คำต่อคำ “พล.อ.ประยุทธ์” คสช. แถลงต่อสื่อครั้งหลังรับพระบรมราชโองการฯ แต่งตั้งเป็นหัวหน้า คสช. ระบุจากนี้ไปเป็นการบริหารงานภายใต้พระบรมราชโองการและกฎหมาย ย้ำภารกิจสำคัญ ดูแลความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ จัดตั้งองค์กรดูแลและรับผิดชอบภาคปฏิรูปในทุกเรื่อง และกระบวนการทางนิติบัญญัติ เดินหน้าประเทศไปสู่อนาคต เป็นประชาธิปไตยอย่างสันติวิธีและถาวร ปราศจากความขัดแย้ง
วันที่ 26 พฤษภาคม 2557 เวลา 10.49 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทำพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้า คสช. ที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังจากนั้น ได้แถลงต่อสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่มีการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ดังนี้
“คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขอชี้แจงให้บรรดาสื่อมวลชน ข้าราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร และประชาชนที่รักทุกคน วันนี้นั้นได้เสร็จพิธีรับประกาศพระบรมราชโองการในการทรงแต่งตั้งให้ผมเป็น หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ทั้งนี้ ผมกราบพระบาทและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ถวายสัตย์ปฏิญาณว่า จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ที่ได้ตั้งไว้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามการปฏิบัติตามประเพณีที่เคยปฏิบัติมาเช่นทุกครั้ง ในการบริหารราชการแผ่นดินทั้งในยามปกติและไม่ปกติ
จากนี้ไปถือว่า การบริหารราชการ เป็นการบริหารราชการภายใต้พระบรมราชโองการ และเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งทุกคนจะต้องระมัดระวัง ในเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้เกิดความถูกต้องชอบธรรม และเป็นธรรม เป็นการใช้อำนาจภายใต้พระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ การบริหารราชการในปัจจุบัน หัวหน้า คสช. คือผม เป็นผู้มีอำนาจเต็ม ตามที่ได้ออกประกาศไปแล้ว ขณะนี้ได้จัด ผบ.สส. ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ไปกำกับดูแลการบริหารราชการของกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โปร่งใส เป็นธรรม และมีประสิทธิภาพ
การดำเนินงานดังกล่าว ในช่วงแรกเป็นการดำเนินงานที่คณะทหารได้จัดทำขึ้น ซึ่งในระยะต่อไปจะมีการประสานงานกับส่วนราชการต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเข้าร่วมการตรวจสอบ ทบทวนแผนงานและโครงการต่างๆ ทั้งหมด โดยได้กำหนดการทำงานไว้เป็น 2 ระดับไว้ด้วยกัน คือ 1. ในระดับปลัดกระทรวง ทำในนามรักษาการรัฐมนตรี และงานในรักษาการทุกอย่าง จะได้รับการรับรองจากคณะฝ่ายกำกับดูแลทั้งสิ้น ส่วนใดที่เกินอำนาจต้องส่งให้หัวหน้า คสช. อนุมัติ เพื่อให้เป็นไปตามแบบแผนงานเดิม ก็คงต้องทำหน้าที่รับอำนาจทั้งหมดในการบริหารราชการแผ่นดิน เพราะฉะนั้น จะพยายามไม่หลีกเลี่ยงแบบแผนเดิมที่เคยวางไว้
