“ดร.เสรี” กรี๊ดไม่เคยหนีหมายจับ

ASTVผู้จัดการรายวัน - “เสรี วงษ์มณฑา” ยันไม่เคยหนีหมายจับ ศอ.รส.ไปต่างประเทศ แจงมีกำหนดการเดินทางไว้ล่วงหน้าก่อนมีการออกหมายจับตามมาทีหลัง เผยมีภารกิจไปร่วมงานแต่งงานหลานและนัดแกนนำ กปปส.ในรัฐต่างๆ เพื่อปราศรัยให้ความรู้ อัดกลับคนใจแคบมั่วอ้างคำปราศรัย แจง “สุรชัย” พวกเรานั้นหมายถึงการมีความคิดการปฏิรูปและแก้ปัญหาบ้านเมืองตรงกัน แต่ไม่ได้หมายถึงมาประชุมและวางแผนร่วมกันพร้อมขอโทษที่นำสุรชัยไปวิเคราะห์เอง

รองศาสตราจารย์ ดร.เสรี วงษ์มณฑา เปิดเผยกับ “ASTV ผู้จัดการรายวัน” ทางโทรศัพท์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ดร.เสรีหนีหมายจับ ศอ.รส.ว่า ไม่เป็นความจริง เพราะได้มีการวางแผนการเดินทางไปต่างประเทศไว้ล่วงหน้าแล้ว แผนการเดินทางนี้ได้มีกำหนดเดินทางมาล่วงหน้าเป็นเดือนๆ แล้ว ได้กำหนดภารกิจของการเดินทางไว้หลายเรื่อง ประการแรกเพื่อไปร่วมงานหลานชายที่จะทำพิธีแต่งงานซึ่งกำหนดวันไว้วันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้จองตั๋วเครื่องบินไว้ตั้งแต่ก่อนเดือนเมษายน ก่อนช่วงสงกรานต์ และได้ออกตั๋วเครื่องบินเพื่อเตรียมเดินทางในช่วงปลายเดือนเมษายนแล้ว

ในระหว่างที่กำลังจะเดินทางออกไปตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม ตอนนั้นยังไม่มีหมายจับ ถ้ามีหมายจับจะเดินทางออกไปนอกประเทศได้อย่างไร ทั้งนี้ หมายจับที่ออกมาในวันที่ 14 พฤษภาคม จึงเป็นการออกหมายมาทีหลัง ดร.เสรีได้เดินทางการออกไปก่อนที่จะออกหมายจับ จึงไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นการหนีหมายจับ

ประการที่ 2 ในการเดินทางไปสหรัฐฯ ครั้งนี้ได้นัดกับแกนนำ กปปส.ในรัฐต่างๆ หลายรัฐที่จะไปปราศรัยเพื่อให้ความรู้ซึ่งต่อมาเมื่อทราบว่ามีเรื่องการออกหมายจับ ก็ได้โทร.ปรึกษาทนายเพื่อหารือเรื่องการมอบตัว ซึ่งทนายได้กำหนดวันกลับมาเมืองงไทยเพื่อมามอบตัวในวันที่ทนายสะดวก

“ไม่เคยคิดที่จะหนีแต่อย่างใด เพราะมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดตามข้อกล่าวหา โดยเฉพาะคำว่ากบฏ”

ดร.เสรีกล่าวต่อโดยยืนยันว่าสิ่งทำไปก็คือ การเป็นวิทยากรให้ข้อมูลแก่มวลมหาประชาชน มีทั้งข้อเท็จจริงและการวิเคราะห์แยกผิดแยกถูกตามหลักจริยธรรมและธรรมาภิบาลแก่มวลมหาประชาชนที่ชุมนุมกันอย่างสงบ สันติ ปราศจากอาวุธ ตามสิทธิที่ให้ไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 69

สำหรับเนื้อหาที่ปราศรัยนั้นได้พูดถึงการเลือกประธานวุฒิสภาสมาชิก และบอกว่าท่านสุรชัยชนะจงรัก ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะท่านสุรชัยได้คะแนนถึง 96 คะแนนมากกว่า 3 ใน 5 น่าจะเป็นประโยชน์กับการถอดถอน และได้พูดว่าท่านสุรชัยน่าจะอยู่ฝ่ายเรา หรือเป็นพวกเรา หมายความว่าน่าจะมีแนวความคิดตรงกับเรา เรื่องการปฏิรูปและเรื่องปัญหาบ้านเมือง

ดร.เสรีกล่าวย้ำว่า คำว่าเป็นพวกเราไม่ได้หมายความว่า มาประชุมร่วมหรือมาวางแผนร่วมแบบการสมคบคิดแต่อย่างใด การที่มีคนเอาไปฟ้องว่าท่านสุรชัยไม่เป็นกลางเพราะคิดเหมือนกับมวลมหาประชาชนนั้น ดูเหมือนจะเป็นการหาเรื่องของคนใจแคบที่จะไม่ยอมให้ใครมีจุดยืนเลย เพราะกลัวว่าการแสดงจุดยืนจะเป็นการไปยืนตรงกันข้ามกับระบอบทักษิณ

“คำว่าเป็นกลางน่าจะหมายถึงการวิเคราะห์อย่างเป็นธรรม ไม่ลำเอียงด้วยความรักความชัง แต่ไม่ได้หมายความว่าแสดงจุดยืนไม่ได้ ถ้าวิเคราะห์อย่างเที่ยงธรรมแล้ว ย่อมสามารถแสดงจุดยืนได้ว่าเป็นเรื่องที่วิเคราะห์นั้นผิดถูกอย่างไร และแสดงจุดยืนได้”

ส่วนกรณีที่ไปพูดว่าสุรชัยเป็นฝ่ายเราและเขาต่อว่ามานั้น ไม่โกรธเลย ที่จริงแล้วเราต้องขอโทษนายสุรชัยที่เราไปนำเหตุการณ์มาวิเคราะห์ของเราทำให้เขาเดือดร้อน เขาจะด่าจะว่าอะไรจะไม่โต้แย้ง ถือเป็นความเข้าใจผิดของเราเอง

ทั้งนี้ ขอยืนหยัดต่อสู้เพื่อประเทศชาติร่วมกับมวลมหาประชาชนต่อไป จะไม่หนีไปไหน หากเสร็จภารกิจและเดินทางมาถึงเมืองไทยจะเดินทางไปมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่