“สุเทพ” วอนอย่าเพิ่งตำหนิ “ประยุทธ์” การันตีเป็นทหารดีของประเทศ เพียงแต่รอเวลาเหมาะสมถึงจะประกาศเลือกข้างประชาชน ลั่นหลัง “ศาล รธน.-ป.ช.ช.” วินิจฉัยเสร็จ ถ้ายังอุ้มรัฐบาล จะไปทวงถามจุดยืนด้วยตัวเอง
วันนี้ (3 เม.ย.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.กล่าวปราศรัยที่เวทีสวนลุมพินี ตอนหนึ่งว่า จากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ว่าตัวเองเป็นลูกจ้างรัฐบาล ทำให้ถูกคนในสังคมออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ตนขออนุญาตพูดตรงนี้ ตนรู้จัก พล.อ.ประยุทธ์ อย่างดี เท่าที่ได้ทำงานกันมาตั้งแต่ปี 2552-2553 จนกระทั่งตนพ้นตำแหน่งรองนายกฯมาแล้ว ก็ยังติดตามดูการทำงานมาตลอด วันนี้เห็นคนจำนวนหนึ่งรุมด่า เพราะการให้สัมภาษณ์วันเดียว
ตนคิดว่าตนมีหน้าที่ที่จะมาพูดถึงความในใจ ไม่ได้มาแก้ตัวแทน เมื่อเราเริ่มการต่อสู้ ตนประกาศนานแล้วว่าสู้คราวนี้เอาแพ้เอาชนะ ไม่มีการเจรจาต่อรองทั้งสิ้น แต่วันหนึ่งตนก็ต้องไปเจรจาเพราะผู้นำ 3 เหล่าทัพ ขอร้องให้ไปพูดกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตนเกรงใจ ผบ.3 เหล่าทัพ เพราะเคยร่วมทำงานกันมาตอนปี 2552-2553 จึงยอมไป ซึ่งตนก็ยืนยันรัฐบาลต้องเอาอำนาจอธิปไตยคืนให้ประชาชน เพราะหมดอำนาจความชอบธรรมทางกฎหมายแล้ว แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ บอกว่าไม่มีกฎหมายที่สามารถคืนอำนาจได้ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าพวกผมไม่เข้าข้างใครทั้งนั้น เพราะไม่รู้ใครถูกใครผิดทางกฎหมาย พวกผมอยู่ข้างประเทศไทย ตนได้ยินอย่างนั้นก็สบายใจ เพราะตามกฎหมายแล้วข้าราชการต้องพูดว่ายืนอยู่ข้างรัฐบาล และถึงแม้จะพูดอย่างนั้นตนก็ไม่โกรธ เพราะเมื่อปี 2552 นปช.ลุกก่อจลาจลในประเทศไทย ล้มการประชุมอาเซียน รัฐบาลอภิสิทธิ์ต้องตัดสินใจประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ตนก็ใช้กองกำลังทหารเข้าคุ้มครองผู้นำประเทศต่างๆ ส่งกลับบ้านอย่างปลอดภัย
วันนั้นตนนัดประชุม ผบ.เหล่าทัพ ตนถามว่าท่านทั้งหลายจะให้รัฐบาลทำอย่างไร รัฐบาลไม่มีกำลัง พล.อ.ประยุทธ์ ในวันนั้นเป็นเพียงเสนาธิการทหารบก ตามกฎระเบียบไม่สามารถพูดอะไรมาก ต้องรอผู้บัญชาการพูด แต่ท่านก็ยกมือแสดงความเห็นว่าเราเป็นทหาร มีระเบียบวินัย เคารพคำสั่งผู้บัญชาการ วันนี้รัฐบาลอภิสิทธิ์ยังชอบด้วยกฎหมาย ฉะนั้นทหารเข้าข้างรัฐบาล ตอนนั้นรัฐบาลจึงร่วมกับทหารเอาพวกเสื้อแดงกลับบ้านได้ โดยไม่มีใครบาดเจ็บล้มตาย หลังจากนั้นปี 2553 เสื้อแดงมาอีก ครั้งนี้เอาอาวุธสงครามมาด้วย เหมือนกรุงเทพฯจะเกิดสงครามกลางเมือง วันนั้นถ้าไม่มีทหารออกมาช่วย เราจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาสถานการณ์ให้กลับสู่ปกติได้ คนสำคัญที่ช่วยวางแผนทำงานร่วมกัน นอกจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ในขณะนั้น อีกคนก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ใครต่อใครกำลังรุมด่าเขาอยู่
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ตนเชื่อว่าทหารขมขื่นใจที่พวกยิงทหารตายในปี 2553 วันนี้ต้องมาเป็นนายพวกเขา และเขาก็ไม่ยอมใช้อำนาจปราบประชาชน ลองนึกดูถ้าวันนั้นทหารเหล่านี้บอกว่าเมื่อรัฐบาลมีอำนาจ ต้องปฏิบัตตามคำสั่ง แล้วพวกเราจะเหลือหรือ ทหารมีระเบียบมีวินัย เราก็ต้องเห็นใจเขา บังเอิญ พล.อ.ประยุทธ์ ไปยกตัวอย่างผิด เลยโดนเล่นงาน ตนบอกเลยว่า พล.อ.ประยุทธ์ และ ผบ.เหล่าทัพ เป็นทหารของแผ่นดิน ไม่มีจิตคิดร้ายกับประชาชน แต่เขาจำเป็นต้องวางตัวให้เหมาะสมกับสถานการณ์
“ผมพูดเรื่องนี้วันนี้ รู้ว่าต้องมีคนบางส่วนหาว่าปกป้อง พล.อ.ประยุทธ์ ผมไม่จำเป็นต้องไปปกป้องทหาร ผมขอความเป็นธรรมอย่าเพิ่งรีบตำหนิ คอยดูกันไปก่อนว่าเขาจะตัดสินใจกันอย่างไร อย่าไปตกเป็นเหยื่อคนเสี้ยม ผมเชื่อว่าทหารเป็นมิตรกับฝ่ายประชาชน ถ้าคิดผิดผมรับผิดชอบเอง ผมการันตีกับพี่น้องทั้งประเทศไทยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และทหารส่วนใหญ่ยืนอยู่ข้างแผ่นดิน ยืนข้างความถูกต้อง ยืนข้างประชาชน รอดูฉากสุดท้ายตอนจบ อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจ” นายสุเทพ กล่าว
เลขาธิการ กปปส.กล่าวด้วยว่า ถึงวันศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชัดเจนว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำผิด คดีย้ายนายถวิล หรือวันที่ ป.ป.ช.ชี้มูลเรื่องจำนำข้าว วันนั้นถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ยังยืนข้าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตนจะไปหา พล.อ.ประยุทธ์ เอง และหากถึงวันที่เราประกาศเป็นรัฏฐาธิปัตย์แล้วไม่มีทหารมายืนข้างเรา ตนจะยินดีไปมอบตัวต่อ พล.อ.ประยุทธ์ ยอมติดคุกไปเลย ฉะนั้นตอนนี้อย่าไปสมทบขบวนการติเตียนเขา