ซึ่งในขณะนี้ส่วนงานทุกส่วน กำลังเข้ามาประจำใน คสช. เพื่อร่วมคณะประสานงานทั้งหมด 7 คณะ ตามแผนผังโครงสร้างที่ทุกคนได้ทราบแล้ว ในเรื่องนี้ อย่ากังวล เพราะเราจะมีทั้งหน่วยงานพลเรือน ตำรวจ ทหาร เข้ามาทำหน้าที่ร่วมกับส่วนราชการพลเรือน เพื่อให้ถูกต้องชอบธรรม และโปร่งใส เรื่องใดที่ไม่มีผลกระทบต่อความโปร่งใสและความชอบธรรม ก็จะไม่ทบทวน และจะเตรียมตรวจสอบรายละเอียดและจะเร่งรัดการดำเนินการให้เกิดผลสัมฤทธิ์โดยเร็วเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนทุกคน
สำหรับแนวทางในการบริหารราชการของ คสช. ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ภาระสำคัญที่สุด ในขณะนี้คือ การดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ เตรียมข้อกฎหมายในเรื่องต่างๆ ทุกเรื่อง เพื่อให้เกิดความถูกต้องในการปฏิบัติงานในทุกมิติ ทั้งปัจจุบันและเตรียมการสู่อนาคต จัดตั้งองค์กรขึ้นมาดูแลและรับผิดชอบภาคปฏิรูปในทุกเรื่องที่เป็นปัญหาข้อขัดแย้ง และกระบวนการทางนิติบัญญัติ เพื่อให้สามารถเดินหน้าประเทศไทยไปสู่อนาคตได้ และนำสู่การเป็นประชาธิปไตยอย่างสันติวิธี และถาวร ปราศจากความขัดแย้ง
ฉะนั้น ระหว่างนี้เพื่อมุ่งหมายไปสู่จุดมุ่งหมายดังกล่าว การบังคับใช้กฎหมายทุกอย่างยังดำเนินการเข้มข้นเท่าเดิม หรืออาจจะมากกว่าเดิม หากมีสถานการณ์รุนแรงเกิดขึ้น มีการขัดขืนดื้อดึง การปฏิบัติจากประกาศคำสั่งที่ทาง คสช. ได้ประกาศให้ทราบแล้ว จากสถานการณ์คลี่คลายไปในทางที่ดีโดยเร็ว มาตรการต่างๆ ก็จะต้องลดระดับลงไปตามสถานการณ์ให้มีความเหมาะสม อย่าได้กังวล เราไม่ต้องการที่จะให้ทุกอย่างนั้นมีปัญหาในการประกอบกิจการของทุกท่าน ทุกภาคส่วน
มาตรการเคอร์ฟิว ใครมีเรื่องเร่งด่วน หรืออะไรก็ตามที่ได้ประกาศไว้แล้ว ก็แจ้งเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้มีการดำเนินการเรื่องนี้ทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นการขนส่ง ขนส่งเชื้อเพลิงต่างๆ ซึ่งอาจจะอันตรายในการเคลื่อนย้าย ก็จะต้องจัดการประชุม และมีการอนุมัติเป็นรายๆ ไป สำหรับผู้ประกอบการ พี่น้องประชาชนที่สัญจรไปมา ถ้ามีภาระหรือมีความจำเป็น หรือหมอจะต้องไปรักษาคน หรือไปโรงพยาบาล ไม่มีปัญหา ตลอดเวลาสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ทันที่ ลูกจ้างพนักงาน ที่ทำงานเป็นกะของบริษัทต่างๆ สามารถแจ้งได้ทันที หรือแม้กระทั่งใครมีเรื่องเร่งด่วนธุระจำเป็นก็ขอให้แจ้งไม่มีปัญหา เราจะควบคุมดูแล ดำเนินการต่อผู้ต้องการกระทำผิดกฎหมาย การใช้อาวุธสงคราม การต่อต้าน หรือการทำอะไรก็ตามที่ทำให้เกิดความไม่สงบสุขในวันนี้
