“ประยุทธ์” แจงปรับย้ายตำรวจ-ทหาร ไม่ใช่หยามศักดิ์ศรี แค่ลดแรงกดดันจากสังคม ยันควบคุมตัวบุคคลสำคัญ ไม่ได้ซ้อมหรือทรมาน ไม่เกิน 7 วันปล่อยตัว เว้นคนมีหมายจับจะถูกส่งดำเนินคดี ชี้ปล่อย “โอ๊ค” แล้ว พาส่งบ้าน กทม. วอนทุกฝ่ายร่วมมือ คสช. ย้ำไม่ได้ทำเพื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เพื่อให้ชาติเดินหน้าต่อไปได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 พ.ค) เมื่อเวลา 07.20น. ที่เฟซบุ๊ก Wassana Nanuam ของ น.ส.วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหาร กล่าวอ้างว่า พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษก ทบ.ได้เผยแพร่คำชี้แจงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.และหัวหน้า คสช. ต่อการปฏิบัติการต่างๆ ของ คสช. ตามข้อความดังนี้
“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.และหัวหน้า คสช. ชี้แจงเรื่องการปรับย้ายการปฏิบัติหน้าที่ของพลเรือนตำรวจ-ทหารว่า ยืนยันมิได้เป็นการลดทอนในเกียรติยศศักดิ์ศรีของบุคคลหรือหน่วยงานใด แต่จำเป็นต้องลดความกดดันที่มีต่อกลุ่มบุคคลดังกล่าว
สำหรับตำแหน่ง ผบ.ตร.ผู้ทื่จะมารักษาการแทนก็มาจากรอง ผบ.ตร.ซึ่งมีลำดับอาวุโสอันดับ 1 ทั้งหมดก็เพื่อให้เกิดความไว้วางใจจากสังคมและประชาชน อยากให้เห็นใจผู้ที่ถูกปรับย้ายการปฏิบัติหน้าที่ และงดที่จะแสดงออกถึงการดูถูกเกลียดชังกัน เพราะท่านเหล่านั้นไม่ได้มีความผิดใดๆ ขอให้ถือว่าเป็นการปรับย้ายเพื่อให้เกิดความเหมาะสมต่อสถานการณ์ในห้วงปัจจุบัน อยากฝากให้ทุกคนได้ให้ความร่วมมือกับผู้ที่มารักษาการแทนด้วย”
ส่วนเรื่องการควบคุมตัวบุคคลผู้ที่ถูกเรียกรายงานตัวนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เพื่อทำความเข้าใจในข้อขัดแย้ง และให้ชี้แจงข้อเท็จจริงหลังการปฏิบัติของแต่ละพวกแต่ละฝ่าย และเพื่อเสาะหาข้อเท็จจริง โดยได้จากสถานที่ดูแลที่เหมาะสม มิได้มีพันธนาการ ซ้อม ทรมานแต่อย่างใด ให้เกียรติทุกคน โดยให้เห็นถึงความจำเป็นว่าต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาบ้านเมืองในขณะนี้ ขณะนี้ได้ทยอยปล่อยกลับบ้านแล้วเป็นจำนวนมาก โดยการควบคุมตามกฎหมายไม่เกิน 7 วัน บางคนได้ปล่อยไปในวันแรกๆ แล้ว โดยได้จัดลำดับจำนวนวันในการควบคุมตัวตามความสำคัญของแต่ละบุคคลซึ่งจะได้รายงานให้ทราบเป็นระยะ
สำหรับผู้ที่ถูกควบคุมที่มีหมายจับหรือมีคดีติดตัว จะได้นำเข้ามอบตัวเพื่อดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป เริ่มตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า มีจับกุมอาวุธสงครามได้จำนวนมาก และยังคงจะต้องดำเนินการต่อไปเรื่อยๆ เพื่อเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อย
“อยากขอให้ประชาชนทุกภาคส่วน หลีกเลี่ยงการใช้ชุมนุมประท้วงต่อต้าน เพราะในขณะนี้กระบวนการประชาธิปไตยทำไม่ได้เป็นปกติ”
“คสช.มิได้มุ่งหวังทำเพื่อประโยชน์ผู้หนึ่งผู้ใด แต่เพื่อคืนความสุขให้คนไทยทุกคน และจะนำไปสู่การสร้างความมั่นใจในเสถียรภาพจากต่างประเทศ เพื่อเดินหน้าต่อไป”
“ขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่พลเรือนตำรวจทหารทุกคน ได้อดทนเสียสละและยอมรับในหลักการ การขจัดข้อขัดแย้งของประเทศอาจมีผลกระทบต่อองค์กรอยู่บ้าง ต้องร่วมมือช่วยกันต่อไป มิฉะนั้นเราจะกลายเป็นรัฐที่ล้มเหลว ทุกคนไม่มีความสุข”
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ผู้ที่อาศัยโซเชียลมีเดียในการยุยงปลุกปั่น ขอให้หยุดการกระทำดังกล่าว เพราะไม่ได้เกิดประโยชน์ต่อใครเลย ขอให้สื่อลดหรือระวังการพูดจา วิพากษ์วิจารณ์ให้ร้ายทุกพวกทุกฝ่าย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหารให้เสียหายโดยเด็ดขาด
สำหรับ นายพานทองแท้ ชินวัตรนั้น เดิมพักอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ หลังจากได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกันจึงได้ส่งให้กลับบ้านในกรุงเทพฯ ตามที่เจ้าตัวประสงค์
“ขอให้เข้าใจ สิ่งที่ผมได้ทำไปนั้นมิได้เกิดมาจากความเกลียดชัง หรือเกิดมาจากความเห็นส่วนตัว แต่ด้วยความจำเป็นที่จะต้องให้งานบริหารราชการ และการรักษาความสงบในห้วงนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้” พล.อ.ประยุทธ์ระบุ