“สุเทพ” นัดตัวแทน กปปส.ทั่วประเทศถกทิศทางเคลื่อนไหว พรุ่งนี้ (22 พ.ค.) เวลา 11.00 น. ออกโรงโต้ “จาตุรนต์” แทน “ประยุทธ์” ย้ำชื่นชม ผบ.ทบ. กล้าแบกรับปัญหาชาติ เรียกร้องมวลมหาประชาชนออกมาชุมนุมให้มากที่ราชดำเนิน 23 -25 พ.ค. โดยยกเลิกที่ถนนสุขุมวิท พร้อมเผยเชิญ นปช. ร่วมแก้ปัญหาประเทศ กลางวงถก กอ.รส. ลั่นต้องเปิดใจกว้าง
วันนี้ (21 พ.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ปราศรัยบนเวทีราชดำเนินนอก ว่า เชิญชวนประชาชนมาร่วมชุมนุมตั้งแต่วันที่ 23-25 พ.ค.เวลา 17.00-21.00 น. ที่ถนนราชดำเนิน โดยยกเลิกการชุมนุมบนถนนสุขุมวิทที่เคยนัดหมายไว้ เพื่อให้เป็นไปตามคำสั่ง กอ.รส. ส่วนในวันที่ 26 พ.ค.จะประกาศชัยชนะที่สนามหลวง เวลา 19.00 น.ตามเดิม และในวันพรุ่งนี้ (22 พ.ค.) ก่อนจะเดินทางไปหารือกับกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) จะนัดหมายตัวแทน กปปส.และเครือข่าย กปปส.ทั่วประเทศมาประชุมที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในเวลา 11.00 น.
นายสุเทพยังกล่าวถึงการไปร่วมประชุมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่ กอ.รส.ว่า พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อที่ประชุมให้ทุกฝ่ายซึ่งล้วนมีความสำคัญต่อบ้านเมือง ให้ช่วยกันแสดงความคิดเห็นในการแก้ไขปัญหาประเทศชาติ ที่กำลังวิกฤตขณะนี้ ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้แจ้งให้ทราบต่อที่ประชุมถึงการตัดสินใจใช้ พ.ร.บ.กฎอัยการศึก เพราะต้องการยุติเหตุการณ์ร้ายแรงที่กำลังขึ้น ถ้าไม่ทำก็จะเกิดปัญหารุนแรงบานปลายในบ้านเมือง เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ดังนั้นจึงไม่มีทางเลือกอื่น และในฐานะที่เป็นทหารต้องการให้บ้านเมืองกลับคืนความสงบสุขโดยเร็ว จึงไม่ยอมให้เหตุการณ์อย่างนี้ขยายตัวไปจนถึงวันเกษียณอายุ ต้องทำให้สงบให้ได้ อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ยังขอร้องให้คณะที่เข้ามาร่วมประชุมวันนี้ช่วยกันแสดงความเห็นเพื่อหาทางออกให้บ้านเมือง เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง โดยจะนั่งฟังไม่ตัดสินอะไรทั้งสิ้น
นายสุเทพกล่าวถึงกรณีที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ โพสต์เฟซบุ๊กกรณี ผบ.ทบ.เชิญคณะบุคคลไปร่วมประชุม โดยแสดงความเห็นว่าทหารไม่เหมาะกับการแก้ไขปัญหาทางการเมือง รวมถึงการออกกฎอัยการศึกที่จำกัดสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่นายจาตุรนต์เขียนมา และอยากถามว่าที่มีวิกฤตทางการเมืองต่อเนื่องมา 7 เดือน และนับวันยิ่งรุนแรงขึ้น ขณะที่มวลมหาประชาชนเรียกร้องผู้ใหญ่บ้านเมืองออกมาแก้ไขรับผิดชอบ ที่ผ่านมาไม่มี แต่เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ออกมาแสดงความรับผิดชอบ แบกภาระเรื่องดังกล่าว จึงอยากถามว่าผิดตรงไหน ส่วนตัวขอชื่นชมเพราะเสี่ยงและกล้าเอาปัญหามาแบก โดยคนฝ่ายอื่นไม่กล้าออกมาแบกรับปัญหา ดังนั้นการไปกล่าวหา ผบ.ทบ.สับสน ที่จริงคือนายจาตุรนต์ และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดนี้สับสน
“ผมเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่สับสน เข้าใจสถานะดี แต่ที่ต้องทำเพราะสถานการณ์รุนแรง มีการขนอาวุธมาทำสงคราม ซึ่งกระทบความมั่นคงบ้านเมือง หากไม่ออกคนก็จะมาตำหนิ นายจาตุรนต์ นั่งอยู่แต่ใน ครม. มีคนเอาปืนมายิงประชาชนบาดเจ็บไป 700 คน เสียชีวิต 22 คน แต่ไม่เคยออกมาพูดว่าต้องรับผิดชอบอย่างไร ต้องตำหนิว่าเป็นคนใช้ไม่ได้” นายสุเทพ กล่าว
นอกจากนี้ การที่บอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่มีอำนาจเรียกประชุม แต่เมื่อมีการประกาศกฎอัยการศึก ถือว่ามีอำนาจเต็มที่ เหนือกว่าพลเรือน และประชาชน ในการเรียกประชุม ดังนั้น จะมากล่าวหาไม่ได้ อย่ามาคิดว่าตัวเองมีอำนาจเหนือกว่าคนอื่น ส่วนการที่นายจาตุรนต์บอกว่าเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชน ส่วนตัวก็ไม่เห็นด้วยกับการปิดบลูสกาย แต่เข้าใจ เพราะโทรทัศน์บางช่องปลุกระดมให้คนฆ่ากันทุกวัน จึงจำเป็นต้องปิด และที่พูดทั้งหมดคือตัวอย่างบิดเบือนทำให้บ้านเมืองยุ่งเหยิง เพราะมีนักการเมืองแบบนี้
นายสุเทพกล่าวอีกว่า ใครก็ตามที่อาสามาแก้ไขปัญหาบ้านเมือง สมควรที่เราต้องให้ความร่วมมือทั้งสิ้น วันนี้ไม่ได้ตัดสิน นั่งฟังอย่างเดียว เพียงแต่การประชุมยังไม่จบ ประชุมต่อพรุ่งนี้ และใครที่พูดอย่างไรต่อที่ประชุมอย่านำไปเผยแพร่ ให้เก็บไว้ในที่ประชุม เพราะยังไม่ยุติ ตนเลยไม่พูดวิจารณ์ข้อเสนอคนอื่น มีหน้าที่รายงานต่อมวลมหาประชาชน ตนและคณะไปเสนออะไรที่ประชุม
ทั้งนี้ ได้รายงานต่อที่ประชุมเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าประเทศไทยวันนี้ไม่มีนายกฯ และรัฐบาลมารับผิดชอบการบริหารประเทศ ทำให้เกิดความเสียหายรุนแรงต่อประเทศชาติ เพราะฉะนั้น ข้อเสนอแรก 1. มีนายกฯ ซึ่งมีอำนาจเต็มมาแก้ไขปัญหา เช่น ชาวนา รวมถึงปัญหาอื่น เศรษฐกิจที่กำลังจะรุนแรงขึ้น จำเป็นต้องมีรัฐบาลและนายกฯ อำนาจเต็ม 100% 2. เมื่อได้นายกฯ ต้องตั้ง ครม.ที่ไม่มีฝ่ายการเมืองและนักการเมืองอยู่ 3. นายกฯ และ ครม. ต้องรีบปฏิรูปประเทศตามเจตนารมณ์ของประชาชน และ 4. เชิญฝ่าย นปช. กลางที่ประชุมให้มาร่วมกันแก้ไขปัญหาประเทศ โดยให้ฝ่ายการเมืองถอยไปก่อน ส่วนตัวคิดว่าที่เสนอไปคงตรงใจประชาชน และการประชุมพรุ่งนี้จะยืนยันตามข้อเสนอเดิม
“เราประชาชนต้องพร้อมเปิดใจกว้าง ยอมรับการพยายามแก้ปัญหาของฝ่ายข้าราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร ที่ออกมาแสดงตัวชัดเจน เราเรียกร้องตลอดว่าทุกคนในบ้านเมืองออกมาช่วยกันทำหน้าที่ความเป็นคนไทยเจ้าของประเทศ ก็สามารถหาทางออกให้กับประเทศได้ ถ้าท่องว่าต้องไปเลือกตั้งประชาชนไม่เอาแล้ว วันนี้การรวมพลังของมวลมหาประชาชนมีความสำคัญที่สุด อย่าคิดว่าชนะแล้ว หนทางเดียวถ้าประชาชนเห็นด้วยกับผม ต้องออกมาร่วมชุมนุมกันหลายๆ ล้านคน ไม่ออกมา ก็จะถูกคนอื่นบิดเบือน หยิบมือเดียว ถ้าเราออกมาน้อยไม่มีความหมาย สำคัญพอเปลี่ยนแปลงประเทศได้” เลขาธิการ กปปส.กล่าว