สำหรับการเรียกตัวมารายงานตัวนั้น เป็นการเรียกตัวมารายงานตัว เพื่อทำความเข้าใจ เพื่อสงบสติอารมณ์ เพื่อสร้างความเข้าใจระหว่างกัน เพราะความขัดแย้งเหล่านั้น มันไปอีกไม่ได้แล้ว มันจะเป็นอันตรายต่อประเทศชาติ และประชาชน เป็นที่ห่วงใยของประชาชนไทย และต่างประเทศ ทรัพย์สินของแต่ละประเทศ ที่มาลงทุนในประเทศไทย ก็จะทำให้เกิดมีปัญหาในเรื่องของเศรษฐกิจ ตามที่ทุกท่านทราบดีในปัจจุบันและอนาคต หากสถานการณ์เรียบร้อยลง หรือคลี่คลายลงเราก็จะลดระดับลง แต่การประกาศ คงจะยังคงจะต้องใช้ในการดำเนินการอยู่ ผมกราบเรียนว่า บ้านเมืองเรามีปัญหา วันนี้เราจะต้องยุติปัญหาให้ได้ พวกเรามิได้มุ่งหวังในการที่จะเข้าสู่อำนาจ เพื่อมีอำนาจ มีประโยชน์ แต่มันมีเหตุผลและความจำเป็นที่ได้กล่าวมาแล้ว หลายครั้งแล้ว
ขอความร่วมมือจากประชาชนที่รักทุกคน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ขอเวลาทำความเข้าใจกับสถานการณ์ กับการปฏิบัติการของพวกเราเวลานี้ เราไม่ได้มุ่งหวังที่จะไปขัดแย้งกับกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด เราเข้าใจดีถึงกระบวนการประชาธิปไตย ซึ่งสากลโลกเขาทำอยู่ และเราก็เป็นอยู่ แต่ในเรื่องการดำเนินดังกล่าว มีข้อขัดแย้งขึ้น ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ และมีแนวโน้มข้อติดขัดข้อกฎหมาย มีความขัดแย้ง มีการใช้ความรุนแรง และท่าทีของการขัดแย้งเหล่านั้นมันไม่สามารถจะนำไปสู่กระบวนการประชาธิปไตยที่ถูกต้องได้โดยเร็ว และปลอดภัย มันก็มีความจำเป็น ก็ขอให้ทุกคนได้เข้าใจตรงนี้ด้วย พวกเราเข้าใจดี พวกเรามีบทเรียนต่างๆ มากมายในอดีต
เพราะฉะนั้นคำว่า บทเรียน มีสำหรับทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ ข้าราชการพลเรือน มีสำหรับพวกผมอยู่แล้ว ผมได้เอาบทเรียนเหล่านั้นมาทบทวน และแก้ไขอะไรต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคตด้วย เพราะฉะนั้นประชาชนทุกคน ทุกหมู่เหล่า ทั้งประชาชนทั่วไป และข้าราชการทุกภาคส่วน และทุกคนที่เกี่ยวข้องในชาตินี้ ชาติไทย และชาวต่างชาติ กรุณาได้เข้าใจในเจตนารมณ์ของพวกเราด้วย เราทำไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ และมุ่งหวังจะคลี่คลายสถานการณ์ให้ได้โดยเร็ว เพื่อเข้าสู่กระบวนการประชาธิปไตยที่ถูกต้อง
งานเร่งด่วนขณะนี้ จากที่เราได้จัดตั้งกลุ่มงานขึ้นมาแล้ว ไม่ว่าจะเริ่มจากการจัดตั้งสำนักเลขานุการ ซึ่งทำงานร่วมกับสำนักนายกรัฐมนตรี ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และในเรื่องเดิมที่มีหน้าที่ผูกพันอยู่ นอกนั้นเป็นกลุ่มงานที่มีท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารอากาศ ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงไปกำกับดูแลแต่ละหน่วยงานที่ได้รับผิดชอบไปแล้ว