ่งเชื่อว่า คสช. สามารถทำได้ทันที โดยการลดรายจ่ายให้แก่ทุกครัวเรือน พร้อมทั้งขยายโอกาสในการเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชนด้วย ทั้งในเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ระบบขนส่งมวลชน ค่ารถไฟฟ้า และค่าทางด่วน สามารถปรับลดได้ตามต้นทุนที่แท้จริง นอกจากนี้ ก็ต้องหารายได้เข้ารัฐอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ทำให้ทุกคนเสียภาษีโดยไม่หลบเลี่ยง ซึ่งมีวิธีการที่ทำได้ทันทีเช่นกัน