มอบหมายไปแล้ว จะมีการแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญในการทำงาน ทั้งอดีตข้าราชการ อดีตผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละสาขามาเป็นคณะที่ปรึกษาของ คสช. ระดับบนหนึ่งคณะ ระดับล่างก็จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละกลุ่มงาน เป็นที่ปรึกษา ในการทำงานของข้างล่าง หรือทุกภาคส่วน จะมีการสนับสนุนกำลังพลเข้ามาร่วมปฏิบัติงานที่ได้เริ่มปฏิบัติงานมาหลายวันแล้ว โดยจะทำทุกอย่างให้เป็นระเบียบแบบแผนในการบริหารราชการให้เหมือนยามปกติให้มากที่สุด เพียงแต่ว่าทหารเข้าไปกำกับดูแล ไม่ใช่โครงสร้าง แต่โครงสร้างที่เขียนมานั้นเป็นโครงสร้างคล้ายๆ ของทหาร เพื่อให้เกิดง่าย ความสั้น กระชับ อย่ามองว่าเป็นโครงสร้างที่เป็นทหารทั้งหมด ไม่ใช่ เพราะเราทำงานร่วมกัน แต่จำเป็นจะต้องสร้างความเข้าใจให้ได้โดยเร็ว
งานเร่งด่วนในขณะนี้ ลำดับแรก คือการแก้ไขปัญหาข้อติดขัดทุกประการที่มีผลเดือดร้อนของประชาชนทั้งในอดีต และปัจจุบัน และเตรียมการสำหรับการแก้ไขปัญหาในอนาคต เพราะว่าประชาชนผู้เดือดร้อนจะเห็นได้ว่า เราได้ไปแก้ปัญหาในเรื่องของการจำนำข้าวก่อน ซึ่งจะทำควบคู่ไปกับการระบายข้าวให้ถูกต้อง และเป็นธรรม และรองรับปัญหาในอนาคต การหามาตรการใดๆ มาช่วยเหลือเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ไม่ให้เกิดภาระกับประเทศชาติ ก็ขอให้ทุกส่วนอย่าเพิ่งออกมาเรียกร้องอะไรที่มากไปกว่าเดิม ผมคิดว่าเราพยายามขับเคลื่อน พยายามทำให้ดีที่สุด คงใช้สติปัญญาของทหารทั้งหมดไม่ได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากข้าราชการทุกภาคส่วน ทุกระดับ ขอให้ทุกคนมุ่งหวังว่า เราจะทำอะไรให้กับประเทศชาติต่อไป ทำอย่างไรเราจะทำให้ประชาชนทุกคนในชาตินี้ คนไทยทั้งประเทศ มีความพึงพอใจและคลายความเดือดร้อน คลายความกังวล
เพราะฉะนั้น ขอร้องว่า อย่าเพิ่งเรียกร้องอะไรมากนัก ผมพยายามจะเก็บรายละเอียดของเดิมก่อน ของใหม่ก็เตรียมมาตรการที่เหมาะสมอย่างที่ผมเรียนไปแล้ว และการดำเนินการต่อไปในอนาคตเพื่อเตรียมการไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ เพราะฉะนั้นจะต้องแก้ปัญหาทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแบ่งงาน การบริหารราชการ การเมืองในระดับข้าราชการ กฎหมาย ระเบียบข้อบังคับที่มีผลกระทบที่มีปัญหากับต่างประเทศในการดำเนินการ เรื่องภาษีต่างๆ โครงสร้างทุกอย่างที่มีการดำเนินการมาอยู่แล้ว แต่เท่าที่ทราบในขั้นต้น มันยังติดค้างอยู่ในขั้นการพิจารณาและอนุมัติ เราก็เอามาทบทวนกัน ขอให้ทุกคนได้สบายใจ ไม่ทำเพื่อทหาร ผมทำเพื่อปกป้องเกียรติยศศักดิ์ศรีของคนไทยทุกคน เราถอยหลังกันไม่ได้อีกแล้ว เราต้องหยุดทะเลาะเบาะแวงซึ่งกันและกัน มุ่งสู่ความปรองดองสมานฉันท์ ขอร้องว่า อยากจะให้สื่อทุกสื่อ และผมคิดว่าประชาชนทุกคน เป็นสื่อที่ดีในการที่จะให้ข้อมูลซึ่งกันและกัน ผมขอร้องว่า ในเมื่อประเทศชาติมาถึงทางตัน พวกเราทุกคนก็มาปลดล็อกดังกล่าว เพื่อให้ประเทศชาติเดินไปได้
วันนี้การใช้จ่ายงบประมาณปี 2557 ก็สามารถดำเนินการได้ แต่จะต้องผ่านการทบทวนของคณะกำกับดูแลที่แต่งตั้งขึ้นมา และที่ปรึกษา
ในส่วนของการดำเนินการในเรื่องนี้ ทุกคนอาจจะถามว่าจะไปถึงเมื่อไหร่ ยังไง ก็ขึ้นอยูที่พวกเรา ทุกภาคส่วน สื่อก็ต้องไม่ขยายความขัดแย้ง เฟซบุ๊ก อะไรต่างๆ กรุณาอย่าสร้างคอมเมนต์ในสิ่งที่มันเกิดความขัดแย้ง ถ้าจำเป็นผมจะเรียกตัว เพราะฉะนั้นสมาคมฯ ก็ไม่ต้องมาเรียกร้องกับผม ท่านต้องควบคุมของท่านให้ได้ ผมจะเริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ถ้าในเฟซบุ๊ก เว็บไซต์อะไรต่างๆ ที่ใครโพสต์เข้ามาแล้วำให้เกิดความขัดแย้ง คนตีกัน ยุแห่กันอยู่ในนั้น ผมถือว่าขัดต่อความาสงบเรียบร้อยในปัจจุบัน
เหตุผลและความจำเป็นที่ต้องเป็นอย่างนี้เพราะว่า ถ้าเราขยายความขัดแย้งไปเรื่อยๆ มันก็จะเกิดผลกระทบในวงกว้าง และก็จะกลับสู่อันเก่าหรือไม่ วันนี้เริ่มมีการเดินขบวนประท้วง แล้วจะกลับไปสู่อย่างเก่าใช่มั้ย ผมถามประชาชนในชาตินี้ ถ้าต้องการอย่างนั้น ผมก็ต้องใช้กฎหมาย แต่ถ้าไม่ต้องการอย่างนั้น ท่านก็ต้องไปบอกทุกคน พ่อแม่พี่น้องทุกคน ไม่ว่าจะฝ่ายไหน ฝ่ายไหนก็ตาม ขอให้ระงับการดำเนินการดังกล่าว มีผลเสียต่อตนเองและครอบครัว เพราะกฎหมายขณะนี้มีความเข้มข้น การดำเนินการอะไรก็ตาม จะต้องถูกนำขึ้นสู่ศาลทหาร ซึ่งได้ระบุไปแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเราดำเนินการด้วยกฎหมายปกติก็คงไม่ได้ กฎหมายเข้มข้นมาก เพราะเราจะพิจารณาที่เหมาะสมเป็นรายๆ ไปที่มีหลักฐานชัดเจน ผมไม่อยากให้สังคมได้โจมตี ประณามเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ อีกต่อไปว่าเราไม่ได้ทำอะไร เราก็ทำตามกระบวนการยุติธรรม
เพราะฉะนั้นต้องช่วยเราในการที่จะนำประเทศให้ปลอดภัย นำคนทุกคนกลับมาช่วยทำกฎหมายปกติ ให้เจ้าหน้าที่เขาทำงานได้ ถ้าทุกคนไม่นับถือกฎหมาย ไม่เคารพเจ้าหน้าที่ การทำงานมันมีผลกระทบต่อทุกภาคส่วน เรื่องการเมืองคือเรื่องของการเมือง ก็คงจะอยู่ในกระบวนการปฏิรูปหลายอย่าง ไม่ว่าจะปฏิรูปการเมือง การปกครอง ข้าราชการ ระเบียบข้าราชการ การเข้าสู่อำนาจรัฐ การใช้จ่ายที่โปร่งใส กระบวนการใช้จ่ายงบประมาณ กระบวนการตรวจสอบ จะต้องทบทวนทั้งหมด
ทั้งนี้ ผมไม่ได้มุ่งหวังที่จะมาทะเลาะเบาะแว้งกับใคร ผมต้องการนำทุกอย่างออกมาให้มันเห็นชัด แล้วก็แก้ไข เพราะทุกคนอาจจะมองว่า ผมมีความรู้ความสามารถหรือไม่ อย่างไร แต่ผมคิดว่า ด้วยความตั้งใจเกี่ยวกับอุดมการณ์ของพวกผม ผมทำได้ทุกอย่าง ถ้าเรายึดมั่นในความถูกต้อง ชอบธรรม โปร่งใส เป็นธรรม ทั่วถึง ประชาชนมีความพึงพอใจ มีประสิทธิภาพและมีผลสัมฤทธิ์ที่ยั่งยืน ผมคิดว่าทุกคนต้องช่วยผม อย่าติติง อย่าเพิ่งไปเพิ่มปัญหาใหม่ ไม่มีประโยชน์นะครับ เพราะฉะนั้นผมขอร้องสื่อด้วย ถ้าจะดำเนินการต่อไป สมาคมสื่อต้องดูแลให้ได้ ผมไม่อยากละเมิดสื่อ เพราะฉะนั้นหยุดซะ มันไม่เกิดประโยชน์
ผมถามว่า ถ้าต้องเรียกตัวมา เคยมีพฤติกรรมอะไรบ้างไหม ถ้ามีก็อย่ามาว่าผม หลักฐานมีทุกอย่าง ถ้านิ่งๆ เรียบร้อย เดี๋ยวก็ดำเนินการปล่อยไป ตอนนี้พาไปสงบสติอารมณ์เสียหน่อย 3 วัน 5 วัน 7 วัน ทุกคนที่เรียกมาไม่ได้มาพันธนาการ ไม่ได้มาซ้อมทรมาน เชิญมาด้วยซ้ำไป อยู่ในที่พัก แต่ที่พักก็อาจจะไม่ใหญ่โตรโหฐานเหมือนบ้านท่าน มันเป็นบ้านทหาร ท่านจะได้รู้ว่าทหารเขาอยู่กันยังไง นั่นน่ะดีที่สุดแล้วที่ทหารอยู่
ในขั้นต่อไป ถ้าหากว่าผู้ที่ถูกเรียกตัวแล้วยังคงฝ่าฝืน ยังคงต่อต้าน ยังคงสนับสนุน ซึ่งเราได้มีการติดตามพฤติกรรมทุกประการ จะถูกระงับการทำธุรกรรมทางการเงินทั้งสิ้น และถูกติดตามจับกุมมาดำเนินคดี ขึ้นศาลทหารทันที เพราะถือว่าขัดคำสั่งไม่ได้
ก็ขอให้พี่น้องประชาชนทุกคนนั้นได้สงบและอดทน เหมือนที่เราทนมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ปัญหาบ้านเรามีมา 9 ปี ด้วยข้อขัดแย้ง ซึ่งมันไม่ใช่ประเด็นที่จะมาทำให้ประเทศชาติถึงกับแตกสลาย ผมต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนนะ 6 เดือนที่ผ่านมา มันทรมานสำหรับคนทั้งประเทศ ไม่ว่าจะฝ่ายใดก็ตามที่มีความคิดเห็นตรงกันข้าม ต้องนึกถึงประโยชน์ส่วนกลาง มีคนอีกเยอะแยะที่เขาเดือดร้อน ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เราจะต้องช่วยกันคืนความสุขให้กับคนไทย ประเทศไทย รักษาผลประโยชน์ของชาติ ดูแลชาวต่างประเทศ สร้างเสถียรภาพทั้งการเมือง สังคม เป็นจิตวิทยาความมั่นคง เพื่อให้เขาเชื่อมั่นเรา มีเสถียรภาพ บ้านเมืองเรามีเสถียรภาพ อะไรที่มันอาจจะดูเข้มข้นไปหน่อย ก็ต้องขออภัยด้วย มันเป็นความจำเป็น ก็คงมีเท่านี้
สำหรับในเรื่องของพระบรมราชโองการ ก็เป็นเรื่องที่พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ลงมาตามที่ได้ถวายรายงานไป ซึ่งเป็นเรื่องตามประเพณี ไม่ใช่เวลาอันสมควรที่จะไปให้ข้อมูลรายละเอียด ผมถือว่าสถาบันทรงอยู่เหนือความขัดแย้งทั้งปวง ผมจะทำหน้าที่ในการแก้ไขความขัดแย้งภายใต้พระบรมราชโองการ ซึ่งก็เป็นไปตามประเพณีมาโดยตลอด
เอาแล้วนะ พอแล้ว ให้ผมพูดน้อยๆ ให้ผมทำงานเยอะๆ ไม่งั้นพูดเยอะไม่ได้ทำงาน”
ถาม-ตอบ
ถาม- ท่านครับ ในฐานะที่ท่านมีอำนาจเต็มในการบริหารประเทศในขณะนี้ หลังจากยุติความขัดแย้งรุนแรงของทั้งสองกลุ่ม สองฝ่าย หรือฝ่ายต่างๆ ก็ดี การบริหารงานต่อไปในอนาคต หลายคนฝากมาถามว่า จะมีนายกฯ หรือไม่ หรือว่าท่านจะเป็นนายกรัฐมนตรีเอง โดยควบตำแหน่งหัวหน้า คสช.
พล.อ.ประยุทธ์- ทำไมถามอย่างนี้ มันยังมาไม่ถึง มันอยู่ในแผนงานอยู่แล้วนะ ใจเย็นๆ มันจะมี มันต้องมี ยังไงมันก็ต้องมี
ถาม- หมายถึงว่ายังไงก็ต้องมีนายกฯ ชั่วคราวขึ้นมา
พล.อ.ประยุทธ์- มันต้องมีนายกฯ
ถาม- ต่อจากการมีนายกฯ แล้ว จะมีคณะรัฐมนตรีเข้ามาช่วย
พล.อ.ประยุทธ์- มีนายกฯ คนเดียวโดยไม่มีคณะรัฐมนตรี จะเป็นไปได้มั้ยเล่า มันก็ต้องมีมั้ง ย้อนกลับไปดูเก่าๆ ที่เขาทำยังไง มันก็มีแนวทางอยู่บ้างแล้วล่ะ บางอย่างก็อาจจะคล้ายคลึง บางอย่างก็มีการเปลี่ยนแปลงบ้างอะไรบ้าง เพื่อให้เกิดความถูกต้องชอบธรรม การใช้อำนาจต้องระมัดระวัง การมีอำนาจมาก ผมบอกไปแล้วว่า ยิ่งมีอำนาจมาก ยิ่งต้องทำตัวให้เล็กลง อย่าคิดว่าตัวเองมีอำนาจแล้วจะทำได้ทุกอย่าง ผมไม่เคยคิดอย่างนั้น
ถาม- การตั้ง ครม. หรือนายกฯ จะมีภายในเร็วๆ นี้หรือเปล่า เพื่อจะได้ขับเคลื่อนการบริหารงานประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์- วันนี้ก็ขับไป ตั้งหลายวันมาแล้ว ขับตั้งแต่ 22 ตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการบริหารราชการแผ่นดิน โดยคณะผม ทำมาตั้งแต่วันนั้นแล้ว
ถาม- หลังจากนี้จะมีการตั้งสภานิติบัญญัติฯ
พล.อ.ประยุทธ์- ก็พูดไปเมื่อกี้ ไม่ฟังเล่า
ถาม- ฟังแล้วครับ จะมีเมื่อไร
พล.อ.ประยุทธ์- ย้อนกลับไปหาคำถามแรก ตอบไปแล้ว
ถาม- ก็คือ หมายถึงว่าจะมีภายในเร็วๆ นี้ เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งใช่ไหมครับ
พล.อ.ประยุทธ์- ย้อนกลับไปดูคำตอบที่ 1
ถาม- ท่านเป็นนายกฯ เองเลยหรือเปล่าครับ
พล.อ.ประยุทธ์- (เงียบไปสักพัก) อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการอยู่ ยังไม่รู้ ต้องรอดู ใจเย็นๆ
ถาม- ไทม์ไลน์ของทั้งหมดในโรดแมปนี้จะใช้เวลาเท่าไรกว่าจะมีการเลือกตั้ง
พล.อ.ประยุทธ์- จนกว่าเหตุการณ์จะยุติ
ถาม- ผบ.ตอบแบบนี้อาจจะเกิดความเข้าใจว่า เอ๊ะ จะนานแค่ไหน
พล.อ.ประยุทธ์- ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ผมไม่มีกำหนด ไม่กำหนด ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ โดยเร็วที่สุด พอแล้ว